Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เพลงสำคัญของชาติ - Coggle Diagram
เพลงสำคัญของชาติ
เพลงชาติไทย
ประพันธ์ทำนองโดยพระเจนดุริยางค์ ใช้เป็นเพลงชาติไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 (ในลักษณะไม่เป็นทางการ) โดยช่วงแรกใช้คำร้องที่ประพันธ์โดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
ต่อมาปลายปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลได้จัดการประกวดเนื้อร้องเพลงชาติ และประกาศรับรองเนื้อร้องที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่โดยขุนวิจิตรมาตรา และเนื้อร้องที่แต่งโดยนายฉันท์ ขำวิไล ซึ่งเป็นฉบับที่ชนะการประกวด เป็นเนื้อร้องเพลงชาติฉบับทางราชการ เมื่อวันที่ 20 ประพันธ์ทำนองโดยพระเจนดุริยางค์ ใช้เป็นเพลงชาติไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 (ในลักษณะไม่เป็นทางการ) โดยช่วงแรกใช้คำร้องที่ประพันธ์โดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
ต่อมาปลายปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลได้จัดการประกวดเนื้อร้องเพลงชาติ และประกาศรับรองเนื้อร้องที่แก้ไขเพิ่มเติมใหม่โดยขุนวิจิตรมาตรา และเนื้อร้องที่แต่งโดยนายฉันท์ ขำวิไล ซึ่งเป็นฉบับที่ชนะการประกวด เป็นเนื้อร้องเพลงชาติฉบับทางราชการ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2477
เพลงสรรเสริญพระบารมี
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เพลง สรรเสริญพระบารมี ความสำคัญ
เพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นบทเพลงเพื่อสรรเสริญพระเกียรติยศพระเจ้าแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติประจำพระอิสริยยศ
เป็น ตำแหน่งของเพลง ใช้บรรเลงรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และผู้แทนพระองค์เท่านั้น
เพลงมหาฤกษ์
เพลงมหาฤกษ์เป็นเพลงคู่กันกับเพลงมหาชัย มาตั้งแต่โบราณ จนเรียกติดปากกันว่า มหาฤกษ์มหาชัย ใช้บรรเลงคู่กันเพื่อแสดงฤกษ์งามยามดี และความสวัสดีมีโชคชัย ในโอกาสต่างๆ เพลงมหาฤกษ์นั้น สันนิษฐานว่ามีมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา
เป็นเพลงทำนองอัตรา2ชั้น พอมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ถูกนำบรรจุอยู่ในเพลงปี่พาทย์ เรื่องทำขวัญหรือเวียนเทียน ที่เริ่มต้นด้วย เพลงนางนาค ออกเพลงมหาฤกษ์ มหากาล สังข์น้อย มหาชัย ดอกไม้ไทร และดอกไม้ไพร ตามลำดับ โดยทั่วไปแล้ว เพลงมหาฤกษ์ ใช้ในการเปิดสถานที่ หรือเปิดงานต่างๆตามฤกษ์ยามที่กำหนด
เพลงสดุดีมหาราชา
เป็นเพลงที่เกิดจากการประพันธ์ทำนองและคำร้องร่วมกันโดย ชาลี อินทรวิจิตร, สมาน กาญจนะผลิน และสุรัฐ พุกกะเวส เพื่อประกอบภาพยนตร์เรื่อง "ลมหนาว" ของ ชรินทร์ นันทนาคร นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา, เพชรา เชาวราษฎร์ และอรัญญา นามวงศ์ เมื่อ พ.ศ. 2509
ปัจจุบันเพลงนี้มีการขับร้องเพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของทั้งสองพระองค์อยู่เสมอ โดยถือเป็นธรรมเนียมทั่วไปว่าเพลงนี้ต้องขับร้องหลังการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และมีการจุดเทียนชัยถวายพระพร
เพลงมหาชัย
เพลงมหาชัยเดิมเป็นเพลงไทยอัตราสองชั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ใช้บรรเลงคู่กับเพลงมหาฤกษ์ในโอกาสอันเป็นมงคลต่าง ๆ จนเรียกขานกันโดยทั่วไปว่า "มหาฤกษ์-มหาชัย" ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เพลงนี้บรรจุอยู่ในเพลงปี่พาทย์ เรื่องเวียนเทียน หรือทำขวัญ เป็นเพลงในลำดับที่ 5 ที่เริ่มจาก เพลงนางนาค แล้วออก เพลงมหาฤกษ์ มหากาล สังข์น้อย มหาชัย ดอกไม่ไทร และดอกไม้ไพร ตามลำดับ
ใน พ.ศ. 2438 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ขณะทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ทรงพระนิพนธ์เพลงมหาชัยทางสากลขึ้นจากเพลงมหาชัยแบบดั้งเดิมของไทย แล้วประทานให้พระยาวาทิตบรเทศนำไปเรียบเรียงประสานเสียงสำหรับแตรวงทหารบรรเลงเป็นเพลงเดิน และทรงให้ มร.ยาคอบ ไฟต์ (บิดาของพระเจนดุริยางค์) เรียบเรียงดนตรีสำหรับให้แตรวงทหารม้าบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีทองเหลือง (Brass Band)
เพลงมหาชัยทางสากลที่ใช้เป็นเพลงคำนับนี้ใช้บรรเลงอย่างเดียว ไม่มีคำร้อง รัฐบาลไทยได้จัดเพลงนี้ให้เป็น 1 ใน 6 เพลงสำคัญของแผ่นดิน ตามมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2546
ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้ทรงนำเพลงนี้มาแก้ไขปรับปรุงใหม่ให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยให้วงดุริยางค์ทหารบกและทหารเรือบรรเลงกันเป็นเพลงเคารพหรือเพลงคำนับพระบรมวงศ์ที่มีศักดิ์ไม่ถึงสมเด็จพระบรมราชินี
-