Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิของโรคติดเชื้อและโรคติดต่อในชุมชนระยะเฉียบพลันแล…

- - - - ไอ หรือไอปนเลือด
      - หายใจได้ลำบาก หายใจตื้น
    - - การตรวจสารพันธุกรรมด้วยวิธีพีซีอาร์
      - การตรวจทางภูมิคุ้มกันวิทยา
    - - เชื้อไวรัส โคโรนาไวรัส
    - - การรักษาแบบประคับประคองตามอาการของผู้ป่วย
  - - - ให้สารน้ำทางหลอดเลือด
      - ให้ออกซิเจน
      - ถ่ายเลือดหรือให้เลือด
      - รักษาระดับความดันโลหิต
    - - ถามประวัติของผู้ป่วย
    - - สัมผัสหรือรับประทานอาหารป่าแบบดิบหรือสุก
    - - มีไข้สูง
      - เจ็บคอ
      - ปวดศีรษะ
      - ปวดข้อต่อและกล้ามเนื้อ
      - ไม่อยากอาหาร
  - - - อ่อนเพลีย
      - ปวดเมื่อย
      - มีน้ำมูก
    - - การตรวจเลือด
      - การเก็บตัวอย่างเชื้อ (Swab Test)
    - - การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
    - - การบรรเทาอาการ
        
        การใช้ยาลดไข้หรือยาแก้ไอ
- - - - เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่าเรบีส์
    - - เก็บตัวอย่างเลือด
      - การตรวจน้ำลาย
      - ตรวจของเหลวจากไขกระดูกสันหลัง
    - - กลัวน้ำ ไม่สามารถกลืนน้ำลายได้
      - มีการเกร็งของกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอ กล้ามเนื้อที่ใช้กลืน และกล้ามเนื้อหายใจ
      - กลืนอาหารลำบาก
    - - วัคซีนป้องกัน
  - - - ปวดศีรษะ
      - ปวดศีรษะ
    - - การตรวจภาพเอกซเรย์ปอด
      - การตรวจเชื้อและการตรวจเพาะเชื้อจากเลือดและสารคัดหลั่ง
    - - Burkholderia Pseudomallei
    - - การรักษาด้วยยาต้านจุลชีพ
  - - - การตรวจเลือด
        
        เพื่อดูการทำงานของตับ
      - การเอกซเรย์ทรวงอก
    - - รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
    - - เล็ปโตสไปรา (Leptospira)
    - - คลื่นไส้ อาเจียน
      - ปวดศีรษะ มีไข้สูง หนาวสั่น
      - รู้สึกเหนื่อยล้า
  - - - เหงื่อออกมาก
      - ปวดศีรษะ
      - มีไข้สูง
      - คลื่นไส้
    - - การตรวจเลือดที่เรียกว่า Thick Smear และ Thin Smear
    - - การติดเชื้อโปรโตซัวที่เรียกว่า พลาสโมเดียม (Plasmodium)
    - - ยาต้านมาลาเรีย
        
        ยาดอกซีไซคลิน
        
        ยาควินิน ซัลเฟต
        
        ยาคลอโรควิน
        
        ยาเมโฟลควิน
  - - - ไม่มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    - - ให้ยา
        
        ให้ยาที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย
        
        Tetanus Immunoglobulin
    - - การติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่าคลอสตริเดียม เตตานิ (Clostridium Tetani)
    - - อาการชักเกร็งหรือกล้ามเนื้อขากรรไกรหดเกร็ง
      - มีอาการหดเกร็งที่กล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ตามมา
- - - - เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า วิบริโอ โคเลอรี (Vibrio Cholerae)
    - - คลื่นไส้และอาเจียน
      - ประสบภาวะขาดน้ำ
      - ท้องร่วง
    - - การให้รับประทานน้ำเกลือแร่
      - การให้รับประทานน้ำเกลือแร่
      - การใช้ยาปฏิชีวนะ
      - การให้แร่ธาตุสังกะสี
    - - เทคนิคพีซีอาร์
      - การตรวจตัวอย่างอุจจาระผู้ป่วย
      - การตรวจด้วยแถบตรวจอหิวาตกโรค
  - - - การตรวจสารพันธุกรรมด้วยวิธีพีซีอาร์
      - การตรวจปัสสาวะ และสารคัดหลั่งในร่างกาย
      - การตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อหรือแอนติบอดีด้วยวิธีอิไลซ่า
    - - ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
      - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
    - - เกิดจากการโดนยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัด
    - - มีผื่นแดง
      - อ่อนเพลีย
  - - - การติดเชื้อไมโครแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิส (Mycobacterium Tuberculosis)
    - - การตรวจทางผิวหนัง
        
        เพื่อดูระดับภูมิคุ้มกัน
    - - ระยะแฝง
        
        เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อแล้วจะไม่มีอาการใด ๆ
      - ระยะแสดงอาการ
        
        มีอาการไอเรื้อรัง
        
        ไอเป็นเลือด
        
        เจ็บหน้าอก
    - - การรับประทานยาต่อเนื่อง
        
        ไอโซไนอาซิด (Isoniazid)
        
        ไรแฟมพิซิน (Rifampicin)
        
        อีแทมบูทอล (Ethambutol)
  - - - เกิดจากร่างกายได้รับเชื้อไวรัสกลุ่ม Influenza Virus
    - - การเก็บตัวอย่างเชื้อจากน้ำมูกหรือเสมหะไปตรวจ
    - - ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
      - มีไข้สูงมาก
    - - แพทย์จะจ่ายยาเพื่อรักษาตามอาการที่ป่วย
    - - ชนิด B
        
        แพร่ระบาดตามฤดูกาลที่มีสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดเชื้อ
      - ชนิด C
        
        เป็นการติดเชื้อทางระบบหายใจที่ไม่รุนแรง
      - ชนิด A
        
        สามารถติดต่อจากสัตว์พาหะมาสู่คน
      - ชนิด D
        
        เป็นการติดเชื้อที่พบเฉพาะในสัตว์
  - - - การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโดยไม่สวมถุงยางอนามัย
      - การใช้เข็มฉีดยา เข็มสักตามตัว และการเจาะหู รวมถึงของใช้ส่วนตัว
      - การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)
      - การสัมผัสเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล
      - อาการ
        
        คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นผื่น ปวดข้อ
    - - การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโดยไม่สวมถุงยางอนามัย
      - การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)
      - -การใช้เข็มฉีดยา เข็มสักตามตัว และการเจาะหู รวมถึงของใช้ส่วนตัว
      - อาการ
        
        มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านชายโครงขวา
    - - การล้างมือไม่สะอาดหลังเข้าห้องน้ำ
      - การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
      - ติดจากการทานอาหารจากผู้ป่วย
      - ดื่มน้ำที่มีเชื้อแฝงอยู
      - ไวรัสตับอักเสบเอจะไม่ติดต่อทางน้ำลาย และปัสสาวะ
      - เป็นไข้ตัวร้อน ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แน่นบริเวณชายโครงด้านขวา ท้องร่วง อุจจาระสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
    - - สามารถออกกำลังกายแบบเบาๆ ได้ แต่ไม่ควรหักโหมเหมือนตอนที่ร่างกายเป็นปกติ
      - งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการกระตุ้นการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส และทำให้เซลล์ตับเสื่อมมากขึ้น
      - ควรพักผ่อนนอนหลับให้พอเพียง พยายามไม่เครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส