Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิของโรคติดเชื้อ และโรคติดต่อในชุมชน…
บทที่ 5 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิของโรคติดเชื้อ และโรคติดต่อในชุมชน ระยะเฉียบพลันและเรื้อรัง
Isolation precautions
การปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อและควบคุมการแพร่กระจาย เชื้อจากผู้ป่วยสู่ผู้ป่วย บุคลากร ญาติและสิ่งแวดล้อม
Standard Precautions
ทุกรายอาจจะมีเชื้อโรคที่สามารถติดต่อได้ทางเลือดและสารคัดหลั่งจากร่างกายทุกชนิด (Body fluid, Secretion) ผิวหนังที่มีแผลและเยื่อบุ (Mucous membrane)
Standard Precautions PLUS
Airborne Precautions
การแพร่กระจายเชื้อทางอากาศที่เกิดฝอยละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน
TB ระยะแพร่เชื้อ, Measles (หัด), Chicken pox (สุกใส), SARS, Anthrax (aerosolized), Small pox, Monkey pox, Herpes Zoster : Disseminated disease, Viral Hemorrhagic Fevers (VHF) : Ebola/Lassa
การพ่นยา การดูดเสมหะ การใส่ท่อ/ถอดช่วยหายใจ และการส่องกล้องเข้าหลอดลม
สวมผ้าปิดปากปิดจมูกที่มีคุณสมบัติกรองเชื้อโรค เมื่อเข้าไปใน ห้องผู้ป่วยหรือเข้าใกล้ผู้ป่วยจนกว่าผู้ป่วยจะพ้นระยะการแพรเชื้อ เช่น สวม Particulate mask (N95) ในกรณีของผู้ป่วยวัณโรคหรือ สวม Surgical mask ในกรณีอื่น
Contact Precautions
การแพร่กระจายเชื้อจากการ สัมผัสโดยตรง (Direct contact), เป็นการแพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คน หรือจากการสัมผัสโดยอ้อม (Indirect contact)
สวมถุงมือและถอดถุงมือทันทีหลังให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วย
สวมเสื้อคลุม หรือ ผ้ากันเปื้อนพลาสติกเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย
ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ถ้าจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ให้ห่อหุ้มหรือปิดส่วนที่มีการติดเชื้อ
อุปกรณ์เครื่องมือ-เครื่องให้แยกใช้หลังใช้ งานต้องล้างให้สะอาด
แนะนำการปฏิบัติตัวแก่ญาติในการเข้าเยี่ยม โดยให้ล้างมือ ก่อน-หลังสัมผัสทำลายเชื้อและควรจำกัดคนเข้าเยี่ยม
Droplet Precautions
การแพร่กระจายเชื้อจากฝอยละอองน้ำมูก และ/ หรือน้ำลายที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน
ให้สวมผ้าปิดปาก-จมูก ชนิด Surgical mask เมื่อต้องเข้าใกล้ ผู้ป่วย ภายในระยะ 3 ฟุต
ชนิด Surgical mask เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจาย
Transmission-based precautions
เป็นวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อในผู้ป่วยที่ทราบ การวินิจฉัยแล้วโดยป้องกันตามกลวิธีการติดต่อเพิ่มเติมจากการดูแลผู้ป่วย ด้วย Standard precautions
Airborne precautions
Droplet precautions
Contact precautions
การป้องกันการติดเชื้อ
การแยกผู้ป่วยที่เป็นแหล่งของเชื้อโรคออกจากผู้ป่วยอื่น เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อไปสู่ผู้ป่วยอื่น (Infectious Isolation)
สิ่งที่จำเป็นสำหรับการแยกผู้ป่วย และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ห้องสำหรับแยกผู้ป่วย เป็นห้องที่มิดชิด ถ้าเป็นห้องปรับอากาศเป็นแรงดันลบ
ห้องที่ใช้แยกผู้ป่วยที่มีเชื้อโรค ติดต่อผู้อื่นได้ ในห้องควรมีความดันตํ่า เวลาเปิดประตูจะดูดอากาศข้างนอกเข้าไปและอากาศ ข้างในไม่ออกมาข้างนอก
ห้องที่ใช้แยกผู้ป่วยติดเชื้อง่าย ควรจะเป็นแรงดันบวก มีความดันในห้องสูง เวลาเปิดประตู อากาศในห้องจะออกและอากาศนอกห้องไม่สามารถพัดเข้าในห้องได้
ในห้องควรจะมีอ่างล้างมือสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และญาติ, เสื้อคลุม, ภาชนะใส่เสื้อคลุม, หมวก ฯลฯ ที่ใช้แล้ว
การแยกผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันโรคตํ่า หรือติดเชื้อได้ง่ายให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปราศจากเชื้อโรคหรือมีเชื้อโรคน้อย (Protective Isolation)
Infectious diseases
เป็นความผิดปกติที่เกิดจาก แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ปรสิต บางโรคเกิดจากคนสู่คน สัตว์สู่คน พิษของสัตว์ สู่คน เช่น ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ หรือสิ่งแวดล้อม
Communicable Diseases
เป็นความเจ็บป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือสารพิษที่เกิดขึ้น ทั้งการติดต่อโดยตรง หรือโดยอ้อม จากคนสู่คน หรือจากสัตว์สู่คน หรือสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อสัตว์หรือคนที่ติดเชื้อ
Neglected Tropical disease (NTD)
โรคเขตร้อน เป็นกลุ่มโรคที่มีความหลากหลาย พบได้ทั่วไปในประชากรที่มีรายได้ต่ำ ในภูมิภาคกําลังพัฒนาของแอฟริกาเอเชียและอเมริกา
ตัวอย่างเช่น HIV /AIDs , Tuberculosis , Malaria
Emerging Infectious Disease (EID)
โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ หรือ โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำ
เชื้อโรคเดิมที่มีการปรับตัว & วิวัฒนาการ มีผลให้เกิดโรคขึ้นมาอีก เช่น ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
เชื้อโรคที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป มีการแพร่กระจายไปยังภูมิประเทศใหม่หรือกลุ่มประชากรใหม่
การติดโรคที่เป็นที่รู้จักดีในพื้นที่เคยประสบมาแล้ว ซึ่งมีระบบนิเวศน์ที่มีเปลี่ยนรูป
โรคติดเชื้ออุบัติซ้ำขึ้นมาใหม่ (โรคที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้ว กลับมาเกิดขึ้นอีก) เนื่องจากการดื้อยาของเชื้อโรค เช่น วัณโรค Tuberculosis
covid 19
สายพันธุ์ที่ก่อโรคไม่รุนแรง จำนวน 4 สายพันธุ์
HCoV-229E,
HCoV-OC43,
HCoV-NL63
HCoV-HKU1
สายพันธุ์ที่ก่อโรครุนแรง จำนวน 3 สายพันธุ์
ไวรัสซาร์ส-โควี (SARS-CoV)
ไวรัสเมอร์ส-โควี (MERS-CoV)
วรัสซาร์ส-โควี-2 (SARS-CoV-2)
อาการ
ปวดเมื่อยเนื้อตัว
เจ็บคอ
ท้องเสีย
ตาแดง
ปวดศีรษะ
สูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นและรับรส
มีผื่นบนผิวหนัง หรือนิ้วมือนิ้วเท้าเปลี่ยนสี
leptospirosis
Signs and Symptoms แบ่งเป็น 2 ระยะ
ระยะที่ 1
High fever
Headache
Chills
Muscle aches
Vomiting
Jaundice (yellow skin and eyes)
Red eyes
Abdominal pain
Diarrhea
Rash
การเจ็บป่วยจะเกิดขึ้นใน 2 วัน ถึง 4 สัปดาห์ หลังได้รับเชื้อ
ระยะที่ 2
อาการจะรุนแรงมากขึ้น อาจมีไตวาย ตับวาย เยื่อหุ้มสมองอักเสบได้
ความเจ็บป่วยใช้เวลา 2 วันถึง 3 สัปดาห์หรือนานกว่านั้น หากไม่มีการรักษาอาจใช้เวลาหลายเดือน
Treatment
Leptospirosis ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเช่น doxycycline หรือ penicillin
ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดําจะใช้ในรายที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น
Risk of Exposure
เกษตรกร
คนงานเหมือง
คนงานท่อระบายน้ำ
คนงานโรงฆ่าสัตว์
สัตวแพทย์และผู้ดูแลสัตว์ป่า
ชาวประมง
เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Leptospira
melioidosis
โรคเมลิออยโดสิส เป็นโรคติดเชื้อที่ในประเทศไทยยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ความรุนแรงของโรคทำให้เสียชีวิตได้
อาการ
การติดเชื้อที่ปอด
การติดเชื้อเฉพาะที่เฉียบพลัน
การติดเชื้อในกระแสเลือด
การรักษา
ใช้ยาที่เหมาะสมกับตำแหน่งของการติดเชื้อ
hepatitis
Symptoms
ปวดกล้ามเนื้อและข้อ
มีไข้ อุณหภูมิสูง
มีความรู้สึกไม่สุขสบาย
รู้สึกเหนื่อยผิดปกติตลอดเวลา
เบื่ออาหาร
ปวดท้อง
ปัสสาวะสีเข้ม
อุจจาระซีด, สีเทา
ผิวคัน
การติดเชื้อ Hepatitis A
การกินอาหารที่เตรียมโดยคนที่มีการติดเชื้อที่ไม่ได้ล้างมืออย่างถูกต้อง
การดื่มน้ำที่ปนเปื้อนรวมถึงน้ำแข็ง
การกินหอยดิบหรือหอยที่ล้างผ่านน้ำที่ปนเปื้อน
การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ
Hepatitis B
ซึ่งแพร่กระจายทางเลือด สารคัดหลั่ง การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน
การรักษา
hepatitis B vaccine
hepatitis C ต้องรักษาให้ตรงกับ genotypes ของไวรัส C
มาลาเรีย
แต่โรคนี้ยังนับว่าเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญในทวีปแอฟริกา บางส่วนของอเมริกาใต้ และเอเชีย
หรือไข้จับสั่น ไข้ป่า ไข้ป้าง เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวชนิด พลาสโมเดียม (Plasmodium)
การป้องกัน
หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกในช่วงเวลาที่ยุงก้นปล่องออกหากิน ช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินและช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
สวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด ให้เหลือพื้นที่ที่มีโอกาสโดนยุงกัดน้อยที่สุด ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีดำหรือสีคล้ำ
ใช้ยาทากันยุง
นอนกางมุงเพื่อป้องกันยุง ควรเอาชายมุ้งสอดเข้าไว้ใต้ที่นอนด้วย