Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพระบบประสาทระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง - Coggle…
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพระบบประสาทระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
การประเมินทางระบบประสาท
การซักประวัติ
ประวัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของกระบวนการคิดรู้
และการรู้สติ
-ประวัติเกี่ยวกับอาการผิดปกติที่พบบ่อย
ประวัติเกี่ยวกับพฤติกรรม และบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
ประวัติเกี่ยวกับการเจ็บป่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
ซึ่งมีผลต่อกระบวนการคิด
ประวัติเกี่ยวกับแบบแผนการดำเนินชีวิต พฤติกรรมบางอย่าง
ส่งผลต่อภาวะความเจ็บป่วยได้
การประเมินจากการตรวจร่างกายทางระบบประสาท
ระดับความรู้สึกตัว(Level of Consiousness)
การประเมินประสาทสมอง (Cranial nerve function)
การประเมินการเคลื่อนไหวและก าลังของแขนขา
การตรวจการทำงานของการรับความรู้สึก ( Sensory Function)
การตรวจอาการของการระคายเยื่อหุ้มสมอง (Signs of
meningeal irritation)
คอแข็ง (Stiff neck )
Brudzinki’s sign จะให้ผลบวกเมื่องอศีรษะและคอให้คางชิดอกแล้วมีการตอบสนองโดยการงอต้นขาและขาทั้งสองข้าง
Kernig sign
Glasgow Coma Scale : GCS
การสื่อภาษาที่ดีที่สุด (best verbal response) : V
การเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด (best motor response) : M
การลืมตา (eye opening) : E
ค่าคะแนนรวมทั้ง 3 ด้าน มีระดับคะแนนตั้งแต่ 3-15 คะแนนสามารถจ าแนกระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บ
เยื่อหุ้มสมอง
The Meninges
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองชั้นleptomeninges (piamater และ arachinoid) ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง โดยมีน้ำหล่อสมองและไขสันหลังไหลเวียนอยู่ เยื่อหุ้มสมองชั้นนี้จะติดต่อกันตลอด
พยาธิสรีรวิทยา
การติดเชื้อโดยตรงจากภายนอกเข้าสู่ subarachnoid space
การติดเชื้อที่ลุกลามไปจากแหล่งติดเชื้อที่อยู่ใกล้สมอง และไขสันหลัง
การแพร่กระจายทางละอองอากาศจากการไอ จาม เข้าสู่ mucosa ของรูจมูกแพร่ไปตาม เส้นประสาทสมองคู่ที่ 1 เข้าสู่สมอง
อาการและอาการแสดง
มีอาการไข้และปวดศีรษะส่วนใหญ่มักมีไข้สูง หนาวสั่น และมี
อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
มีอาการของเยื่อหุ้มสมองถูกระคายเคือง (meningeal
irritation) คือ มีอาการคอแข็งตึง (stiff neck)
ตรวจพบ kerninig sign และ Brudzinski sign ให้ผลบวก
นอกจากนี้ยังมีอาการกลัวแสง (photophobia)
มีภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง ท าให้มีอาการปวดศีรษะ
คลื่นไส้ อาเจียน ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
Waterhouse-Friderichsen syndrome
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจน้ำไขสันหลัง การตรวจวินิจฉัยเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่สำคัญคือ การตรวจน้ำไขสันหลัง โดยการเจาะหลัง
(Lumbar puncture)
การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ในรายที่มีเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ความดันน้ำไขสันหลังสูง
การรักษา
การรักษาตามอาการ เช่น การควบคุมการชักการรักษาภาวะสมองบวม
การรักษาเฉพาะ หลักการรักษา คือ ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ
โรค โดยเร็วที่สุด
สมองอักเสบ (Encephalitis)
เป็นการติดเชื้ออย่าง
เฉียบพลันของเนื้อเยื่อสมองและไขสันหลังส่วน parenchymalโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วน barsal ganglia ในการติดเชื้อนี้อาจ
รวมไปถึงชั้นเยื่อหุ้มสมองด้วย
พยาธิสรีรวิทยา
ไวรัส
เข้ามาตามเส้นประสามและเข้าสู่สมอง
เข้ามาทางเยื่อบุโพรงจมูก
แพร่กระจายมาตามกระแสเลือด
อาการและอาการแสดง
ระยะแรก ผู้ป่วยมักมีอาการน า ได้แก่ อาการไข้ ปวดศีรษะ
ครั่นเนื้อครั่นตัว
ระยะต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการทางสมอง ซึ่งจะพบความผิดปกติ
ของระดับความรู้สึกตัว บางราย
การตรวจวินิจฉัย
การตรวจ MRI
การตัดชิ้นเนื้อสมอง (Brain biopsy) จะ
ให้ผลการวินิจฉัยที่เฉพาะเจาะจงและแน่นอน
การเจาะหลัง
การรักษา
การรักษาเฉพาะเพื่อทำลายเชื้อโรค
การรักษาประคับประคอง
ฝีในสมอง (Brain abscess)
ฝีในสมอง อาจเกิดจากสมองติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา
ท าให้เกิดเป็นก้อนฝีหนองขึ้นมาเชื้อโรคเข้าสมองได้หลายรูปแบบ
ทางกระแสเลือด
ได้รับเชื้อโดยตรง
ลุกลามจากอวัยวะใกล้เคียงที่มีการอักเสบติดเชื้ออยู่
การบาดเจ็บที่เนื้อสมองและจากการแทงทะลุผ่านเนื้อสมอง
เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุที่พบบ่อย คือ แบคทีเรียกลุ่ม Aerobic
streptococcus และ Anaerobic streptococcus
พยาธิสรีรภาพ
อาจให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบร่วมด้วย ส่วนตัวฝีหนองเองก็
น าไปสู่การตายของเนื้อสมองส่วนที่เป็นฝีส่งผลให้เกิดการเพิ่มความดันภายในกะโหลกศีรษะ
อาการและอาการแสดง
อาการผิดปกติทางระบบประสาทเฉพาะที่
อาการผิดปกติทางระบบประสาท
การตรวจวินิจฉัย
MRI
การเจาะหลัง
CT
การรักษา
ฝีในระยะเริ่มแรกและมีขนาดเล็กกว่า 2 cm.
การผ่าตัด พิจารณา:ต าแหน่ง,ขนาด >
3 ซม.,จ านวน,ระยะของฝี
โรคแทรกซ้อน(Complication)
ภาวะสมองเคลื่อนที่ (Brain herniation)
ฝีแตกเข้าสู่โพรงสมอง (Ventriculitis)
Non infection ชัก (Seizure)
การรักษา
•มีปัญหาจากเมตาบอลิก หรืออิเล็กโทรลัยท์
•การติดเชื้อ
•มีสิ่งกินที่
ให้ยาต้านชัก
สาเหตุของการชักอาจมาจาก
•การติดเชื้อ การบาดเจ็บที่ศีรษะ โรคหลอดเลือดสมอง
•ความผิดปกติของสมองแต่ก าเนิด เนื้องอก
•ความไม่สมดุลของเมตาโบลิก หรืออิเล็กโทรลัยยท์
•พันธุกรรม
•ความเสื่อม และช่วงของการเลิกแอลกอฮอล์ หรือ barbiturate
ปัจจัยที่ส่งเสริมหรือกระตุ้นให้เกิดอาการชัก
•ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
•ภาวะที่ร่างกายขาดออกซิเจน
•อารมณ์เครียด การอดนอน การทำงานเหนื่อยมาก
พยาธิสรีรวิทยาการชัก
โดยทั่วไปในขณะที่เกิดการชักจะมีสัญญาณไฟฟ้าที่ผิดปกติจากผิวสมองร่วมกับสมองและร่างกายมีการใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น
ชนิดของการชัก
ชนิดที่เกิดขึ้นทั่วไป (generalized seizure)
ชนิดที่เกิดเฉพาะที่ (partial or Focal seizure )
การชักที่ไม่สามารถจัดอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง (classification
seizure)
การวินิจฉัย
•จากการซักประวัติและตรวจร่างกาย โดยเฉพาะ
การอธิบายลักษณะของการชัก
•เจาะเลือด เพื่อแยกสาเหตุจากปัญหาเมตาบอลิก
และอิเล็กโทรลัยท์
•ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าสมอง
หลักการพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการชัก
การดูแลเฉพาะเมื่อผู้ป่วยมีอาการชักหรืออยู่ในภาวะชักอย่างต่อเนื่อง
การรักษาด้วยการผ่าตัด หรือการใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้น
ควบคุมอาการชักด้วยยา
การคงไว้ซึ่งสุขภาพที่ดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
กำจัดสาเหตุและลดปัจจัยส่งเสริมให้เกิดอาการชัก
ส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการที่เกิดจากโรคและ
การรักษา