Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 13 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของ ระบบทางเดินปัสสาวะ…
บทที่ 13 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาของ
ระบบทางเดินปัสสาวะ ระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
(2)
13.2 Nephro: Non infection : ARF ,CRF
ไตบาดเจ็บเฉียบพลัน(acute renal failure : ARF)
(acute kidney injury : AKI)
เกณฑ์การวินิจฉัย
เกณฑ์ด้านอัตราการกรองของเสียของไต (GFR criteria)
เกณฑ์ Acute Kidney Injury Network (AKIN)
สาเหตุของไตบาดเจ็บเฉียบพลัน
1. Prerenal acute renal failure
ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงไตหรือการก าซาบของเนื้อเยื่อไต(renal perfusion) ลดลง
ความดันต่ำ (hypotension)
ปริมาณสารน้ำในร่างกายน้อยกว่าปกติ (hypovolemia)
ภาวะหัวใจวายเลือดคั่ง (congestive heart failure)
และโรคตับแข็ง (cirrhosis)
เมื่อแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิด
Prerenal acute renal failure
ได้จะท าให้ไตกลับมาท าหน้าที่ได้ดังเดิม
อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้เซลล์และหลอดฝอยของไตตาย เกิดภาวะ acute tubular necrosis (ATN)
สารพิษและยาที่มีผลต่อไต (nephrotoxins) ตัวอย่าง เช่น
NSAID
2. Post renal acute renal failure
การอุดตันทางเดินปัสสาวะ (obstructive
uropathy)
3.Intrinsic acute failure
หมายถึง โรคที่เกิดจากเนื้อไตเอง
การตรวจร่างกายตามระบบ
ผิวหนัง
ตรวจดูสีผิว ความยืดหยุ่นของ
ผิวหนัง มีผื่นคัน เพราะผู้ป่วยที่มีการคั่งของยูเรีย
ทรวงอกและทางเดินหายใจ
กลิ่นลมหายใจ
จะมีกลิ่นยูเรีย
หัวใจและหลอดเลือด
อาจพบความดันโลหิต
ต่ำในระยะแรกต่อมาจะมีความดันโลหิตสูง ร่วมกับภาวะ arrhythmia
ทางเดินอาหาร
อาจพบปากอักเสบ
รับประทานอาหารได้น้อย คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืด อุจจาระร่วง หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด ๆ
ทางเดินปัสสาวะ
อาจตรวจพบจ านวนปัสสาวะ
ใน 24 ชม. พบว่าน้อยกว่า 400 มล.
ระบบประสาท
สับสนซึม ชัก
หรือหมดสติได
การตรวจปัสสาวะ
sp–qr. สูงมากกว่า
1.025
การตรวจเลือด
มักพบ Na, K สูงมากในเลือด
ซึ่งมักมีสาเหตุจากภาวะขาดน้ำ ร่วมกับค่าBUN, Cr. สูงขึ้น
การตรวจทางรังสีวิทยา
การทำ Plain KUB
ผลกระทบของไตบาดเจ็บเฉียบพลัน
• ทำให้การขับ Na ,K กรดและน้ำลดลง
• มีภาวะ K ในเลือดสูง
• ภาวะแทรกซ้อนทางสมอง (ซึม ชัก)
• ภาวะเลือดออกง่าย
• เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis)
• ภาวะติดเชื้อง่าย
การป้องกันภาวะไตบาดเจ็บเฉียบพลัน
การประเมินหาปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วย
การให้สารน้ำ
การใช้ยาป้องกัน
การรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะไตบาดเจ็บเฉียบพลันจากสาเหตุก่อนไต
ต้องพยายามเพิ่ม การกำซาบที่ไต (renal
perfusion)
อาจจะพิจารณาให้ยาขับปัสสาวะร่วมด้วย
ข้อควรระวังอย่าให้สารน้ำมากจนเกิดภาวะน้ำเกิน
พยาบาล ต้องประเมิน
การรักษาแบบประคับประคอง (Conservative
treatment)
สารน้ำและสารอิเลคโตรลัยท์ (Fluid and Elyte)
1.1 ในระยะที่มีปัสสาวะออกมาน้อย
อาหาร (Diet)
ต้อกัดอาหารพวกโปรตีน
การรักษาด้วยการท าไดอะลัยสิส (Dialysis)
Nursing Care in AKI:
• Fluid Management
• Metabolic Acidosis Management
• Electrolyte Management
• Immune System Management
• Nutritional Management Patient Education
ไตเรื้อรัง
(chronic kidney disease)
ผลการตรวจเลือดพบ ครีเอตินิน (creatinin) มากกว่า3 มก./ดล. เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง หมายถึง ผู้ป่วยที่มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งในสองข้อต่อไปน
ผู้ป่วยที่มีภาวะไตผิดปกตินานติดต่อกันเกิน 3 เดือน
1.1 ตรวจพบความผิดปกติจากการตรวจปัสสาวะอย่างน้อย 2 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน ดังต่อไปนี้
ผู้ป่วยเบาหวานที่ตรวจพบ microalbuminuria
ผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็นเบาหวานที่ตรวจพบ proteinuria มากกว่า 500 มก./วันหรือตรวจพบUrine protein creatinine ratio (UPCR) > 500 mg/g หรือ Proteindipstick ≥ 1+
ตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ (hematuria)
1.2 ตรวจพบความผิดปกติทางรังสีวิทยา
1.3 ตรวจพบความผิดปกติทางโครงสร้างหรือพยาธิสภาพจากผลการเจาะเนื้อเยื่อไต
ผู้ป่วยที่มี GFR น้อยกว่า 60 มล./นาที/1.73 ตารางเมตร ติดต่อกันเกิน 3 เดือน
สาเหตุของไตเรื้อรัง
กลุ่มอาการเนฟโฟติคกลายเป็นหลอดเลือดฝอยไตอักเสบเรื้อรัง (chronic glomerulo nephritis)
กรวยไตอักเสบเรื้อรัง (chronic pyelonephritis)
โรคหลอดเลือด ได้แก่ หลอดเลือดแดงที่ไตตีบ (renal artery stenosis)ความดันโลหิตสูงไม่ทราบสาเหตุ (essential hypertension)
มีความผิดปกติของไตแต่ก าเนิด (polycystic kidney)
การอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในไต, ภาวะแคลเซียมสูงในกระแสเลือด ต่อมลูกหมากโต
โรคที่มีผลทั่วระบบ (systemic disease) เช่น เอส.แอล.อี (SLE) โกลเมอรูลัสเสื่อมจากโรคเบาหวาน (glomerulosclerosis) เมลิออยโดสิส (meloidosis) มัลติเพิลมัยอิโลมา (multiplemyeloma) โปตัสเซียมต่ำจากไตพิการ (hypokalemic nephropathy) เป็นต้น
อาการและอาการแสดง ๏ อาการที่เกี่ยวข้อง
•อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
•อาการอื่นที่อาจพบร่วม คือ ซึม ลง มึนงง
•นอนไม่หลับหรือหลับแล้วฝันร้ายบ่อยๆ
•เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน การรับรสของลิ้นเปลี่ยนแปลงไป
•น้ าหนักลด ชาตามปลายมือปลายเท้า คันตามตัว
•รู้สึกหนาวง่ายกว่าปกติ
•ปวดแสบปวดร้อนบริเวณเท้า ปวดศีรษะ พูดไม่ชัด เป็นต้น
โรคไตระยะสุดท้าย
End State Renal Disease (ESRD )
ลักษณะทางคลินิก CKD (Clinical manifestations)
ความผิดปกติในภาวะสมดุลของสารเคมี อิเลคโตรลัยต์ และสารน้ำซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเสื่อมหน้าที่ของไต
ความเปลี่ยนแปลงในการทำหน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
ผลกระทบของภาวะไตเรื้อรังระยะสุดท้าย
• ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ความดันโลหิตสูง
ภาวะหัวใจล้มเหลว
ความดันโลหิตสูง
ภาวะน้ าและโซเดียมในร่างกายสูงมากเกินไป
ภาวะโลหิตจาง
อาจพบได้ในผู้ป่วยที่รักษาด้วยเครื่องไตเทียม
ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
ระบบทางเดินหายใจ
ที่พบบ่อยคือ น้ำท่วมปอด ปอดอักเสบ
ระบบประสาท
ระบบประสาทส่วนกลาง
อาการปวดศีรษะอ่อนเพลีย นอนไม่ค่อยหลับใน
เวลากลางคืน แต่มักง่วงซึมในเวลากลางวัน
ระบบประสาทส่วนปลาย
restless leg syndrome
ระบบทางเดินอาหาร
นอกจากนี้ผู้ป่วยหายใจได้กลิ่นปัสสาวะ
(uremic fetor)
ระบบเลือดและอวัยวะรับเลือด
ที่พบบ่อย คือ ภาวะโลหิตจาง ภาวะ
เลือดออกง่าย และความต้านทานโรคต่ำ
ภาวะต้านทานต่อโรคต่ำ
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากภาวะยูรีเมีย อาจพบว่า
กล้ามเนื้ออ่อนแรง เจ็บปวดข้อ กระดูกผุ กระดูกพรุน
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กล้ามเนื้อ ข้อ
กระดูก
มีผลให้ฟอสเฟตคั่งค้างในเลือดมาก ร่วมกับ
ระดับแคลเซียมสูงขึ้นรวมตัวกันเป็นแคลเซียมฟอสเฟต มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ผู้ป่วย ลุกนั่งเดินลำบาก
ผิวหนัง
ผิวหนังจะแห้งตกสะเก็ด
ความไม่สมดุลของสารอิเลคโตรลัยท์และความ
เป็นกรด
มีภาวะความเป็นกรดสูง
มีโปตัสเซียมสูง แคลเซียมต่ำ ฟอสเฟตสูง
โซเดียมอาจสูงหรือต่ำ
ต่อมไร้ท่อ
ผู้ป่วยจะมีอาการของต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ เช่น
ต่อมไธรอยด์ พิทูอิตาลีพาราไธรอยด์ พบว่าทำให้เด็กเติบโตช้า
ตา
มักพบตามีสีแดง (red eye syndrome) เนื่องจาก
แคลเซียมไปเกาะเยื่อบุตา
ระบบสืบพันธุ์
เกิดความรู้สึกทางเพศลดลง
เป็นหมัน
ในเพศหญิงไม่มีประจำเดือนหรือมาไม่สม่ำเสมอ
หลักการการรักษา
1.การรักษาเฉพาะเจาะจงตามชนิดของโรคไตเรื้อรัง เช่น คุมระดับ น้ำตาลในเลือดในกรณีเป็นเบาหวาน กำจัด นิ่วในระบบทางเดิน ปัสสาวะ เป็นต้น
2.ประเมินและรักษาโรคหรือภาวะอย่างอื่นที่พบร่วมด้วย
3.ชะลอการเสื่อมของไต
4.ป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด
5.ป้องกันและรักษาผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากการท างานของไตลด ลง
6.เตรียมผู้ป่วยส าหรับกรณีไตวายเรื้อรัง รวมถึงเตรียมการรักษาทดแทน ไต
7.การรักษาทดแทนไต (Renal replacement therapy – RRT) เช่นการล้างไต (dialysis) หรือการปลูกถ่ายไต เมื่อมีอาการจากภาวะยูรีเมีย
การรักษาไตเรื้อรัง
จะเน้นเรื่องการรักษาแบบประคับประคอง
เพื่อดำรงคงไว้ซึ่งหน้าที่ของไต
รักษาตามอาการของผู้ป่วย
ป้องกันไม่ได้เกิดภาวะแทรกซ้อนกับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย
อาหาร (diet intervention)
ให้สารอาหารทดแทน และพลังงานที่เพียงพอแก่ร่างกาย โปรตีน
งดไข่แดง นม หลีกเลี่ยงโปรตีนที่มาจากพีช เนื่องจากมีฟอสฟอรัสมาก
ขณะฟอกเลือด
•ร่างกายจะสูญเสียสารอาหารโปรตีน
•หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป
•หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป
ยา (Medication therapy)
ยาที่ใช้บ่อย คือ ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ยาระบาย ยาแก้อาเจียน ยาแก้คัน ยาเกี่ยวกับหัวใจ ยาแก้ไขภาวะโปตัสเซียมสูง
ยา (Medication therapy)
ให้แคลเซียมไบคาร์บอเนต
การบำบัดทดแทนไต
(renal replacement therapy; RRT)
1.การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis)
2.การล้างไตทางหน้าท้อง (peritoneal dialysis)
3.การผ่าตัดปลูกถ่ายไต (kidney transplantation)
CAPD
มีการเปลี่ยนน้ ายาล้างไตวันละ 4 วงจร ( 4 ครั้ง/วัน )
โดยตั้งแต่ปล่อยน้ ายาใหม่เข้าช่องท้อง ทิ้งค้างไว้นาน4-6 ชม. เมื่อครบเวลาก็ปล่อยน้ ายาออก นับเป็น 1 วงจร (ถ้าเป็นถุงคู่ก็จะปลดถุงทิ้งเหลือเฉพาะสายแต่ถ้าเป็นถุงเดี่ยวก็จะมีถุงเปล่าติดตัวอยู่หลังปล่อยน้ ายาเข้าท้อง )
ข้อห้ามในการทำการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง
มีภาวะที่ขัดขวางการไหลของน้ำยาล้างไต
2.ผู้ป่วยที่มี Ileostomy, Nephrostomy,Ileal
conduit
ผู้ป่วยที่มีภาวะปวดเรื้อรัง Degenerative disc
disease
4.มีการติดเชื้อที่ผิวหนังทางหน้าท้องทางช่องท้อง
5.น้ าหนักตัวในผู้ป่วยที่มีน้ าหนักตัวมากกว่า
100 กิโลกรัม
ผู้ป่วยมีความผิดปกติของลำไส้
ในผู้ป่วยที่มี abdominal prosthesis
ควรรออย่างน้อง 6 สัปดาห์ ก่อนการเริ่มล้างไต
ภาวะแทรกซ้อนจากการทำการล้างไตทางช่องท้องอย่างต่อเนื่อง
ภาวะติดเชื้อ
ภาวะแทรกซ้อนจากการใส่สายล้างไตทางช่องท้อง (mechanical complication)
ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ e,lyte imbalance น้ำเกิน ความดันต่ำสูญเสียโปรตีนทางน้ำยาล้างไต
การพยาบาลผู้ป่วยทำ
continuous ambulatory peritoneal dialysis (CAPD)
ท่อล้างไต (Catheter) หรือ
สายเท้งคอลฟ (Tenckhoff Catheter)
เป็นท่อซิลิโคน เส้นผ่านศูนย์กลางใกล้เคียงกับขนาดของแท่งดินสอ
ใช้เป็นช่องทางสำหรับการผ่านเข้า - ออกของน้ำยาพีดี มีรูเปิดเล็กๆ จำนวนมากรอบปลายท่อฝั่งที่อยู่ภายใต้ช่องท้อง เพื่อช่วยให้น้ำยาพีดีไหลผ่านเข้า – ออกได้สะดวก ที่ปลายอีกข้างหนึ่งของท่อล้างไตทางช่องท้อง
มีปลอกหุ้มเป็นปุยสีขาว (คัฟฟ์) จำนวน2 ปลอก ไว้ส าหรับตรึงท่อไม่ให้ขยับ
การฝังท่อล้างไต
การฝังท่อโดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดผนังช่องท้อง
การฝังท่อโดยการผ่าตัด (Surgical)
การดูแลสาย (Tenckhoff)
ารดูแลบริเวณที่ใช้สายคาในช่องท้อง (Tenckhoff) หรือช่องทางออกของสาย (Exit site) ภายหลังวางสาย มีวิธีการดูแลดังน
หลังจากใส่สาย CAPD ควรปิดแผลด้วยก๊อสแห้งหลายชั้น และไม่ต้องเปลี่ยนถ้าไม่มีเลือดซึมหรือน้ ายารั่ว หรือไม่มีอาการแสดงของการติดเชื้อ
ไม่ต้องเปลี่ยนแผลเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ยกเว้นมีเลือดซึม ปวดแผลมากขึ้น มีไข้หรือน้ำยารั่ว ถ้าผู้ป่วยมีเหงื่อออกมากจนเปียกชื้น ให้เปลี่ยนบ่อยขึ้นได้
เปลี่ยนแผลโดยวิธีปราศจากเชื้อ ใช้ก๊อสแห้งธรรมดาปิด ไม่ควรทาน้ ายา โพวิดีน(povidine) ที่แผลช่องทางออกของสาย
ห้ามอาบน้ าเพื่อไม่ให้แผลถูกน้ าจนกว่าแผลจะหายดี ใช้เวลา 2-3สัปดาห์
ยึดตรึงสายด้วยเทปไว้กับส่วนของร่างกาย
หลีกเลี่ยงการยกของหนักขึ้นบันได เบ่งถ่ายอุจจาระ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดไส้เลื่อนให้รับประทานผักและผลไม้
การพยาบาลก่อนทำCAPD
จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนหงายศีรษะสูง
ยึดหลักเทคนิคปราศจากเชื้อในการเปลี่ยนขวดแต่ละรอบ
3.สังเกตลักษณะของน้ำยาไดอะลัยส์ที่ออกจากช่องที่ออกจากช่องท้องผู้ป่วยทุกครั้งว่า ** มีเลือดปน มีเยื่อวุ้น (fibrin) ปนมากับน้ำยาหรือไม่ ถ้ามีลักษณะดังกล่าว ให้ซักถามอาการปวดท้อง ตรวจดูลักษณะแผลการกดเจ็บ
จดบันทึกเวลาและจำนวนน้ำยาไดอะลัยส์เข้าและออก
ชั่งน้ำหนักผู้ป่วยก่อนทำและขณะทำทุกวัน
เจาะเลือดตรวจหา E’ lyte , Urea, Cr ทุก 12 ชั่วโมง
วัดสัญญาณชีพอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
ดูแลกิจวัตรประจำวันแก่ผู้ป่วยและทำความสะอาดร่างกาย
สังเกตอาการและอาการแสดงของปัญหาและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
*
หากน้ำยาไม่ค่อยไหลให้ค่อยๆขยับเปลี่ยนท่า
บันทึกแล้วรายงานแพทย์
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) หมายถึง การที่เอาเลือดออกจากร่างกาย ผสมกับเฮพาริน (heparinized blood) เข้ามายังตัวกรองเลือด (dialysis) โดยไหลอยู่คนละข้างกับน้ ายา
(dialysate) ซึ่งมีเซมิเพอเมียเบิ้ล เมมเบรน (semipermeable membrain) กั้นกลางสารละลาย (solute)
การเตรียมทวารหลอดเลือด
สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
• double lumen catheter
สายสวนเส้นเลือดดำ เพื่อฟอกเลือดชั่วคราวที่คอ(Double lumen venous catheter for temporary access)
ทวารหลอดเลือดชนิดถาวร
(permanent vascular access)
การผ่าตัดต่อเส้นเลือดเทียม (arteriovenous graft, AVG) คือการผ่าตัดใช้เส้นเลือดเทียมเชื่อมต่อระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำบริเวณแขน
การพยาบาลก่อนทำ Hemodyalysis
วัดสัญญาณชีพ
ประเมินความสมดุลของน้ าและสารอิเลคโตรลัยส์
ดูแลการใช้ยาลดการแข็งตัวของเลือด
ประเมินทางด้านจิตสังคม และปัญหาทางระบบประสาท
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การพยาบาลขณะทำ Hemodyalysis
วัดสัญญาณชีพทุก 1 – 2 ชั่วโมง
สังเกตอาการและอาการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ดูแลการทำงานของเครื่องไตเทียมอย่างสม่ำเสมอ
พูดคุยให้คำแนะนำ พร้อมทั้งประเมินสภาพจิตใจของผู้ป่วยขณะทำ
ภาวะแทรกซ้อนที่พบขณะฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในหอผู้ป่วยวิกฤต
Disequilibrium syndrome
Hypotension
Hypoxemia
Bleeding
Electrolyte disturbance
and cardiac arrhythmias
การบำบัดทดแทนไตแบบต่อเนื่อง
(continuous renal replacement therapy: CRRT)
ประโยชน์ของการทำ CRRT
มีการขจัดน้ำและของเสียออกจากผู้ป่วยอย่างช้าๆและต่อเนื่อง
การท า CRRT ขจัดของเสียได้ช้ากว่า intermittent hemodialysis เนื่องจากมีการขจัดของเสียอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมองในระยะยาวแล้ว พบว่าการทำCRRT สมารถท าให้ประสิทธิภาพในการขจัดของเสียได้เทียบเท่าหรือมากกว่า
• ทำให้ปริมาณน้ำ เกลือแร่ และภาวะกรดด่างไม่เปลี่ยนแปลง ขึ้นลงเหมือนกับการทำ intermittent hemodialysis
การพยาบาลผู้ป่วยทำ CRRT
ระยะก่อนการรักษา
การเตรียมพร้อมด้านจิตใจ
การเตรียมพร้อมด้านร่างกาย
การเตรียมอุปกรณ์เพื่อการรักษา
2.ระยะให้การรักษา
บันทึกสัญญาณชีพ
ประเมินอาการแพ้ตัวกรอง อาการหน้ามืด ใจสั่น ปวดหลัง ชาตามปลายมือปลายเท้า
สังเกตอาการกรณีภาวะเส้นเลือดอุดตันจากฟองอากาศ ได้แก่ หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก ภาวะขาดออกซิเจน
Lab สังเกต อาการ E,lyteimba lance
Record I/O
ป้องกันการเลื่อนหลุดของวงจร
ระยะสิ้นสุดการรักษา
เป็นการดูแลสายสวนหลอดเลือดให้สามารถใช้งานได้ในครั้งต่อไปดูแลเหมือนกับ Hemodialysis
ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยจากการทำCRRT
Bleeding อาจเกิดจากได้ heparin มากเกินไป
Thrombosis และ Thromboembosis ภาวะแทรกซ้อนในวงจรเส้นเลือดอุดตันภายในหลอดเลือดแดงใหญ่
Disconnection วงจรของระบบอาจหลุดได้
Air embolism
ภาวะติดเชื้อ
การผ่าตัดปลูกถ่ายไต (Renal transplantation)
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนผ่าตัดปลูกถ่ายไต
การพยาบาลก่อนทำ
เตรียมผู้ป่วย
เตรียมผู้ป่วยผ่าตัด
การพยาบาลขณะทำ
ขณะเข้าห้องผ่าตัด ผู้ป่วยอาจวิตกกังวล กลัว
แปลกสถานที่และบุคคล พยาบาลควรอยู่ใกล้ ๆ กับผู้ป่วยพูดคุยเพื่อลดความกลัว
การพยาบาลหลังผ่าตัด
สังเกตอาการและอาการเปลี่ยนแปลง วัดสัญญาณชีพ
ดูแลการได้รับสารน้ าและอิเลคโตรลัยส์
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
กระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวมีกิจกรรมในระยะแรกหลังผ่าตัด
ดูแลการให้ยากดระบบภูมิคุ้มกัน
ดูแลการรับประทานอาหารของผู้ป่วย
เมื่อผู้ป่วยจะกลับบ้าน
ความรู้เรื่องยา
การจ ากัดอาหารและกิจกรรม
สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะสลัดไต
สังเกตภาวะติดเชื้อ
AKI on top CKD
ไตเสื่อมเฉียบพลัน ในคนที่มีไตวาย
เรื้อรังระยะต้นอยู่แล้ว ส่งผลท าให้ไตวายมากขึ้น รุนแรงขึ้นและรักษายากกว่าปกติบางคนอาจต้องรักษาด้วยการฟอกไตฉุกเฉิน
มะเร็งต่อมลุกหมาก
prostate cancer
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
• อายุ
• ประวัติครอบครัว
• เชื้อชาติ
อาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก
• ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืน
• เวลาเริ่มปัสสาวะจะล าบาก ปัสสาวะไม่พุ่ง
• เวลาปัสสาวะจะปวด
• อวัยวะเพศแข็งตัวยาก เวลาหลั่งเมื่อถึงจุดสุดยอดจะปวด
• มีเลือดในน้ าเชื้อหรือปัสสาวะ
• ปวดหลังปวดข้อ ปวดสะโพก
• อ่อนเพลีย ผอมลง น้ าหนักลด
การรักษา
transurethral resection of the prostate (TURP)
เป็นการตัดต่อมลูกหมากโดยการส่องกล้องผ่านอวัยวะเพศเป็นการตัดชิ้นเนื้อเพื่อให้ปัสสาวะไหลคล่อง
ค่าปกติ BUN Cr
• BUN คือ 7 - 20 mg/dL
• Creatinine คือ
ผู้ชาย 0.70- 1.20mg/dL
ผู้หญิง 0.50 - 0.90 mg/dL
Hemodialysis
Continuous
Ambulatory Peritoneal Dialysis : CAPD
Arteriovenous fistula
Peritoneal Dialysis Catheter
continuous ambulatory peritoneal dialysis (CAPD)