Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

🦴บทที่11การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพ🦴 ระบบกระดกูและกล้ามเนื้อในระยะเฉ…

- - - - -Arthrography
        -Arthroscopy
        -Arthrocentesis
        Bone scan X-RAY OMyelography MRI Electromyography : EMG
    - - Serum calclum
        Serum phosphorus
        Uric acid swaTH Gout
        Serum Proteln electrophoresls
        Alkaline phosphatase
        Serum Lactic dehydrogenase (LDH) TH
        SGOT Skeleton muscle
        (Erythrocyte sedimentatlon rate)
        Serum K NATH
        Skeleton muscle
        Urinary Calclum
    - - •การรักษาด้วยยา
      - •การรักษาด้วยการผ่าตัด
      - •การฟื้นฟูสภาพ
  - - - 👉เก๊าท์ (Gout) เป็นโรคที่มีการอักเสบของข้อชนิดเป็น ๆ หาย ๆ จากการที่มีกรดยูริคในเลือคมากกว่าปกติโดยส่วนใหญ่พบในชายวัยกลางคนและหญิงวัยหมดประจำเดือน
      - พยาธิสภาพสรีรวิทยา
        
        👉เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระดับของกรดยูริคเกิดขึ้นในร่างกายทำให้ผลึกของกรดยูริคเกาะตามข้อรวมถึงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเป็นเหตุให้ข้อเกิดการอักเสบขึ้นชั่วคราวโดยในผู้ป่วย acute gouty arthritis จะมีผลึก micro Crystals ของโซเดียมยูเรตเกาะใน synovial membranes ของข้อส่วนกรณี chronic tophaceous gout จะพบ tophl ที่กระดูกอ่อนของหูและ: รอบ ๆ
        
        สาเหตุ
        
        Primary Gout ชนิดนี้ส่วนใหญ่เกิดกับแท้จริงไม่ทราบแน่ชัดอาจเกิดจากไตไม่สามารถกำจัดกรดยูริคออกได้ตามปกติมีกรดยูริคคั่งในเลือด (hyperurlcemia) หรืออาจจากการที่ร่างกายผลิตกรดยูริคมากเกินไปโรคเก๊าท์ชนิดนี้พบมากที่สุดประมาณร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคเก๊าท์ทั้งหมด
        
        Secondary Gout เกิดในผู้ป่วยที่เป็นโรคที่มีผลิตสารพิวรีน (purine) เพิ่มขึ้นทำให้มีการสังเคราะห์กรดยูริคมากขึ้น
        
        การวินิจฉัย
        
        😽ระยะอักเสบ
        1.1 Colchicine
        1.2 Indometacin
        1.3 Corticosteroid
        😺ช่วงไม่มีการอักเสบ
        2.1 ยาขับกรดยูริค Probenecid, SulfinPyazone
        2.2 Allopurinol
        
        ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
        
        1.ปวดข้อเนื่องจากพยาธิสภาพของโรค-ดูแลให้ผู้ป่วยพักข้อที่มีการอักเสบอักเสบ
        2.มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของภาพลักษณ์
        3.เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะดื่มน้ำมาก ๆ
        4.ขาดความรู้เกี่ยวกับโรคและการรักษาพยาบาล
      - อาการและอาการแสดง
        
        Asymptomatic hyperurlcemla-กรอบ ric ในเลือด> 7 mg / dl อาการของโรคเกาต์
        2.Interval phase gout ช่วงไม่มีอาการ
        
        Acute gouty arthritis-มีอาการอักเสบเกิดขึ้นมักเกิดขึ้นกับข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้า
        4.Chronlc gout-ก้อนผลึก Urate บริเวณใต้ผิวหนังใบหู, ข้อศอก, ข้อเท้าเรียกว่า Trophil
- - - - -การพักข้อ
        -การออกกำลังกาย
        -NSAID
        -DMARD (disease modifying anti rheumatic drug) STEROID
        -การผ่าตัด
      - -Synovectomy เป็นการผ่าตัดเลาะเยื่อบุข้อที่หนาออก Repair soft tissue เป็นการผ่าตัดซ่อมแซมเอ็นกล้ามเนื้อ (tendon) ที่ถูกทำลาย
        -Osteotomy เป็นการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งการลงน้ำหนักของข้อนั้น ๆ
        -Arthroplasty เป็นการผ่าตัดจัดหรือเปลี่ยนข้อ Inai (Joint replacement)
        -Arthrodesls การผ่าตัดเชื่อมข้อให้ติดกัน
      - ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
        
        มีภาวะความเจ็บปวดและขอแข็งเนื่องจากมีการอักเสบของขอและกลามเนื้อ
        
        การเคลื่อนไหวรางกายไมเป็นปกติเนื่องจากความเจ็บปวดและความพิการ
        
        ช่วยเหลือตัวเองไคนอยเนื่องจากความเจ็บปวด / ความพิการ / ความออนเพลีย
        
        อัตมโนเนื่องจากภาพลักษณ์ของตนเองเปลี่ยนไป
        
        การพยาบาล
        
        1.แนะนำใหผูปวยพักข้อ
        2.ประคบควยความรอนและความเย็น
        2.1ในการประคบควยความรอนเปยกควรประคบนาน 15-30 นาทีเพื่อให้กลามเนื้อคลายตัวโดยใช้น้ำอุนหรือพาราฟนอนสำหรับนิ้วมือและมือ
        2.2การใช้ความเย็นประคบเช่นน้ำแข็งควรใช้เมื่อมีอาการบวมแคงของขอซึ่งความเย็นจะช่วยลดอาการบวมและปวด 3.ดูแลนวดเบา ๆ เพื่อให้กลามเนื้อคลายตัวในการนวดไมควรนวดที่ขอโดยตรง
        4.ดูแลใหยาแกปวดและตานการอักเสบตามแผนการรักษาของแพทยและสังเกตอาการขางเคียงของยา
        5.ข้อที่เจ็บควรใส่เครื่องพยุง (splint) ไวเพื่อใหขอนั้นไดพักลดอาการปวด
        6.ดูแลใหผูปวยออกกำลังกายเพื่อใหขอตอตาง ๆ เคลื่อนไหว
        7.ให้ผู้ป่วยออกกำลังแบบ isometric exercise เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกลามเนื้อดูแลใหผูปวยเคลื่อนไหวขอตาง ๆ 1-2 ครั้งทุกวันเพื่อปองกันไม่ใหขอติดและควรดูแลใหเคลื่อนไหวหลังประคบความรอน
        8.หลีกเลี่ยงการจับขอที่อักเสบอยางแรง ๆ
- - - - -ปวดหลังปวดกระดูกเรื้อรัง
        -หลังโก่ง
        -ตัวเตี้ยลง
        -Pathologlc fracture เช่น fracture neck femur, Fx. distal radius X-Ray
        -กระดูกโปร่งขึ้นพบ Pathologic fracture
      - การรักษา
        
        1.Calcium + Vitamin D supplement
        2.Hormonal replacement
        3.Calcitonin
        
        Bisphosphonate
        5.ออกกำลังกาย
        6.หลีกเลี่ยงชากาแฟ
        7.Brace, Orthosis
        8.Surgery-Pathological fracture
- - - - -X-RAY กระดูกคูตำแหน่งปวด
        -MRI ซึ่งการตรวจ MRI นั้นมีข้อดีก็คือสามารถบอกขนาดของมะเร็งที่แท้จริง
        Biopsy โดยปกติมะเร็งกระดูกจะกระจายไปที่ 2 อวัยวะหลักคือ
        
        กระจายไปที่ปอด
        
        กระจายไปที่กระดูกชิ้นอื่น
        -Chest X-ray
        -CT Scan ปอด
        -การทำ Bone Scan เพื่อดูการกระจายของมะเร็ง
      - การรักษา
        
        1.การผ่าตัด Osteotomy ซึ่งเป็นวิธีการรักษาหลักของมะเร็งกระดูกปฐมภูมิเนื่องจากสามารถผ่าตัดก้อนมะเร็งออก
        2.เคมีบำบัด
        3.รังสีรักษา
        
        การพยาบาล
        
        -พยาบาลจะเป็นผู้ที่ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกมีคุณค่าในตนเองมีความหวังกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ในช่วงสุดทายของชีวิต
        -การพยาบาลผูปวยมะเร็งกระดูกตองคำนึงในเรื่องการส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีทัศนคติที่ดีต่อตนเองให้กำลังใจเสริมสร้างภาพลักษณใหผูปวยยอมรับความเศราโศกของผูปวยและญาติสรางสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้ป่วย
- - - - 1.Avulsion Fracture เป็นการหักของกระดูกที่มีสาเหตุมาจากการดึงรั้งของเอ็นกล้ามเนื้อที่ยึดกระดูกนั้นทำให้กระดูกถูกดึงหลุดออกไป
        2.Colles Fracture กระดูกหักบริเวณส่วนปลายด้านล่างของกระดูกเรเดียสมักพบจากการกระแทกเวลาล้มแล้วงอข้อมือ
        3.Comminuted Fracture misri ชิ้นส่วนของกระดูกแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
        4.Compression Fracture การหักของกระดูกที่มีสาเหตุมาจากการที่กระดูกอัดเข้าหากัน
      - การรักษากระดูกหักและข้อเคลื่อน
        
        😶Recognition การวินิจฉัย
        Reduction การจัดกระดูกให้เข้าที่
        Retention การคามกระดูกให้อยู่กับที่
        Rehabilitation การฟื้นฟูสมรรถภาพ
        
        การรักษากระดูกหัก
        
        🤗เป้าหมายคือการกระดูกเชื่อมติดกันในลักษณะที่ใกล้เคียงกับกายวิภาคเดิมมากที่สุดจนเคลื่อนไหวหรือรับน้ำหนักได้เป็นปกติแบ่งออกเป็น 2 วิธีดังนี้
        -การรักษาแบบประคับประคอง (Conservative methods)
        -การรักษาโดยการผ่าตัด (Operational methods)
        Conservative methods
        closed reduction การจัดกระดูกที่หักให้เข้าที่ตามเดิมซึ่งอาจใช้แรงดึงจากภายนอกด้วยมือ (manual manipulation) » Immobilization ให้อวัยวะที่หักนั้นอยู่นิ่ง> Cast การใส่เฝือก> skin หรือ skeletal traction ดึงกระดูกด้วยการถ่วงน้ำหนัก (skin หรือ skeletal traction) เพื่อดึงกระดูกส่วนที่พักให้อยู่ในตำแหน่งหรือมีความยาวใกล้เคียงปกติและช่วยลดอาการปวด
        Operational methods open reduction Internal Fixation External Fixation
        
        การดึงถ่วงน้ำหนัก Traction
        
        🤫หมายถึงการใช้แรงดึงบริเวณแขนขาลำตัวหรือศีรษะโดยใช้น้ำหนักถ่วงส่วนของร่างกายในทิศทางตรงกันข้ามกับแรงดึงของกล้ามเนื้อ
        
        หลักการถ่วงน้ำหนัก Traction
        
        1.Correct body alignment: รักษาแนวของลำตัวให้ถูกต้อง
        2.Counter traction: เป็นการใช้แรงต้านในทิศทางตรงข้ามกับแนวดึงที่เข้า traction เพื่อให้การถ่วงน้าหนักได้ผลดี
        3.Prevent friction: โดยลดแรงเสียดทานโดยดูแลไม่ให้ตุ้มน้ำหนักแตะขอบเตียงพิงเตียงหรือติดพื้นไม่ให้มีปุ่มปมบนเชือกเชือกที่ใช้กิ่งต้องไม่ตกจากรางรอก
        4.Continuous traction: ควรดึงถ่วงน้ำหนักตลอดเวลาไม่ควรปลคตุ้มน้าหนักออกรักษาของแพทย์
        5.LIne of pull: แนวการดึงต้องผ่านตำแหน่งที่กระดูกหักเชือกที่ใช้กิ่งต้องตึงและเหนียวอิสระเสมอ
        6.Position ของผู้ป่วยผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้เท่าที่จำเป็น
        
        การดึงถ่วงน้ำหนัก Traction
        
        😑Skin traction เป็นการดึงถ่วงน้ำหนักผ่านผิวหนังและ soft tissue ไปยังกระดูกโดยอาศัยแรงดึงระหว่างแถบพลาสเตอร์เหนียว (adhesive tape) กับผิวหนังเช่นผู้ป่วยที่กระดูกต้นขาส่วนคอหัก (fracture neck of femur) ใช้ดึงชั่วคราวก่อนการผ่าตัดใส่โลหะยึด
        
        🤓ข้อห้ามในการ On Skin traction Abrasion wound Lacerated wound Impairment of blood circulation กระดูกหักแบบเกยกันมาก ๆ Dermatitis Compartment Syndrome
        
        😐Skeletal traction เป็นการดึงถ่วงน้ำหนักโดยตรงที่กระดูกด้วยแท่งโลหะขนาดใหญ่ (pins) สกรู (Screws) ลวดขนาดเล็ก (wires) ผ่านเข้าไปในกระดูกใช้รักษาผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่กระดูกบริเวณข้อศอกหัก (fracture of the olecranon) กระดูกต้นต้นขาส่วนกลางหัก (fracture of the femoral shaft) กระดูกหน้าแข้งหัก (fracture of tibia) เป็นต้นดึงถ่วงน้ำหนักโดยใช้ tongs ถ้าพบว่ากระดูกสันหลังส่วนคอหักหรือเคลื่อน
- - - - 1.เกิดการติดเชื้อ (pln tract Infection) โดยแบ่งระดับการติดเชื้อตามความรุนแรงดังนี้ Grade 1 Osteomyelitis
        2.ทำให้เกิดข้อผิคแข็ง
        3.มีโอกาสเกิด neurovascular Impalrment 4.Compartment syndrome อาจเกิดได้เนื่องจาก Schanz Screw หรือ
        5.PIn loosening การเลื่อนหลุดของ pin
        6.Delayed unlon or nonunlon
        7.มีโอกาสเกิดกระดูกหักหลังจาก off External fxation
        8.เกะกะรุ่มร่ามใส่เสื้อผ้าลำบาก
        9.โลหะยึดตรึงภายนอกเป็นครุภัณฑ์ที่สูญหายไม่ได้ราคาแพงทางโรงพยาบาลจึง
- - - - 🥰ดามกระดูกและข้อให้อยู่กับที่ลดความเจ็บปวดลค muscular spasm คามกระดูกที่จัดเข้าที่แล้วไม่ให้กระดูกเคลื่อนออกจากที่แก้รูปพิการหรือการหคค้างของข้อต่างๆเช่น flexion contracture equines
      - ชนิดของเฝือก
        
        เผือกปูนซึ่งเป็นการนำปูนพลาสเตอร์มาเคลือบบนผ้าฝ้ายข้อดีราคาถูกการใส่เฝือกและการตัดเฝือกคัดเฝือกทำได้ง่ายข้อเสียมีน้ำหนักค่อนข้างมากแตกร้าวง่ายระบายอากาศไม่ค่อยดีอาจทำให้คันเพราะความอับชื้นถ้าถูกน้ำเผือกก็จะเละเสียความแข็งแรง
        
        เผือกพลาสติกเป็นพลาสติกสังเคราะห์ข้อดีน้ำหนักเบาระบายอากาศได้ดีมีความแข็งแรงสูงและเวลาถ่ายภาพรังสีจะเห็นกระดูกได้ชัดเจนกว่าข้อเสียราคาแพงการตัดเฝือกคัดเฝือกทำได้ยากทำให้ต้องตัดออกและใส่เผือกใหม่อีกครั้ง
        
        การปฏิบัติตัวเมื่อเฝือกแห้งดีแล้ว
        
        1.ดูแลไม่ให้เผือกเปียกน้ำหรือสกปรกห้ามตัดเฝือกสำลีหรือวัสดุรองรับเฝือกออกเอง
        2.ไม่ควรให้เผือกเป็นตัวรับน้ำหนักเต็มที่ลงน้ำหนักได้เมื่อแพทย์อนุญาต
        3.เกร็งกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้เผือกบ่อยๆและเคลื่อนไหวส่วนที่อยู่ภายนอกเผือกหรือข้อต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงเช่นใส่เฝือกขาควรกระดิกนิ้วเท้าขึ้น
        -ลงเกร็งกล้ามเนื้อน่องและออกกำลัง
        4.ห้ามใช้วัสดุของแข็งแหย่เข้าไปในเผือกเพราะอาจทำให้ผิวหนังถลอกมีแผลอาจเกิดการติดเชื้อตามมาใน
        5.ยกส่วนแขนหรือขาที่เข้าเฝือกให้สูงอยู่เหนือระดับหัวใจเสมอเพื่อช่วยให้เกิดการไหลเวียนโลหิตที่ดีและลดอาการบวม