Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
นางสุทธิพร คุ้มอินทร์ อายุ 65 ปี - Coggle Diagram
นางสุทธิพร คุ้มอินทร์ อายุ 65 ปี
ข้อมูลส่วนบุคคล
รายได้
เบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท - เงินเดือนอสม 1,000 บาท
โรคประจำตัว
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจพบ ปี พ.ศ.2555 เคยผ่าตัด 3 ครั้ง ผ่าตัดทำ colostomy
บุคคลที่ดูแลผู้สูงอายุ
ลูกสาว อายุ 48 ปี
ดัชนีมวลกาย
น้ำหนัก 40 kg ส่วนสูง 155 cm BMI = 16.65 kg/m2
สัมพันธภาพในครอบครัวและเพื่อนบ้าน
รักใครกันดี
ยาที่ใช้ประจำ
Norgesic
Obemin
พฤติกรรมการดูแลตนเอง
ด้านร่างกาย
ADL = 17 คะแนน ไม่มีภาวะพึ่งพิง
ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานและยึดเหยียดกล้ามเนื้อทุกวัน
ด้านการรับประทานอาหาร
รับประทานอาหาร 3 มื้อ และมีรับประทานอาหารว่าง เช่น ขนมปังกรอบ ระหว่างวัน อาหารที่รับประทานส่วนใหญ่เป็นปลา โดยจะนำมานึ่งหรือทอด
ดื่มน้ำวันละ 2,000 - 3,000 ml/วัน
ด้านการขับถ่าย
ปัสสาวะ
กลั้นปัสสาวะได้ จะมีปัสสาวะเล็ดบางครั้งเวลาไอหรือจาม
อุจจาระ
มีช่องทวารเทียมที่หน้าท้อง จะเทอุุจาระทุก 2 - 3 ชั่วโมง
การออกกำลังกาย
ปั่นจักรยานในบ้าน
เดินรอบบ้าน
ยึดเหยียดกล้ามเนื้อโดยไตกำแพง
การพักผ่อนนอนหลับ
เข้านอน 21.00 น. ตื่นนอน 5.00 น. เฉลี่ย 8 ชั่วโมง/วัน
ในช่วงกลางคืน จะตื่นทุก 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อเทอุุจจาระ และกว่าจะหลับอีกต้องใช้เวลา 30 - 60 นาทีกว่าจะหลับอีก
ตอนกลางวันจะมีงีบหลับอีก 1 - 2 ชั่วโมง
จิตใจ
ผู้สูงอายุมีสีหน้าสดใส ร่าเริง พูดคุยสนุกสนาน เป็นคนอารมณ์ดี
มองในโลกในแง่ตามความเป็นจริง
สรุปผลแบบประเมินผู้สูงอายุ
ADL = 17 คะแนน ไม่มีภาวะพึ่งพิง
Fall risk = 1.5 คะแนน มีความเสี่ยงอยู่ในระดับ 1
MMSE-Thai 2002 = 28 คะแนน ปกติ
Mini Nutritional Assessment: MNA = 8 คะแนน มีความเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร
Thai Geriatric Depression Scale: TGDS = 2 คะแนน ปกติ
PSQI = 8 คะแนน คุณภาพการนอนหลับไม่ดี
3 อ. 2 ส.
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ = 52 คะแนน อยู่ในระดับดี
พฤติกรรมสุขภาพ = 25 คะแนน อยู่ในระดับดีมาก
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ข้อที่ 1 วิตกกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และมีแนวโน้มที่จะปฏิเสธการเข้าสังคมเนื่องจากมีความอาย กลัวต่อการมีกลิ่นอุจจาระ และเสียงผายลมรบกวนคนรอบข้าง
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าสังคมได้ตามปกติ
เกณฑ์การประเมินผล
1.ผู้ป่วยบอกว่ามั่นใจที่จะเข้าสังคม
2.มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
3.ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้มากขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล
1.สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
2.กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้แสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับ colostomy
4.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนออกสังคม
3.ให้การดูแลด้วยความอบอุ่น เป็นกันเองกับผู้ป่วย ไม่รีบเร่งขณะดูแล และพูดคุยกับผู้ป่วย
5.แนะนำให้ทราบถึงระยะเวลาที่อาหารเคลื่อนจากปากถึงลำไส้ใหญ่ประมาณ 6 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ควบคุมการขับถ่ายได้
7.แนะนำให้เปลี่ยนถุงรองรับอุจจาระ และทำความสะอาดทุกครั้งเมื่ออุจจาระออกมาครึ่ง ค่อนถุง หรือมีการซึมรั่ว
ข้อที่ 2 แบบแผนการนอนไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีทวารเทียมที่หน้าท้อง
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้ป่วยได้นอนหลับที่มีคุณภาพ
เกณฑ์การประเมินผล
จากการประเมินคุณภาพการนอนหลับ (PSQI) ได้คะแนน น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 คะแนน
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการและอาการแสดงของการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอในแต่ละวัน เช่น อาการง่วงนอน ซึม หาวนอน เพื่อนำมาวางแผนการพยาบาลที่เหมาะสม
2.แนะนำการปฏิบัติตัวก่อนเข้านอน เพราะผู้สูงอายุมีพฤติกรรมกังวลกลัวว่าถุง Colostomy จะเต็ม และลุกเข้าห้องน้ำระหว่างนอนหลับบ่อยครั้ง
3.เเนะนำให้เพิ่มกิจกรรมตอนกลางวัน โดยไม่ควรนอนหลับกลางวันนานเกิน 30 นาที เพื่อ ส่งเสริมการนอนหลับและไม่รบกวนแผนการนอนหลับในช่วงกลางคืนทำให้หลับได้ง่ายขึ้น นอนหลับพักผ่อนได้เพียงพอ
4.อาหารมื้อเย็นควรทานให้พอเหมาะ เป็นอาหารที่ย่อยง่าย เพื่อให้เกิดความสุขสบายนอนหลับ พักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
5.แนะนำให้เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลา เพื่อให้เกิดความเคยชินทำให้แบบแผนการนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6.ดื่มนมโอวัลติน เพราะมีสาร L-trytophan ที่จะเปลี่ยนเป็นสารสื่อประสาท Serotonin ทำให้นอนหลับ แต่ไม่ควรดื่มช่วง 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อย
ข้อที่ 3 เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารเนื่องจากมีข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร
วัตถุประสงค์
ผู้สูงอายุไม่เกิดภาวะขาดสารอาหาร
เกณฑ์การประเมินผล
1.เลือกรับประทานอาหารได้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพร่างกาย
2.รับประทานอาหารได้มากขึ้น หรือเท่าเดิมที่เคยรับประทานเป็นประจำ
3.ดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ= 18.5 – 24.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินภาวะโภชนาการในผู้สูงอายุ คือการคำนวณ BMI และให้คำแนะนำร่วมกับค้นหาสาเหตุ พฤติกรรมการบริโภควิเคราะห์ปัญหาสุขภาพเพื่อเป็นแนวทางในการให้คำแนะนำ
2.เลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารเติมสี และการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
3.ควรเพิ่มคุณค่าของอาหารในแต่ละมื้อที่รับประทาน เช่น เพิ่มสัดส่วนของโปรตีนโดยการเติมไข่ขาว หรือเต้าหู้ เพิ่มสัดส่วนของไขมันดี โดยการเติมน้ำมันมะกอกลงในเครื่องปรุงรส ผักสด ธัญพืชและรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง
4.แนะนำให้เพิ่มมื้อของว่างในช่วงกลางวันระหว่างอาหารมื้อหลัก เพื่อให้ได้รับสารอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น
5.ควรรับประทานอาหารพร้อมหน้ากับคนในครอบครัว หรือเชิญเพื่อนวัยเดียวกันมารับประทานอาหาร อย่าปล่อยให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารคนเดียว
6.ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงชนิดของอาหารที่มีผลต่อการขับถ่ายอุจจาระ
7.แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2,500 ซีซี.เพื่อป้องกันอาการท้องผูกหรือขาดน้ำ .
ข้อที่ 4มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเนื่องจากมีอาการปวดเข่าและมีการอักเสบของเอ็นฝ่าเท้า
เกณฑ์การประเมินผล
1.ผู้สูงอายุสามารถยืดเหยียดกล้ามเนื้อได้ 3 ใน 4 ท่า
2.ผู้สูงอายุไม่มีรอยฟกช้ำ/ได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกหกล้ม
วัตถุประสงค์
1.เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดเข่า-ส้นเท้า
2.เพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินการทรงตัว ประเมินการมองเห็น การประเมินความสามารถในการทำ กิจวัตรประจำวันในผู้สูงอายุ และประเมินความเสี่ยงต่อการหกล้ม
2.แนะนำเลือกรองเท้าที่เหมาะสม มีเจลรับแรงกระแทกบริเวณส้นเท้าเป็นพิเศษ
3.บริหารโดยยึดพังผืดฝ่าเท้าสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น ช่วยลดแรงกระชากบริเวณจุดเกาะที่กระดูกส้นเท้า
4.แนะนำการบริหารร่างกาย.
5.6. แนะนำนวัตกรรมใช้เท้าเหยียบมะกรูดที่บรรจุในแผงไข่