Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้สูงอายุในศูนย์ฯ บ้านบางละมุง, เอกสารอ้างอิง …

- - - - Calcium Carbonate 250 mg. (ยาเสริมแคลเซียม)
      - Aldactone 25 mg (ยารักษาความดันโลหิตสูง)
      - Sodium Bicarbonate
        (รักษาภาวะกรดจากกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย)
- - - - ผู้สูงอายุรับประทานอาหารได้มากขึ้นหมดถาด
        หรือปริมาณที่มากกว่าครึ่งถาด
      - ผู้สูงอายุมีรูปร่างไม่ผอม ผิวหนังไม่ติดกระดูกซี่โครง
        หรือมีผิวหนังนุ่ม มีไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง
      - ผู้สูงอายุมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือไม่ลดลง จาก 45 กิโลกรัม
      - ผลการประเมินตามแบบประเมินภาวะโภชนาการ
        (Mini Nutritional Assessment: MANA)
        ได้ 24-30 คะแนน มีภาวะโภชนาการปกติ
    - - ประเมินสอบถามพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ได้แก่ ปกติชอบรับประทานอาหารอะไร มีปัญหาเกี่ยวกับการเคี้ยวกลืนอาหารหรือไม่
        สาเหตที่ทำให้รับประทานอาหารน้อยลงคืออะไร
        เพื่อเป็นแนวทางในการให้การพยาบาล
      - ดูแลแนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่
        ให้ได้แคลอรี่เพียงพอและไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงาน
        เน้นอาหารจำพวกโปรตีนเช่น
        เพิ่มไข่ไก่ในมื้ออาหารวันละ2-3ฟอง
        คาร์โบไฮเดตร (ข้าว แป้ง ) 6-8ทัพพี/วัน
      - ดูแลแนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหาร โดยแบ่งมื้ออาหารเป็ย 4-5 มื้อ เพิ่มมื้อสายและบ่าย เพื่อช่วยลดปํญหาแน่นท้องหลังอาหาร
      - แนะนำให้รับประทานพืชผักให้มากและรับประทานผลไม้เป็นประจำ
        โดยรับประทานผักไม้น้อยกว่า4 - 6 ทัพพี/วัน
        สำหรับผลไม้ควรรับประทาน3 - 5 ส่วนต่อ/วัน
      - ควรดื่มนมเป็นประจำ ควรดื่มนมวันละ 1-2 แก้ว หรือกล่องขนาด 200 มิลลิลิตร ควรเลือกนมขาดมันเนย หรือพร่องมันเนย และไม่ปรุงรสหวาน
      - หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัดและเค็มจัด โดยรับประทานนํ้าตาลไม่เกิน
        วันละ 4 ช้อนชา และควบคุมระดับโซเดียมให้ไม่เกิน 2.3-2.4 กรัมต่อวัน
        หรือ 4.7-5.8 กรัมของเกลือแกง
      - ดูแลให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1,500 มล. เพื่อช่วยให้เซลล์ต่างๆของร่างกายอยู่ในสมดุลและทำงานได้ตามปกติ
    - - เพื่อให้ผู้ป่วยมีภาวะโภชนาการที่ดี
    - - ในผู้สูงอายุเป็นผู้ที่มีโครงสร้างและการทําหน้าที่ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมลง เช่น ศูนย์กระตุ้นความอยากอาหารทํางานลดลง การมีเหงือกร่น การยึดติด ของฟันกับกระดูกเหงือกไม่แน่น เหงือกอักเสบ เกิดฟันคลอนขณะเคี้ยวหรือกัดอาหาร มีฟันผุ หรือฟันร่วงหลุด ทําให้การบดเคี้ยวอาหารลําบาก
        ไม่ละเอียด ต้องรับประทานนิ่มๆ ชนิดเดิมซ้ำๆ มีปริมาณน้ําลายลดลง
        ขาดเอนไซม์ในการย่อยแป้ง ปากและลิ้นแห้ง การรับรส การรับกลิ่นลดลง การเคลื่อนไหวของหลอดอาหาร การย่อยอาหาร การดูดซึมของกระเพาะอาหารและลําไส้ลดลง การเผาผลาญ อาหาร การขับถ่ายอุจจาระลดลง ภาวะโภชนาการต่ำหรือภาวะขาดสารอาหาร แบ่งออกเป็นภาวะขาดโปรตีนและพลังงาน ทําให้ผู้สูงอายุอาจมีเกิดภาวะขาดอาหารจากการรับประทานอาหารไม่เพียงพอกับความ ต้องการของร่างกาย
  - - - ผู้ป่วยสามารถบอกการดูแลตนเองจากความดันโลหิตสูงได้ ได้แก่ ไม่ควรรับปรัทานอาหารรสเค็ม ควรเปลี่ยนท่าช้าๆ
      - ประเมินสัญญาณชีพอยู่ในช่วงปกติ
        BT = 36.4-37.5 ° C
        PR = 60-100 ครั้ง / นาที
        RR = 16-20 ครั้ง / นาที
        BP = SYS = 90-120/DIA = 60-80 mmHg
      - ผู้ป่วยสามารถบอกได้ว่าความดันโลหิตสูงคืออะไร ได้ถูกต้อง
    - - แนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง ได้แก่ ความดันโรคหิตสูงคืออะไร มีอาการอย่างไร ปัจจัยที่ทำให้ความดันโลหิตสูงมีอะไรบ้าง
      - แนะนำให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง
        เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าใจและดูแลตนเอง
        
        แนะนำวิธีการเลือกรับประทานอาหาร : ควรเป็นเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ลดอาหารเค็ม ควรเลือกอาหารที่ใส่เกลือ หรือน้ำปลาน้อยที่สุด วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา งดรับประทานผงชูรส
        
        แนะนำให้การออกกำลังกาย แบบ Active ExerciseและPassive Exercise
        
        แนะนำให้ความรู้การใช้ยา : รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยาเอง การรับประทานยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้รักษา
        
        นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 6-8 ชม.
        กลางวันควรนอน 30 นาที -1 ชม.
        เพื่อป้องกันการนอนไม่หลับในตอนกลางคืน
        ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาความดันโลหิตสูง
        
        แนะนำการเปลี่ยนท่า หรืออิริยาบทต่างๆ ควรทำอย่างช้าๆ
        เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนแปลงค่าความดันโลหิต
      - ประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง
        เพื่อวางแผนแนวทางในการให้ความรู้
    - - เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้ในการดูแลตนเอง
        จากโรคความดันโลหิตสูง
    - - เมื่อบุคคลมีอายุมากขึ้น ความเสื่อมถอยของหลอดเลือดจะเพิ่มขึ้น
        โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่ส่งผลให้เกิด ความผิดปกติต่ออวัยวะต่างๆ
        หลายระบบในร่างกาย ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงเรื้อรังที่ไม่สามารถควบคุม
        ความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้อย่างต่อเนื่อง มักเกิดภาวะแทรกซ้อน
        ต่ออวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ หลอดเลือด ตา ไต สมอง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อน
        ที่อันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งผู้สูงอายุควรให้ความสำคัญกับการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง การป้องกัน และการรักษา เพื่อที่จะสามารถชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
  - - - ในผู้สูงอายุการทำการทำงานต่างๆของร่างกายย่อยเสื่อมถอยลง
        ระบบ กล้ามเนื้อหย่อนยาน เส้นใยกล้ามเนื้อฝ่อ จำนวนลดลง
        มีเนื้อเยื่อของผังผืดเข้ามาแทนที่เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง ความเคื่อนไหวของกล้ามเนื้อลดลงกล้ามเนื้อแขนและขาฝ่อความแข็งแรงกล้ามเนื้อค่อยๆลดลง เนื่องจากผู้สูงอายุไม่ได้มีการออกกำลังกาย ทำให้ผู้สูงอายุมีภาวะพึ่งพาส่วนใหญ่ และมีภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มในระดับสูง
    - - เพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม
    - - แนะนำออกกำลังกายบนเตียง
        เพื่อบริหารมวลกล้าเนื้อให้แข็งแรง
        
        Passive exercise
        การออกกำลังกายที่ผู้ป่วยไม่ได้ออกแรง
        
        Active-assistive exercise
        การออกกำลังกายที่ให้ผู้ป่วยทำเองให้มากที่สุดก่อน
      - ส่งเสริมและแนะนำให้ผู้สูงอายุใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน
        เพื่อส่งเสริมการเคลื่อนไหวของร่างกาย
        
        อุปกรณ์ช่วยเดิน 4 ขา มีล้อ (Walkerette)
        
        ไม้เท้า (Cane)
      - อธิบายให้ผู้สูงอายุเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของกล้ามเนื้อ เพื่อให้ผู้สูงอายุตระหนัถึงความสำคัญของกล้ามเนื้อ
      - กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจผู้ป่วยขณะออกกำลังการ
        หรือขณะใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เพื่อให้ผู้สูงอายุ
        เกิดความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง
        ในการการเคลื่อนไหวร่างกายต่อไป
      - ประเมินความพร้อมทั้งร่างการและจิตใจก่อนให้กาพยาบาลเพื่อให้ผผู้สูงอายุมีเเรงจูงใจต่อการให้การพยาบาลในขั้นต่อไป
    - - ผลการประเมินภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน
        ผู้สูงอายุมีภาวะเสี่ยงต่อการหกล้มน้อยหรือไม่มี
      - ตรวจร่างกาย Muscle Power grade 4-5 ทั้งแขนและขา 2 ข้าง
      - ผลการประเมินตามแบบประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติ
        (Barthel ADL Index) มีภาวะพึ่งพาเล็กน้อย