Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Electrolyte Imbalance, image, image, image, image, image, image, image,…

- - - - น้ำภายนอกเซลล์ มีประมาณ 40 %
      - น้ำภายในเซลล์มีประมาณ 60%
  - - - Antidiuretic hormone (ADH)
      - Aldosterone
  - - - สาเหตุ :red_flag:
        
        primary dehydration จะเกิดจากการได้รับไม่พอ ไม่ว่าจะเกิด
        จากการดื่มเองไม่ได้หรือไม่มีน ้าดื่ม หรือ เกิดการบาดเจ็บรุนแรงหมดสติ
        
        secondary dehydration เกิดจากการเสียน้ำที่มีการเสียอิเลคโทรลัยท์ด้วย โดยเฉพาะการสูญเสียโซเดียม เช่น การเกิดการอาเจียนท้องร่วง หรือมีการขับปัสสาวะออกมาก
      - อาการ :red_flag:
        
        ไม่มีแรง ผิวหนังแห้ง คอแห้ง ไม่มีน้ำลาย ริมฝีปากแห้งน้ำหนักลด หัวใจเต้นเร็ว กระวนกระวาย
        
        เมื่อขาดน้ำมากกว่าร้อยละ 7 จะท้าให้ความดันลดต่ำลง ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว เพ้อ
      - การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (LAB) :red_flag:
        
        urine sp. gr. >1.030
        
        BUN, Cr, Alb เพิ่มขึ้น
        
        Na > 150mEq/L
        
        Hct > 45%
        
        ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ
  - - - การได้รับเกลือและน้ำมาก เกินไป
      - ได้รับยา corticosteroid
      - มีการอุดกันของทางเดินปัสสาวะ
      - มีการหลั่งADHมากกว่าปกติ
      - ผู้ป่วยที่มี ภาวะขาดโซเดียม
    - - pulmonary edema จะมีอาการหอบ หายใจลำบาก ไอมาก
      - congestive heart failure
      - neck vein engorged
      - น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น อาจมีอาการชัก
      - บวมตามปลายมือปลายเท้า
      - ความดัน โลหิตเพิ่มขึ น
- - - - การพยาบาล ดูแลให้ผู้ป่วยมีภาวะโวเดียมในเลือดสมดุล กระตุ้นให้รับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        ร่างกายได้รับ Na จากอาหารน้อยไป มีการดูดซึมไม่ดี
        
        ได้รับยาขับปัสสาวะเป็นเวลานาน
        
        สูญเสียทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ท้องร่วง
        
        NG tube with suction , NG content
        
        การที่มีเหงื่อ ออกมากเกิน ออกก้าลังกาย หรืออยู่ในที่อากาศร้อน
        
        อาการทางระบบประสาท โรคจิต ซึมเศร้า
        
        Coma
      - อาการ :red_flag:
        
        จากการสูญเสียโซเดียม
        
        รุนแรงเล็กน้อย Na = 125 -135 mEq/L
        
        รุนแรงปานกลาง Na = 115 -125 mEq/L
        
        รุนแรงมาก Na = 90 -115 mEq/L
        
        จากภาวะน้ำเกิน
        
        2.1 Na > 120 mEq/L แต่ < 135 mEq/L น้ำหนักเพิ่มขึ้น บวม
        
        2.2 Na < 120 mEq/L
        เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
        
        2.3 Na < 110 mEq/L
        รีเฟล็กซ์ลดลง เพ้อคลั่ง ชัก
        
        2.4 Na < 105 mEq/L ไม่รู้สึกตัว
      - การรักษา :red_flag:
        
        หากร่างกายมีการขาดNaน้อยและมีการ
        ขาดน้ำมาก จะต้องให้ Normal saline และอาหารที่มีโซเดียมสูง
        
        หากเกิดภาวะน้ำเกินมากและขาด Na มาก
        จะต้องมีการให้Na ทดแทน และยาขับ ปัสสาวะ (Furosemide)
    - - การรักษา :red_flag:
        
        เพิ่มโปรตีนในพลาสมาในรายโปรตีนต่้า (Alb) เพื่อดึงโซเดียมและ
        น้ำจากช่องว่างระหว่างเซลล์เข้าหลอดเลือดและขับออกทางไต
      - อาการ :red_flag:
        
        มีไข้ต่ำๆ กระหายน้ำมาก
        
        ผิวหนัง ผิวแดง หน้าแดง บวม ปากแห้ง ลิ้นบวมแดง
        
        ระบบหัวใจและหลอดเลือด หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดสูง ความ
        ดันเลือดดำส่วนกลาง (CVP) สูง
        
        ระบบหายใจ หายใจหอบเหนื่อย ปอดมีเสียงกรอบแกรบ (รายที่มี Hypervolemia)
        
        ระบบประสาท สับสน กระสับกระส่าย ชัก
        
        ระบบกล้ามเนื้อ อ่อนแรง ระบบทางเดินปัสสาวะ น้อยหรือไม่มี
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        ได้รับเกลือเพิ่มขึ้น เช่น ได้รับสารน้ำ
        ทางหลอดเลือดดำ ไตวาย หัวใจล้มเหลว
        
        ได้รับน้ำน้อยหรือสูญเสียน้ำมาก เช่น
        มีไข้ ไฟลวกรุนแรง สูญเสียน้ำจากปอด
      - การพยาบาล ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ ติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Na บันทึก I/O ชั่งน้ำหนักทุกวัน ประเมินระดับความรู้สึก
  - - - การพยาบาล :red_flag: สังเกตอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน บันทึกสัญญาณชีพ ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ดูแลให้รับประทานอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง บันทึกI/O
      - การรักษา :red_flag:
        
        ทดแทน K
        
        1.1. ในรูปยาฉีด (intravenous infusion)
        
        โปแตสเซียมไดฟอสเฟต (K2HPO4)
        
        โปแตสเซียมคลอไรด์ (KCl)
        
        ในรูปยากิน
        
        2.1 Elixir KCl
        
        2.2 โปแตสเซียมซิเตรต (potassium citrate)
      - อาการ :red_flag: CO↓ BP↓เมื่อเปลี่ยนท่า Pulse เบา แขนขาอ่อนแรง คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ปัสสาวะมาก กระหายน้ำ
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        •การเสียเลือด
        
        •สิ่งคัดหลั่งจากแผล drain ต่างๆ
        
        •NG content
    - - อาการ :red_flag:
        
        หัวใจ มีการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว
        มากกว่า 100 ครั ง/นาทีต่อมาเต้นช้ากว่าปกติ
        
        เกิดภาวะกรดในร่างกาย
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        ได้รับเพิ่มขึ้น เช่นได้รับโปแตสเซียมมากไป ได้เลือดเก่าใกล้ หมดอายุ
        
        ลดการขับออก เช่น ไตวายเฉียบพลันหรือเรื อรัง ,Addison’s disease
        
        โปแตสเซียมออกจากเซลล์มากขึ้น เช่น ขาดอินซูลิน
      - การพยาบาล :red_flag:
        
        ดูแลจ้ากัดอาหารที่มีโปแตสเซียม
        เช่น กล้วย ส้ม มะละกอ ถั่ว เนื้อสัตว
      - การรักษา :red_flag:
        
        ให้ 50% glucose ผสมกับ regular insulin
        
        ให้ Kayexalate (กิน สวน feed )
        
        ให้ยาขับปัสสาวะ เช่น furosemide, thiazide
    - - •K เป็นปัจจัยร่วมในการท้างานของ insulin ในการน้ำกลูโคสเข้าเซลล์
  - - - การพยาบาล :red_flag:
        
        ประเมินการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ( EKG )
        
        ประเมินอาการทางระบบประสาท (Neuro signs)
        
        ประเมินการเคลื่อนไหวของลำไส้ (Bowel signs)
        
        กระตุ้นให้มีการดื่มนำมาก ๆ
        
        ติดตามผล lab
      - การรักษา :red_flag:
        
        ให้น้ำกลือและยาขับปัสสาวะ เพื่อที่จะขับแคลเซียมทิ้ง
        
        หากไม่ได้ผลหรือผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจหรือไตอาจจะต้องพิจารณาให้
        การฟอกเลือด (hemodialysis) เพื่อที่จะขับCa ออกจากร่างกาย
        
        ติดตามการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
      - อาการ :red_flag:
        
        BP↑ ความจำเสื่อม พูดไม่เป็นคำ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะมาก กระหายน้ำ ท้องผูกรุนแรง สับสน ซึม หมดสติ
      - สาเหตุ
        :red_flag:
        
        ภาวะที่เกิดมะเร็ง
        
        ภาวะที่ได้รับวิตามินดีมากเกินไป
        
        การได้รับยาขับปัสสาวะ thiazide ท้าให้มีการดูดกลับ
        ของแคลเซียมมาก
      - คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับของฮอร์โมนพาราไธรอยด์เพิ่มขึ้น
    - - การรักษา :red_flag:
        
        การให้แคลเซียมทดแทน ได้แก่ 10%
        แคลเซียมกลูโคเนต แคลเซียมคลอไรด์
      - อาการ :red_flag:
        
        จะมีการชา ตามนิ้วมือนิ้วเท้า มือจีบ (trousseau’s sign)
        และริมฝีปากเกร็งกระตุก(tetany) ** แขนขาเป็นตะคริว
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        ภาวะ albumin ในเลือดต่ำ
      - การพยาบาล :red_flag:
        
        ประเมินภาวะมือจีบ Trousseau’s sign
        
        ให้อาหารที่มี calcium สูง และมีphosphate ต่ำ
      - คือ มีระดับของ Ca ในเลือดน้อยกว่า 4 mg.% มักพบใน
        ภาวะที่เจ็บป่วยเรื้อรัง
  - - - การพยาบาล :red_flag:
        
        ประเมินสัญญาณชีพ
        
        ประเมินระดับความรู้สึกตัว
        
        บันทึก I/O
        
        แนะน้าอาหารที่มีแมกนีเซียมมาก เช่น อาหารทะเล ธัญพืชและจมูกข้าวสาลี และอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง
        
        ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา ยาที่มีแมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบ
      - อาการ :red_flag:
        
        หัวใจเต้นเร็ว ผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        การที่ได้รับสารอาหารที่มี Mg น้อยไปหรือมีการสูญเสีย Mg ทางไตมากเกิน
      - การรักษา :red_flag:
        
        ให้รับประทาน Magnesium oxide
        
        ให้ 50% Mg2SO4 (Magnesium sulfate) ผสมใน D5W
    - - อาการ :red_flag:
        
        ระบบไหลเวียนเลือด ความดันเลือดต่ำ หลอดเลือดส่วนปลาย
        ขยาย หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดจังหวะ
      - การรักษา :red_flag:
        
        งดยา ยาที่มีแมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบ
        
        หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแมกนีเซียมมาก เช่น อาหารทะเล
        ธัญพืช และจมูกข้าวสาล
      - การพยาบาล :red_flag:
        
        ดูแลให้ยาตามแผนการรักษา
        
        ประเมินการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื อหัวใจ
        
        ประเมินการหายใจ
        
        ประเมินอาการทางระบบประสาท
        
        ติดตามผลlab
      - สาเหตุ :red_flag:
        
        การที่ไตท้างานไม่มีประสิทธิภาพ
        
        การให้ Mg ใน หญิงตั งครรภ์
        
        ผู้ป่วยโรคไต
  - - - สาเหตุ :red_flag:
        
        การได้รับอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เช่น
        การขาดอาหาร การอดอาหาร
        
        ไตเพิ่มการสร้างและขับปัสสาวะ การได้รับยาขับปัสสาวะ
        
        การติดสุรา
      - อาการ :red_flag:
        
        ระบบประสาทส่วนกลาง อ่อนเพลีย อิดโรย สับสน ชัก และไม่รู้สึกตัว
        
        ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กล้ามเนื ออ่อนแรง กล้ามเนื้อสั่น ชา
        
        ปวดกระดูก กระดูกเปราะหักง่าย และข้อติด
        
        ระบบไหลเวียนเลือด หัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซีด เกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ
        
        ระบบหายใจ หายใจเร็วตื่น
        
        ระบบทางเดินอาหาร - เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ตับทำงานผิดปกต
      - การรักษา :red_flag:
        
        ให้รับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูงได้แก่ นมวัว เครื่องในสัตว์ สมอง ตับ ไต
        
        ให้รับประทานหรือสวนทวารด้วยยาที่มี
        ฟอสเฟต โพแทสเซียมฟอสเฟต
        
        ยาและสารเคมีที่มีผลกับระดับฟอสเฟตในเลือด
        
        อะลูมิเนียมไฮดรอกไซด์
        
        อะลุมิเนียมคลอไรด
    - - สาเหตุ :red_flag:
        
        ไตขับฟอสเฟตออกจากร่างกายทางปัสสาวะลดลง
        
        การได้รับฟอสฟอรัสมากๆ
        
        การได้รับยา สารน้ำ หรือเลือดและส่วนประกอบของเลือด
        ที่ใช้กรดซิเตรทเด็กซ์โทรส
      - อาการ :red_flag:
        
        เกิดการตกตะกอนของแคลเซียมฟอสเฟตที่ผิวหนังและหลอดเลือด
        ส่วนปลาย และที่ตาทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ
        
        กล้ามเนื้อ เหน็บชา กระตุกของกล้ามเนื้อมัดเล็ก ปวดกล้ามเนื้อ
        
        หัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตต่ำ ช็อก
        
        ระบบทางเดินหายใจ น้ำท่วมปอด หายใจลำบาก
        
        ระบบทางเดินอาหาร เบื่ออาหารรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ล้าไส้ไม่เคลื่อนไหว
        
        ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่มีปัสสาวะ
      - การรักษา :red_flag:
        
        ให้สารน้ำ เช่น NSS , D5N
        
        ให้กลุโคสและอินซูลิน
        
        การล้างไต