Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภูมิปัญญาด้านที่อยู่อาศัย :house_buildings: :house_with_garden:,…
ภูมิปัญญาด้านที่อยู่อาศัย
:house_buildings: :house_with_garden:
การเลือกทำเลที่อยู่
:mountain: :evergreen_tree:
ภาคกลาง
เป็นที่ราบลุ่มที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย
การตั้งบ้านบ้านเรือนจึงมักสร้างอยู่ตามริมแม่น้ำเป็นแนวยาวไปตลอดทั้งสองฝั่งของลำน้ำ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสาน
เป็นภาคที่มีความแห้งแล้งกว่าภาคอื่นๆถึงแม้ว่าในแต่ละปีฝนตกในปริมาณไม่น้อยกว่าภาคกลางแต่เนื่องจากในดินแดนส่วนใหญ่เป็นดินปนทรายที่ไม่อุ้มน้ำ จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำได้
ดังนั้นจึงมีการเลือกสถานที่ตั้งบ้านเรือนแตกต่างไปตามสถานที่ คือ มีทั้งที่ราบลุ่ม ใกล้แหล่งน้ำ ที่ดอนมีน้ำซับ หรือชายป่า
ภาคเหนือ
ชาวเหนือนิยมตั้งถิ่นฐานบริเวณที่มีลุ่มริมแม่น้ำระหว่างหุบเขา เมื่อเมื่อขยายตัวขึ้น
จึงต้องมีการจัดระบบชลประทานที่เรียกว่า
ฝาย
เพื่อให้มีน้ำพอใช้ในการเกษตร
ภาคใต้
ถึงแม้ว่าภาคใต้จะมีฝนตกชุกและมีแม่น้ำลำคลองหลายสาย แต่ชาวใต้ก็เอาใส่น้ำบ่อ หรือน้ำพัง(ตระพัง) ในชีวิตประจำวัน
เหตุที่ไม่นิยมใช้น้ำจากแม่น้ำลำคลอง เนื่องจากแม่น้ำภาคใต้ส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากน้ำเค็มเมื่อน้ำทะเลหนุน
ลักษณะของเรือนไทย
:house:
เรือนไทยภาคเหนือ
(เรือนกาแล เรือนล้านนา)
เรือนที่อาศัยมักมีชายคาที่ลาดคลุมลงมาต่ำถึงตัวเรือน การวางตัวเรือน หันข้างเรือนไปทางทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อให้ห้องนอนได้รับแสดงแดด
ลักษณะเด่น
คือ ที่ยอดปั้นลมนิยมประดับไม้กาแลที่แกะสลักอย่างงดงาม
เรือนภาคอีสาน หรือเฮือนอีสาน
มีลักษณะเรือนกึ่งถาวร เป็นเรื่องเครื่องผูก ผสมเรือนเครื่องสับ, เรือนตั้งต่อดิน
นิยมปลูกเป็นเรือนแฝดไต้ถุนสูง, เรือนถาวร หรือเรือนเครื่องสับไม้จริง รูปทรงเรียบง่าย
เรือนไทยภาคกลาง
แบ่งออกเป็น
เรือนครอบครัวเดี่ยว
เป็นเรือนขนาดเล็กมีเรือนนอน 1 หลัง แบ่งเป็นห้องนอนและห้องโถง เรือนครัวอีก 1 หลัง เรือนทั้ง 2 หลังเชื่อมด้วยระเบียง
เรือนครอบครัวขยาย
เมื่อลูกสาวแต่งงาน พ่อกับแม่มักปลูกเรือนให้ลูกสาวและลูกเขยอยู่ต่างหากอีก 1 หลัง ซึ่งอยู่ด้านข้าง ด้านตรงข้ามของเรือนพ่อแม่ หรือปลูกเป็นเรือนที่ตั้งเป็นเอกเทศออกจากเรือนพ่อแม่ก็ได้
เรือนคหบดี (เรือนหมู่ขนาดใหญ่)
ผู้สร้างมักมีฐานะดี ประกอบด้วย เรือนใหญ่ เรือนรี เรือนขวาง เรือนครัว และหอนอก เรือนทุกหลังเชื่อมต่อกัน ชานโล่ง ไม่มีมุงหลังคา แต่บริเวณกลางชานมักเจาะเป็นช่องเพื่อปลูกต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา
เรือนภาคใต้
นิยมเอาท่อนไม้ หิน หรือปูนหล่อเป็นฐานรองรับเสาไม้ โดยไม่ยึดติดระหว่างเสา และฐานให้มั่นคง แข็งแรง
แบ่งออกเป็น
เรือนไทยพุทธ
เรือนมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก หลังคาจั่วและไม่ยกพื้นสูงให้คนเดินลอดได้สะดวก เนื่องจากมีลมพายุพัดผ่านเสมอ มีชายคายื่นยาว ช่องหน้าต่างน้อย และนิยมมุงหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผา
เรือนไทยมุสลิม
เป็นเรือนที่สะท้อนสถาปัตยกรรมพื้นบ้านและวัฒนธรรมอิสลาม มีการกำหนดบริเวณแบ่งแยกพื้นที่สำหรับเพศชายและเพศหญิงอย่างชัดเจน และยังเป็นเรือที่เคลื่อนย้ายไปปลูก ณ ที่แห่งใหม่ได้สะดวก ส่วนหลังคานิยมสร้างเป็นทรงจั่ว ทรงปั้นหยา หรือทรงมนิลา
นายศตพรรษ ใจละออ เลขที่2 ม.4/1
:fireworks: