Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

สรุปบทที่ 11 - Coggle Diagram

- - - - severe: 0-3
      - Moderate:4-5
      - Mild:6-7
      - เตรียม Naloxone
  - - - การตั้งครรภ์หลายครั้ง
        
        การดูแลก่อนคลอดไม่เพียงพอ
        
        คุณแม่อายุน้อยกว่า 16 ปีหรือมากกว่า 35 ปี
        
        ประวัติการเจ็บป่วยปริกำเนิดหรือการเสียชีวิต
        
        การตั้งครรภ์ระยะหลัง
        
        การใช้ยาและสารเสพติด
        
        โรคความดันโลหิตสูงโรคเบาหวาน
    - - เจ็บครรภ์ก่อนกำหนด
        
        น้ำคร่ำเปื้อนขี้
        
        การแตกของเยื่อหุ้มมดลูกมากกว่า 24 ชั่วโมง
        
        การใช้ยาnarcotics ภายใน 4 ชั่วโมงหลังคลอด ลูกจะถูกกดศุนย์การหายใจต้องเตรียมให้ Naroxone
        
        ส่วนนำที่ผิดปกติ
        
        การใช้แรงงานเป็นเวลานานหรือการคลอดที่เร่งรัด
        
        เลือดออก (รกลอกตัว / รกเกาะต่ำ)
        
        Prolapsed cord
  - - - -Alveoli มี fluid filled ในหลอดเลือดหดตัว และออกซิเจนไปไปปอดได้น้อยลงจากการที่เด็กมีการใช้ออกซิเจนจากแม่อยู่
      - thick,thin meconium ที่เข้า Avioli จะทำให้เกิด RDS
    - - ของเหลวในถุงลมถูกดูดซึม
      - เมื่อเด็กออกมาให้ดูด suctionที่ ปากและจมูกก่อนเสมอ แล้วใช้ผ้าเช็ดตัวเด็กเพื่อป้องกัน Subtemp หรือHypothermia
      - เมื่อมีการเพิ่ม ออกซิเจนและbloodflow ductus จะปิดไม่เกิน 1 เดือน ถ้าไม่ปิดเป็น PDA
  - - - A:clear airwayด้วย rubber bulb ทำใน wermer
      - B:Ventilation ต้องให้ PPV
      - C:Chest compressions เมื่อ HR<60
      - D:บริหารยา epinephrine
      - E:การไม่เปิดเผยทารก ต้องใส่เสื้อผ้า อยู่ในที่อบอุ่น เพื่อปกป้องไม่ให้เกิด birth asphycia, subtemp
- - - - กะโหลกศีรษะร้าวหรือบุบ (fracture of the skull)
        
        มักเกิดจากการใช้F/C ถ้าdura ขาด เยื่อหุ้มสมองหรือ เนื้อสมองอาจยื่รอออกมา ทำให้เกิด Leptomeningeal cyst ทำให้ชักและสมองพิการได้
      - กะโหลกศีรษะบุบ
        
        คล้ายลูกปิงปองบุบ กระดูกไม่แตก มักเกิดจากการใช้F/E
        
        การรักษา:ยกส่วนบุบขึ้น โดยใช้breast pump หรือ vacuum
        
        การพยาบาล
        
        ให้ทารก rest ใน crib ไม่รบกวน
        
        สังเกตอาการอย่างน้อย48ชั่วโมง เช่น เกร็ง กระตุก ซีด การหายใจ
        
        ไม่ใช้ยาทา นวด ประคบหรือเจาะเอาเลือดออก
        
        กระดูกไหปลาร้าหัก(Fracture clavicle)
        
        เกิดในเด็กตัวโต คลอดติดไหล่ อาจมี brachial plexus injury ร่วมด้วย
        
        ไม่จำเป็นต้องใส่เฝือก
        
        คลำได้เสียงกรอบแกรบประมาณ 2 สัปดาห์ ต่อมาจึงจะคลำ callus ได้เป็นก้อนแข็ง
        
        เมื่อทดสอบ mororeflex ทารกยกแขนข้างที่ดีเท่านั้น กล้ามเนื้อ sternomastoid ตึง
        
        การพยาบาล:จัดแขนและไหล่ด้านที่กระดูกหักให้อยู่นิ่ง โดบกลัดแขนเสื้อให้ข้อศอกงอ 90 องศา ติดลำตัว
      - Fracture of femur
        
        พบมากจากการคลอดท่าก้น
        
        ทำ moro reflex แล้วทารกไม่ยกขา
        
        การพยาบาล
        
        ให้ใส่เฝือกขายาว 3-4 week
        
        ดึงขาในรายที่กระดูกหัก 2-3 week
      - Epiphyseal injury
        
        ภาพรังสีในระยะแรกจะไม่เห็นอะไรผิดปกติ 1 สัปดาห์จึงจะพบ sub periosteal calcification อาจมีกระดูกเคลื่อน
    - - เลือดออกภายในกะโหลกศีรษะ (Intracranial hemorrhage)
        
        Reflex ลดน้อยลงหรือไม่มี โดยเฉพาะ Moro reflex เสียไป
        
        ดูดนมไม่ดี ร้องเสียงแหลม อ่อนแรง ซีด เขียว หายใจเร็วตื้น ช้าไม่สม่ำเสมอ หรือ หยุดหายใจ กระหม่อมโป่งตึง ชัก
        
        ผลการตรวจอื่นๆ
        
        Cerebral ultrasonography
        
        Computed tomography scan
        
        Lumbar puncture
        
        การพยาบาล
        
        ให้อยู่ในตู้อบ
        
        ให้ยา Vitk1, Phenobarbital
        
        ติดตาม warning signs
      - Brachial plexus injury
        
        พบในท่าก้น หรือคลอดติดไหล่
        
        อันตรายต่อส่วนบนหรือบริเวณ C5-C6 และอันตรายต่อส่วนล่าง หรือบริเวณ C7-C8 และ T1
        
        การพยาบาล
        
        จัดท่าให้เหมาะสม นอนหงาย จับแขนกางออก ให้ศอกตั้งฉากกับลำตัว
        
        จัดท่าทารกดูดนม โดยใช้ผ้าพันแผลชนิดยืด พันแขนแนบไว้กับลำตัวชั่วคราว
      - Erb’s palsy
        
        มีพยาธิสภาพที่รากประสาทคอ C5,C6
        
        ข้อศอกเหยียด ข้อมืองอและคว่ำมือ
      - Klumpke’s paralysis
        
        C8,T1: wrist drop
      - Complete brachial plexus palsy
        
        พบที่ C5-T1
        
        แขนอยู๋นิ่ง เหงื่อไม่ออก มี Horner’s syndrome
      - Facial Palsy
        
        เกิดจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ถูกกด
        
        กล้ามเนื้อของใบหน้าซีกที่เส้นประสาทถูกกด จะไม่ขยับ หน้าเบี้ยวไปทางซีกดี ใบหน้า 2 ด้านจะไม่เท่ากัน ตาซีกที่เสียจะปิดไม่สนิท หรือลืมตาอยู่ตลอดเวลา ปากเบี้ยวไปทางซีกดี ไม่มีรอยย่นที่หน้าผาก
      - Congenital dislocation of hip
        
        ตรวจพบข้อตะโพกหลุดแต่กำเนิด
      - ความผิดปกติอื่นๆ
        
        Miliaria crystallina: เกิดจากกการมีเหงื่อคั่งใต้ชั้น cornea
        
        Silver nitrate or chemical burn:จากหยอดตาด้วย silver nitrrate เปลือกตาบวม มีน้ำตาและน้ำคัดหลั่งไหลออกมา มีคราบแห้ง ที่หนังตา (Chemical blepharoconjunctivitis)
        
        Subconjunctival hemorrhage:เกิดจากกการเพิ่มความดันภายในหลอดเลือด
        
        Erythema toxicum
        
        กลุ่มศีรษะผิดปกติ
        
        Tongue tie:ภาวะลิ้นติด ทำให้ดูดนมลำบาก
        
        Meconium aspiration:ทารกสูดสำรักขี้เทา
        
        เกิดจากการขาดออกซิเจน หรือสายสะดือถูกกด ทำให้สูดสำลักขี้เทา เกิดการหายใจลำบาก ส่งผลให้post term หรือ น้ำหนักน้อย
        
        อาการ
        
        ทารกหายใจเร็วมากกว่าปกติ(60/นาที)
        
        ปลายมือปลายเท้าเขียว
        
        Apnea
        
        หน้าอกโป่งผิดปกติ
        
        Abnormal Breath sound อาจเจอ crepitation
        
        อาจพบ pneumothorax
        
        ภาพถ่ายรังสีจะพบ pleural effusion
        
        การพยาบาล
        
        สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
        
        clear air way
        
        ดูแลให้ได้รับออกซเจน
    - - Caput succedaneum
        
        คลำก้อนบวมได้บริเวณ Occiput parietal region กดแล้วบุ๋ม
        
        การพยาบาล
        
        1.สังเกตลักษณะ ขนาด และการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ
        
        2.สังเกตการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท
        
        3.ถ้ามีรอยช้ำ(ecchymosis)มาก ต้องส่องไฟ phototheraphy เพื่อรักษาภาวะตัวเหลือง
      - Cephalhematoma
        
        พบหลัง 24 ชั่วโมง คลำพบก้อนนูนอยู่บนกะโหลกแต่ละชิ้น โป่งตึง กดไม่บุ๋ม ทารกซีด
        
        การพยาบาล
        
        ให้ทารกนอนตะแคงด้านตรงข้ามกับก้อน เพื่อป้องกันการกดทับที่กระตุ้นให้เลือดออกมากขึ้น
        
        เจาะ Hctและให้เลือด เพื่อป้องกันภาวะซีด
        
        ไม่ใช้ยาทา นวด ประคบหรือเจาะเอาเลือดออก
      - Ecchymosis, Abrasion
        
        จากการคลอดที่ใช้V/E,F/E
      - Subgaleal hemorrhage
        
        เลือดสะสมใต้ผังผืด epicranium aponeurosis เลือดออกเซำะทั่วศีรษะ
      - Subarachnoid hemorrhage
        
        เลือดออกที่เยื่อหุ้มสมองส่วนกลาง เลือดออกชั้น subrachnoid
        
        หนังศีรษะมีรอยถลอก นูนเล็กน้อย รูม่านตาไม่เท่ากัน กระหม่อมตึง sutureกว้าง
      - Fat necrosis
        
        มีลักษณะเป็นก้อน สีผิวบริเวณนั้นจะมีสีแดงม่วงๆตามรอยกดทับ พบได้อายุวันที่ 5-7 วัน ในราย birth asphyxia อย่างรุนแรง อาจพบ fat necrosis แผ่ทั่วร่างกาย บริเวณ extensor surface
        
        ไม่ต้องรักษา ยกเว้น รายที่เป็นมาก มักเกิดการติดเชื้อ ต้องให้ยาปฏิชีวนะ และทำความสะอาดแผล