Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แบบเรียนและวรรณกรรมสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองจนถึงปัจจุบัน (รัชกาลที่ 6…
แบบเรียนและวรรณกรรมสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองจนถึงปัจจุบัน (รัชกาลที่ 6-9)
การพัฒนาหนังสือแบบเรียนภาษาไทยในสมัยพระราชบัญญัติประถมศึกษา
เป็นหนังสือแบบเรียนที่กรมราชบัณฑิต กระทรวงธรรมการจัดพิมพ์ขึ้น โดยมีตราแผ่นดินพิมพ์ติดไว้ที่หน้าปก
เป็นหนังสือแบบเรียนที่กระทรวงธรรมการอนุญาตให้พิมพ์ใช้ในโรงเรียน หลังจากที่ผู้เขียนส่งต้นฉบับให้กระทรวงธรรมการตรวจสอบแล้ว
เป็นหนังสือแบบเรียนที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงธรรมการ หลังจากที่โรงเรียนพิจารณาเห็นว่าหนังสือเล่มนั้นแต่งดีและถูกต้อง จึงส่งให้กระทรวงธรรมการพิจารณาอนุญาตใช้
การพัฒนาหลักสูตรสมัยพระราชบัญญัติประถมศึกษา
รัชสมัยของรัชกาลที่ 6 นั้น ประเทศไทยได้ใช้หลักสูตรการศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2456 อยู่แล้ว หลักสูตร
นั้นเรียกว่า “หลักสูตรหลวง”
โดยกำหนดให้ผู้เรียนประถมศึกษา
ต้องเรียนวิชาชีพควบคู่ไปกับวิชาสามัญ
รวม 5 ปี (แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ 3 ปี และ 2 ปี)
ระดับ
มัธยมศึกษา 8 ปี (มัธยมต้น 3 ปี กลาง 3 ปี ปลาย 2 ปี)
รวมเวลาที่ผู้เรียนต้องเรียนตั้งแต่ระดับ
ประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย 13 ปี
ต่อมาในปี พ.ศ. 2475 เมื่อคณะราษฎร์ได้เปลี่ยนแปลงการปกครอง จึงประกาศใช้แผนการศึกษาปี พ.ศ.
2475 โดยยึดแนวหลักสูตรหลวงเป็นหลัก
กำหนดให้ประถมศึกษาเรียน 4 ปี มัธยม 8 ปี
และแบ่งเป็น
สายสามัญกับสายอาชีพอย่างชัดเจน (สายอาชีพชั้นต้น 4 ปี ชั้นสูง 4 ปี)
รวมเวลาที่ผู้เรียนต้องเรียน
ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมัธยมตอนปลาย 12 ปี
ในปี พ.ศ. 2479 ได้มีการปรับปรุงแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับปี 2475
โดยจัดระบบ
ชั้นเรียนเป็นอนุบาล 3 ชั้น
ประถมศึกษา 4 ชั้น
มัธยมต้น 3 ชั้น มัธยมปลาย 3 ชั้น
ชั้นเตรียมอุดม 2 ชั้น
รวมเวลาเรียน (ไม่รวมอนุบาล) 12 ปี
ส่วนสายอาชีพก็ศึกษาต่อเวลาเรียนจากชั้นประถมศึกษาโดยแบ่งเป็นอาชีวศึกษาชั้นต้น 3 ปี ชั้นกลาง 3 ปี ชั้นสูง 3 ปี รวมเวลาเรียนในสายอาชีวศึกษา (ไม่รวมอนุบาล) 13 ปี
ในปี พ.ศ. 2497 และ 2503 ได้มีการเปลี่ยนแปลงหนังสือแบบเรียนเป็นอย่างมาก หลักสูตรการศึกษาของไทยที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงคือ หลักสูตรฉบับปี 2521
โดยกำหนดชั้นประถม 6 ปี มัธยมต้น 3 ปี
ปลาย 3 ปี รวมระยะเวลาเรียน 12 ปี
หลักสูตร พ.ศ. 2521 เป็นหลักสูตรที่ใช้มาจนถึงปี พ.ศ. 2551 กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ประกาศใช้หลักสูตรใหม่เรียกว่า “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551”
วรรณกรรมสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองถึงสมัยปัจจุบัน
รัชกาลที่ 6
พระองค์ได้ทรงแปลบทละครที่มีชื่อเสียงของวิลเลียม
เชคสเปียร์ กวีชาวอังกฤษไว้หลายเรื่อง เช่น เวนิสวานิช ตามใจท่าน ฯลฯ
ยังทรงแต่งบทละคร
ของไทย เช่น พระร่วง หัวใจนักรบ เห็นแก่ลูก รับเสด็จ ฯลฯ
นอกจากรัชกาลที่ 6 แล้ว ยังมีกวีและนักปราชญ์ราชบัณฑิตอีกจ านวนมากซึ่งสร้างผลงาน
ต่อเนื่องมาจากสมัยปฏิรูปการศึกษา
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงมีลายพระหัตถ์ถึงกันกับสมเด็จ
เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์รวมพิมพ์เป็น“สาส์นสมเด็จ
พระราชวรวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.) ทรงแต่งทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น จดหมายจางวางหร่ำ นิทานเวตาล กนกนคร พระนงค าฉันท์ สามกรุง ทรงประดิษฐ์ฉันท์ชื่อสยาม มณีฉันท์ 8 ในผลงาน“ชโยสยาม”ฯลฯ
พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) แต่งตำราสยามไวยากรณ์ไขภาษา กลอน
ดอกสร้อยรำพึงในป่าช้า สงครามภารตคำกลอนฯลฯ
นายชิต บุรทัตแต่งสามัคคีเภทคำฉันท์ฯลฯ
และบทละครแปลจากวรรณคดีสันสกฤต
ที่เป็นภาษาอังกฤษ เช่น สกุนตลา สาวิตรี ฯลฯ
บทพระราชนิพนธ์มีทั้งบันเทิงคดีและสารคดีหลากหลาย
รูปแบบ ทั้งที่เป็นร้อยแก้ว เช่นปลุกใจเสือป่า ฯลฯและร้อยกรอง เช่น พระนลคำหลวง กาพย์เห่เรือ ฯลฯ
รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 8
วรรณกรรมตะวันตกประเภทร้อยแก้วทั้งบันเทิงคดี
และสารคดีเข้ามามีอิทธิพลต่อผลงานของนักเขียนไทยมากขึ้น ตลอดจนมีการแปลหนังสือที่ดีๆจำนวนมาก
รัชกาลที่ 9
กับการแปลถึง 2 เรื่อง คือนายอินทร์- ผู้ปิดทองหลังพระ และเรื่อง ติโต แล้วยังมีพระราชนิพนธ์เรื่องพระมาหาชนก อันเป็นพระชาติที่ 2 จากทศชาติชาดก ซึ่งขณะนี้ใช้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ช่วงนี้นักเขียนที่มีชื่อเสียงหลายท่านแต่งเรื่องเด่นซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายบางเรื่องก็นำมาใช้เรียนเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา
ม.จ.อากาศดำเกิง รพีพัฒน์ ทรงแต่งละครแห่งชาติ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ทรงแต่ง เกิดวังปารุสก์ เฟรเดริคมหาราช คัทรินมหาราชินี ฯลฯ
พลตรี หลวงวิจิตวาทการ แต่ง ห้วงรักเหวลึก
กุหลาบเมาะลำเลิง เลือดสุพรรณฯลฯ
ศรีบูรพา (กุหลาบ สายประดิษฐ์) แต่ง ข้างหลังภาพ ลูกผู้ชายฯลฯ
ในยุคนี้มีนักเขียนหญิงที่ผลิตผลงานคุณภาพมีมากมาย บางท่านเสียชีวิตแล้ว บางท่านยังมี
ชีวิตอยู่และยังเขียนเรื่องได้รับรางวัล หลายครั้งหลายเรื่องน ามาใช้เรียนเป็นหนังสืออ่านนอกเวลา
ดอกไม้สด (ม.ล.บุปผา “กุญชร” นิมมานเหมินท์) แต่ง ศัตรูของเจ้าหล่อน ความผิดครั้งแรก หนึ่งในร้อย ผู้ดี สามชาย อุบัติเหตุฯลฯ
ว. ณ ประมวญมารค (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต) ทรงแต่งทั้งนวนิยายและสารคดีไว้หลายเรื่อง เช่น ปริศนา รัตนาวดี นี่หรือชีวิต นิกกับพิม ตามเสด็จปากีสถาน ฯลฯ
ก. สุรางคนางค์ (กัณหา เคียงศิริ) แต่ง หญิงคนชั่ว บ้านทรายทอง พจมาน สว่างวงศ์ ฯลฯ
สาเหตุและเหตุการณ์ที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องแล้วส่งผลต่อความเจริญด้านวรรณกรรมนับตั้งแต่
สมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองถึงสมัยปัจจุบัน
การตั้งวรรณคดีสโมสร
ความเปลี่ยนแปลงของอุดมการณ์ทางการเมือง
ความแพร่หลายทางด้านการพิมพ์หนังสือและวารสาร
การประกวดผลงานวรรณกรรม
ความนิยมในการอ่านฯลฯ
แบบเรียนสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองถึงสมัยปัจจุบัน
ตำราสยามไวยากรณ์ของเดิมกรมศึกษาธิการเรียบเรียงมีตำราอักขรวิธีและวจีวิภาคกับตำราวากยสัมพันธ์ที่เจ้าหน้าที่กระทรวงธรรมการแต่ง ใน พ.ศ. 2461 พระยาไวยากรณ์นี้เป็นแบบเรียนอยู่ชั่วระยะหนึ่งแต่เนื่องจากเป็นแบบเรียนที่ยากและมีศัพท์มาก
แบบหัดอ่านหนังสือไทยของพระวิภาชน์วิทยาสิทธิ์ใช้เป็นแบบเรียนบังคับระดับประถมปีที่ 1 ตั้งแต่สมัย
ออกพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. 2464 จนถึง พ.ศ. 2480
แบบเรียนเร็วใหม่ของหลวงดรุณกิจวิฑูรและนายฉันท์ ขำวิไลใช้เป็นแบบเรียนบังคับตั้งแต่ พ.ศ. 2480 จนถึง พ.ศ. 2498
แบบเรียนชุดบันไดก้าวหน้า (เรณู- ปัญญา) ของนายกี่ กีรติวิทโยฬาร ใช้เป็นแบบเรียนบังคับอยู่เพียงปีเดียวคือในช่วง พ.ศ. 24985 ถึง พ.ศ. 2499 แล้วกระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศให้ใช้ เป็นแบบเรียนเลือก
แบบหัดอ่านหนังสือไทยของพระวิภาชน์วิทยาสิทธิ์ กระทรวงศึกษาธิการได้กลับมาประกาศให้ใช้เป็นแบบเรียนบังคับอีกในชั้นประถมปีที่ 1-2 เมื่อ พ.ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2520 จึงเลิกใช้
แบบเรียนเลือกที่ใช้ระหว่างพ.ศ. 2499 ถึง พ.ศ. 2520 กระทรวงศึกษาธิการได้ให้โอกาสแก่โรงเรียนเลือกใช้หนังสือแบบเรียนอีกเล่มหนึ่งควบคู่กับแบบหัดอ่านหนังสือไทย
แบบเรียนภาษาไทย เล่ม 1 ถึง 5 ของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3-7 ตามหลักสูตรประถมศึกษาพุทธศักราช 2503
หนังสือเรียนภาษาไทยของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ชั้นละ 2 เล่ม ตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 หนังสือเรียนแต่ละเล่มแบ่งเนื้อหาเป็น บทๆ บทละ 2 ตอน
หนังสือเรียนภาษาไทยชุดพื้นฐานภาษาของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับชั้นประถมปีที่ 1-6 ชั้นละ 2 เล่มตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 เป็นแบบเรียนที่กำลังใช้อยู่ในโรงเรียนประถมศึกษาทั่วประเทศขณะนี้
หนังสือเรียนภาษาไทยชุดทักษสัมพันธ์ เล่ม 1-3 ของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ชั้นละ 1 เล่ม และหนังสือเรียนภาษาไทย หลักภาษา 3 เล่ม ชั้นละ 1 เล่มตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521
หนังสือเรียนภาษาไทยชุดวรรณสารวิจักษณ์ เล่ม 1-4 ของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 ชั้นละ 2 เล่ม ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524
หนังสือเรียนภาษาไทยชุดวรรณลักษณวิจารณ์ เล่ม 1-2 ของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 2 เล่ม ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524