Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เตียง16 มภร10/1 Diagnosis : Acute ischemic stroke, กลืนลำบาก (Disphagia),…

- - - - ประเมินความสามารถในการดื่มน้ำและการรับประทานอาหาร
        โดย ตรวจสอบปฏิกิริยาการขย้อนและการกลืนก่อนเริ่มการให้อาหาร
        คือ การทดสอบ Gag reflex ให้ผู้ป่วยอ้าปากเพื่อประเมินการขย้อน เเละทดสอบการกลืน
      - ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งก่อนให้รับประทานอาหาร
        เพื่อป้องกันการไอและการสำลักขณะหรือ หลังรับประทานอาหาร
      - 3.จัดท่านั่งให้เหมาะสม ผู้ป่วยควรจัดอยู่ใน 30 องศา เพื่อป้องกันการไอและสำลัก
      - ดูแลการให้อาหารทางสายยาง
        -ให้ดูดทดสอบปริมาณของเหลวที่เหลือค้างในกระเพาะอาหาร ถ้าปริมาณของเหลวเหลือค้าง 200-500 มิลลิลิตร
        ให้อาหารตามปกติได้โดยมีการเฝ้าดูและสังเกตอาการผิดปกติอย่างได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืดมาก คลื่นไส้ อาเจียน
        ของเหลวที่เหลือค้างในกระเพาะอาหารที่ดูดออกมาควรใส่กลับคืนทั้งหมด
        -ดูแลไม่ให้สายหัก พับ งอ เพื่อให้ได้รับสารอาหาร
        -milkingสายให้อาหาร เพื่อไม่ให้สายอุดตัน และกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
      - ติดตามโดยบันทึกปริมาณน้ำที่เข้าออกจากร่างกายเพื่อประเมินความสมดุลย์ของน้ำในแต่ละวัน
      - สอนSpeech therapyให้กับผู้ป่วย ได้ฝึกทำตามและสอนเทคนิคการกลืนให้กับผู้ป่วย
        บริหารกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนคือกล้ามเนื้อปากเเละกล้ามเนื้อลิ้น
        
        การบริหารลิ้น
        
        -ให้ผู้ป่วยใช้ลิ้นแตะมุมปากทั้ง 2 ข้างสลับกัน
        
        -ให้ผู้ป่วยใช้ลิ้นแตะกระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้างสลับกัน ถ้าผู้ป่วยทำได้ให้ผู้บำบัดออกแรงต้านโดยเอานิ้วดันบริเวณแก้มของผู้ป่วยในทิศทางตรงข้าม
        
        -ให้ผู้ป่วยเดาะลิ้น /ให้ผู้ป่วยพูด ลาลาลา คาคาคา หรือ คาลาคาลา คาลาให้เร็วเท่าที่จะทำได้
        
        -ให้ผู้ป่วยยกลิ้นแตะเหงือก แล้ให้เคลื่อนลิ้นจากด้านหน้าไปด้านหลังซ้ำๆ
        
        -ใช้ขนมหวาน น้ำหวาน แตะบริเวณริมฝีปากบนและล่าง และมุมปาก และให้ผู้ป่วยใช้ลิ้นเลีย
        
        การบริหารกล้ามเนื้อปากและแก้ม
        
        -ให้ผู้ป่วยออกเสียงอา และอ้าปากค้างไว้
        
        -เม้มริมฝีปากแน่นๆ แล้วคลายออก
        
        -กิจกรรมการเป่า ดูด ดูดน้ำจากหลอด เป่าเทียน เป่าบั้บเบิ้ล เป่ากระดาษ เป่านกหวีด เป่าน้ำ เป็นต้น
        
        -ทำปากจู๋ สลับกับฉีกยิ้มหรือออกเสียง อู สลับกับ อี/
        กักลมในปากให้แก้มป่อง และปล่อยลมออกช้าๆ
        
        การบริหารขากรรไกร
        
        -อ้าปากกว้างค้างไว้ 5 วินาที และออกเสียง อา แล้วหุบปากให้ฟันกระทบกัน
    - - 1.ผู้ป่วยยังไม่สามารถกลืนน้ำและอาหารได้เอง
      - 2.ผลการประเมินการกลืน (standing swallowing assessment) พบปัญหา : ผู้ป่วยจะไอเมื่อให้จิบน้ำ
      - 3.ผู้ป่วยน้ำหนักคงที่ ได้อาหารครบ3มื้อ
    - - 2.ผลการประเมินการกลืน (standing swallowing assessment) ไม่พบปัญหา
      - 1.ผู้ป่วยสามารถกลืนน้ำและอาหารได้เอง
      - 3.ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอ ครบ3มื้อ น้ำหนักไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว
    - - 3.ป้องกันภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก
      - 1.ผู้ป่วยไม่มีอาการสำลักเวลากลืน
      - 2.ได้รับน้ำเเละอาหารเพียงพอ
    - - เเบบประเมินการกลืน (standing swallowing assessment)
        ทดสอบโดยให้ผู้ป่วยกลืนน้ำดื่ม ผลคือผู้ป่วยไอ
      - ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงซีกซ้าย มุมปากซ้าย
        Motor power แขนขวา ขาขวา : 5 กำลังปกติ , แขนซ้าย ขาซ้าย : 4 ต้านแรงผู้ตรวจได้บ้าง
  - - - ญาติให้ข้อมูลว่ามีผู้ป่วยไม่กินยาตามเเพทย์สั่ง กินบ้าง ไม่กินบ้างเเละไม่ไปพบเเพทย์
      - ผู้ป่วยรู้ว่าตัวเองป่วย เเต่ไม่ดูเเลตนเองเนื่องจากินยาไปก็คิดว่าไม่หายจากโรคเลยไม่กินยา
    - - ผู้ป่วยเเละญาติสามารถเรียนรู้เเละเข้าใจในการดูเเลได้อย่างถูกต้องเมื่อออกเเละในจากรพ.
    - - ผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตนเอง เกี่ยวกับการดูเเลตัวเองได้เเละปฎิบัติตัวเพื่อไม่ให้อาการพูดอืออา. การเคลื่อนไหวร่างกาย กลืนลำบาก สามารถดูเเลตัวเอง เเละเกิดการตระหนักในการดูเเล ไม่กลับมารักษาตัวในโรงพยาบาลอีก
    - - แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมที่สามารถช่วยเหลือตนเองและทำได้ เช่น การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ การฝึกพูด
      - 2.ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคและอาการที่จะเกิดขึ้นให้ญาติและผู้ป่วยฟัง เพื่เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและปฏิบัติ และปฎิบัติตามการรักษาในเฉพาะเรื่องดูเเลตนเอง
      - 3.การให้คำแนะนำในตอนที่อยู่โรงพยาบาลและกลับบ้านโดยจะให้ โดยจะให้ผู้ดูแลผู้ป่วยช่วยเหลือผู้ป่วยในการปฏิบัติตัว ในการออกกำลังกายเเละการเกิดปัจจัย การเกิดปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะส่งผลอาการเกิดขึ้นอีก
      - 4.ควรให้ควรให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ทุกครั้ง. เพื่เพื่อติดตามผล
      - 5.ให้กำลังใจผู้ป่วยเพื่อผู้ป่วยจะมีกำลังใจในการปฎิบัติตัวมากขึ้น
    - - ผู้ป่วยตระหนักในการดูแลตนเองเพิ่มมากขึ้นและรักตัวเองมากขึ้น
        ญาติผู้ป่วยให้ความสำคัญกับผู้ป่วยและการช่วยเหลือช่วย และการช่วยเหลือผู้ป่วยมากขึ้น
  - - - Motor power แขนขวา ขาขวา : 5 กำลังปกติ , แขนซ้าย ขาซ้าย : 4 ต้านแรงผู้ตรวจได้บ้าง)
      - ผู้ป่วยร้องไห้เเละน้ำตาซึมบ่อยๆ
      - ญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยมักวังกลในโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
    - - สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่เป็นอยู่ การยอมรับในตัวเอง
    - - 1.ผู้ป่วยสามารถปรับตัวได้
      - 2.ผู้ป่วยพยายามจะเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตนเอง
      - 3.ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม
    - - 1.ประเมินสภาพจิตใจกับผู้ป่วย ญาติเเละพยาบาลให้ความสนใจรับฟังปัญหา หรือพูดคุยกับผู้ป่วย กระตุ้นให้ผู้ป่วยพูดหรือเเสดงความรู้สึกของตนเอง
      - 2.สังเกตเเละประเมินพฤติกรรมที่แสดงออกของผู้ป่วยต่อตนเองและความร่วมมือกับผู้อื่น
      - 3.สังเกตและประเมินสัมพันธภาพของผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัวการตอบสนองของผู้ป่วยป้องกันมาเยี่ยมหรือการตอบสนองต่อคริบครัว
      - 4.ให้เวลาและช่วยให้ผู้ป่วยค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นเเละการเเก้ไขปัญหาต่างๆ
      - 5.การพยาบาลด้วย การพยาบาลด้วยความใส่ใจเมื่อผู้ป่วยรู้สึกสิ้นหวังควรให้กำลังใจผู้ป่วยและปลอบโยนให้ผู้ป่วมีความหวัง
      - 6.กระตุ้นและให้กำลังใจผู้ป่วยในการกระทำกิจกรรมต่างๆด้วยตนเองและเชยเชยมาปฏิบัติเอง
    - - ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้นและยอมรับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
  - - - Motor power แขนขวา ขาขวา : 5 กำลังปกติ
        , แขนซ้าย ขาซ้าย : 4 ต้านแรงผู้ตรวจได้บ้าง
      - ผลการประเมิน
        👨🏼‍🦳ผู้ป่วยการประเมิน Rankkin scale ได้4คะเนน
      - left facial palsy
    - - ผู้ป่วยได้รับเลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอโดยใช้พลังงานจากกระบวนการเผาผลาญอาหารจากการใช้
        ออซิเจน
    - - 2.ตรวจสอบสัญญาณชีพ ลักษณะการหายใจ)
      - 3.ประเมินอาการทางระบบประสาททุก 1 ชั่วโมง เพื่อดูการประเมินอาการที่เปลี่ยนเเผลงไปของผู้ป่วยเกี่ยวกับการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองบกพร่อง
      - 1.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่งให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
      - 4.ถ้าผู้ป่วยมีอาการซึมลง หมดสติ สับสน ควรดูเเลให้ออกซิเจนตามเเผนการรักษา
      - 5.สอน deep breathing exercise โดยให้หายใจเข้าลึกๆ หน้าท้องโป่ง หายใจออกยาวๆ หน้าท้องเเฟบ
      - 6.สอนการไออย่างการไออย่างมีประสิทธิภาพโดยแนะนำให้ Deep breath ing exercised ก่อน2-3ครั้งโดยครั้งสุดท้ายให้กลั้นหายใจไว้2-3วินาที เพื่อเพิ่มการขยายปอด
    - - ผู้ป่วยได้รับเลือดไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ
    - - ไม่มีการอุดกั้นทางเดินหายใจหายใจสะดวกอาการทางระบบประสาทคงที่ ความดันโลหิตคงที่
  - - - 1.ผู้ป่วยไม่มีข้อติด ตามข้อต่อ(joint)ต่างๆ
        2.ผู้ป่วยได้ระดับmotor powerไม่ต่ำกว่าเดิม
        3.ผู้ป่วยช่วยออกแรงเวลาออกกำลัง
    - - ประเมินการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วยในทุก4ชม. 3วันและประเมินการความรู้สึกของผู้ป่วย
      - 2.จัดท่านอนให้ผู้ป่วยทุกทุก 2 ชั่วโมงเพื่อการเคลื่อนไหวของร่างกายและเพื่อเพิ่มกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด(Blood circulation)
      - 3.มีกิจกรรมในการเคลื่อนไหวร่างกายและกล้ามเนื้อ
        Passive exerciseเป็ เป็นแรงภายนอกที่มากระทำต่อผู้ป่วย เช่นการยกแขนยกขาเพื่อให้แข่งขาของผู้ป่วยได้รับการบำบัดได้ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อไม่มีข้อติดหรือมีการเคลื่อนไหว
      - 4.ในช่วงคอเเละไหล่
        ในช่วงเเขนเเละขา มีการยกแขนขึ้น
        
        4.1งอเเละเหยียยดข้อศอก ยกแขนขึ้น พยายามยกแขนผู้ป่วยให้ชิดใบหู พร้อมทั้งกระดกข้อมือขึ้นค้างไว้เล็กน้อย เพื่อยืดเอ็น กล้ามเนื้อทั้งหมด ทําประมาณ 5-10 ครั้ง
        
        4.2ง้อเเละเหยียดข้อมือ
        โดยจับที่ปลายมือผู้ป้วยและพยายามงอ-เหยียดปลายมือ 10ครั้ง
        
        4.3ง้อและเหยียดหุบและกางแขน
        
        4.4ออกกำลังกายขาการยื่นเนื้อน่องโดยให้ผู้จับบริเวณข้อเท้าของผู้ป่วยโดยใช้ปลายแขนออกแรงดันฝ่าเท้าของผู้ป่วยให้อยู่ในลักษณะกระดกขึ้นและกระดก
      - 5.ในการออกกำลังกาย ผู้ป่วยเหนื่อยให้ผู้ป่วยพัก10นาที ในการออกกำลังกายควรทำวันละครั้ง ท่าละ10ครั้ง
    - - ป้องกันข้อติด กล้ามเนื้อลีบ
    - - ผู้ป่วยสามารถทำกิจกรรมได้และญาติผู้ป่วยสามารถช่วยผู้ป่วยในการออกกำลังกาย
    - - Motor power แขนขวา ขาขวา : 5 กำลังปกติ , แขนซ้าย ขาซ้าย : 4 ต้านแรงผู้ตรวจได้บ้าง
      - ผู้ป่วยไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เอง
- - - - 🫀ระบบหัวใจเเละหลอดเลือด:มีภาวะหัวใจล้มเหลวฝั่งซ้าย เเละโรคหลอดเลือดสมอง bp keep <= 220/100 ค่าdtxKeep80-180 จัดท่านอน 30องศา o2 set 90
        
        🫁ระบบทางเดินหายใจ:ผู้ป่วยหายใจ Room air O2 97-99%
        
        🤲🏻ระบบผิวหนังเเละเล็บ :ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น มีเเผลเป็นที่ขาทั้งสองข้างจากการตกเตียงเเละwalker เล็บมือเล็บเท้าตัดสั้นสะอาด ปลายมือปลายเท้าไม่ซีดเเละคล้ำ
        
        💪🏻ระบบกล้ามเนื้อเเละกระดูก:ไม่มีลักษณะผิดปกติข้อ ไม่มีลักษณะรอยเเดงที่ปุ่มกระดูก กระดูกหลังไม่โค้งงอ กล้ามเนื้ออ่อนเเรง ข้างซ้าย ไม่ลีบ
        
        👄ระบบย่อยอาหาร:ไม่มีเเผลเป็น นุ่ม คลำไม่พบก้อน ตับม้ามไม่โต เสียงลำไส้ปกติ bowel sound 10 ครั้ง\นาที
        
        ระบบทางเดินปัสสาวะ:การขับปัสสาวะชั่งน้ำหนัก 500-650ต่อวัน ค่าi/o เข้า 1000 ออก1200 อุจจาระวันละ1ครั้ง
      - ระบบประสาท ผู้ป่วยรู้สึกตัว ไม่มีอาการสับสน ค่าN/sได้ E4M6V3
      - Moter power เเขนข้างซ้ายได้ 3คะเเนน
      - เเขนข้างขวาได้ 5คะเเนน
      - ขาข้างซ้ายได้ 5คะเเนน
      - ขาข้างขวาได้ 5คะเเนน
  - - - 0 ไม่มีอาการเลย
      - 1ไม่มีภาวะไร้ความสามารถชัดเจนเเต่มีอาการบ้าง:สามารถทำกิจกรรมเเละหน้าที่ได้ตามปกติ
      - 2 มีภาวะไร้ความสามารถเพียงเล็กน้อยไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ฮัลโหลหมดแต่สามารถดูแลตัวเองได้ปราศจากความช่วยเหลือ
      - 3 มีภาวะอะไรความสามารถปานกลางต้องการความช่วยเหลือเเต่สามารถทำเดินได้ด้วยตนเองได้
      - 4 มีภาวะไร้ความสามารถรุนแรงปานกลาง:เดินเองได้โดยใช้เครื่องพยุงและไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
        
        ผลการประเมิน
        👉🏻👨🏼‍🦳ผู้ป่วยการประเมิน Rankkin scale ได้4คะเนน
      - 5 มีสภาวะไร้ความสามารถรุนแรงมาก:Bedridden(นอนติดเตียง)ปัสสาวะกลั้นไม่อยู่ ต้องการผู้ดูเเล
    - - ลองให้ผู้ป่วยกลืนน้ำเเต่ผู้ป่วยไอเเละสำลัก ผลการประเมินได้4
        
        👉🏻
    - - 3.Visual field การมองเห็น
        : ใช้มือปิดตา 1ข้าง ให้ดูมืออีก 1 ข้างมองเห็นหรือไม่ = 0
      - 4.Facial Palsy การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า
        : โดยให้ผู้ป่วยยิ้มหรือยิงฟัน = 2
        
        👉🏻
      - 2.Best Gaze การเคลื่อนไหวของตา
        : ให้มองตามปากกาเคลื่อนไหวในแนวนอน = 0
      - 5a.Motor Arm Left กำลังของกล้ามเนื้อแขน
        : ให้ยกแขนเหยียดตรงท่รคว่ำหรือหลับตา = 1
        
        👉🏻
      - 1c.LOC Commands = 0
      - 5b.Motor Arm Right กำลังของกล้ามเนื้อแขน
        : ให้ยกแขนเหยียดตรงท่าคว่ำหรือหลับตา = 0
      - 1b.LOC Question: ถามชื่อ เดือนอะไร อายุเท่าไร = 0
      - 1a.Level of conciousness : ระดับความรู้สึกตัว = 0
      - 6a.Motor Leg Right กำลังของกล้ามเนื้อขา
        : ให้นอนยกขาทีละข้าง =1
        
        👉🏻
      - 6b.Motor Leg Lefy กำลังของกล้ามเนื้อขา
        : ให้นอนยกขาทีละข้าง = 0
      - 7.Limb Ataxia การประสานงานของแขนขา = 0
      - 8.Sensory การรับความรู้สึก) = 1
        
        👉🏻
      - 9.Best Language ความสามารถด้านภาษา = 0
      - การประเมินของผู้ป่วยได้5คะเเนน
    - - 5.Bathing(การอาบน้ำ)=0
      - 6.mobility (การเคลื่อนที่ภายในห้องหรือบ้าน) =0
      - 4.toilet use (การเข้าห้องน้ำ)=0
      - 3.grooming(ล้างหน้า หวีผม เเปรงฟัน โกนหนวด ในระยะ 24-48ชม.)=0
      - Stairs (การขึ้นลงบันได1ขั้น)=0
      - 2.Transfer(ลุกนั่งจากที่นอน หรือการเตียงไปยังเก้าอี้)=0
      - Dressing (การสวมใส่เสื้อผ้า) = 5
        
        👉🏻
      - 1.Feeding การรับประทานอาหารเมื่อเตรียมสำหรับไว้ให้เรียบร้อย = 0
      - Bowels (การกลั้นอุจจาระใน ระยะ1สัปดาห์ที่ผ่านมา)
        =5
        
        👉🏻
      - Bladder (การกลั้นปัสสาวะในระยะ1สัปดาห์ที่ผ่านมา)
        =5
        
        👉🏻
    - - E4M6V3
        👁eyes open 4ลืมตาได้เอง
        💪🏼Best motor respones 6 ทำตามคำสั่งได้
        🗣Best verbal response 3พูดเป็นคำๆ
  - - - ไม่มี
    - - ไม่มี
    - - สูบบุหรี่วันละ2ซอง เมื่อ10ปีก่อน
        ดื่มเเอลกอฮอล์วันละ2 ขวด เมื่อ10ปีก่อน
    - - คุณเเม่ให้ประวัติความดันโลหิตสูงเเละเบาหวาน
    - - มีครั้งสุดท้ายเมื่อ ม.ค.64:
  - - - เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ
      - ระดับการศึกษา ป.7
      - เพศชาย อายุ 58 ปี
      - อาขีพ : รับจ้างทั่วไป
        รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เเน่นอน
      - ที่อยู่อาศัย:แฟลต
  - - - Calcifergl cap
        รับประทาน ครั้งละ2เม็ดต่อสัปดาห์
        
        ประเภท:วิตามินที่ละลายในไขมัน
      - เเหล่ง:วิตามินดีมี2ชนิด คือErgocalciferol Vit.D2 พบในพืช เเละ Colecciferol Vit.D3 พบในสัตว์ เเหล่งวิตามินพบได้ในจับปลา ตับ ไข่เเดง
      - ประโยชน์
        
        ประโยชน์:สร้าง steroid ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมน มีบทบาทสำคัญในการเมตะบอลิสมของเเคลเซียมเเละฟอสเฟตโดยเพิ่มการดูดซึม ใช้รักษาโรคกระดูกอ่อน
    - - Omeprazole capsles 20 Mg(GPO)
        รับประทานครั้งละ 1เม็ด วันชะ1ครั้ง ก่อนอาหารเช้า
        
        ประเภท:ยาลดกรด ชนิด proton pump inhibitor
      - การออกฤทธิ์
        
        การออกฤทธิ์:ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ H+,K+,ATPase ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนไฮโดรเจนออกจากเซลล์ parietal ของกระเพาะอาหร
      - ข้อบ่งชี้
        
        ข้อบ่งใช้:ลดกรดในกระเพาะอาหาร รักษาแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น หลอดอาหารอักเสบ รักษาภาวะหลั่งกรดมากเกินไป
      - ผลข้างเคียง
        
        ผลข้างเคียง:พบน้อย เช่น อาจพบอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้น สูญเสียการทรงตัว เอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้น
    - - รับประทานครั้งละ2เม็ดวันละ3ครั้ง หลังอาหาร
        เช้าทกลางวัน เย็น
        
        ประเภท : สารน้ำให้เพื่อทดแทนโปแตสเซียม
      - ข้อบ่งใช้
        
        ข้อบ่งใช้ : รักษาผู้ป่วยโรคไต Hyperadrenalism ที่มีอาการอาเจียนเป็นเวลานาน ท้องเสีย ขาดอาหาร การดูดซึมไม่ดี ภาวะ Alkalosis, Acidosis มีอาการ Drain เอาน้ำออกจากทางเดินอาหารเป็นเวลานาน ทำ Dialysis ให้อาหารทางหลอดเลือดดำโดยไม่ได้เพิ่มโปแคสเซียมเป็นเวลานาน หรือให้ยาขับปัสสาวะชนิด Thiazides, Loop diuretics , Carbonic anhydrase inhibitors,Natural corticosteroid และ Amphotericin B
      - การออกฤทธิ์
        
        การออกฤทธิ์ : เพิ่มความเข้นข้นในเซลล์ โปแตสเซียมมีผลต่อเซลล์ในเส้นประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ
      - ผลข้างเคียง
        
        ผลข้างเคียง : ชา สับสน การทำงานของหัวใจลดลง ทำให้EKGผิดปกติ มีโปแตสเซียมในเลือดสูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลำไส้เล็กฉีกขาด)
    - - รับประทานครั้งละ 500 cc ทุก 3ชม. จำนวน3ครั้ง
        
        ประเภท : สารน้ำให้เพื่อทดแทนโปแตสเซียม
      - ข้อบ่งชี้
        
        ข้อบ่งใช้ : รักษาผู้ป่วยโรคไต Hyperadrenalism ที่มีอาการอาเจียนเป็นเวลานาน ท้องเสีย ขาดอาหาร การดูดซึมไม่ดี ภาวะ Alkalosis, Acidosis มีอาการ Drain เอาน้ำออกจากทางเดินอาหารเป็นเวลานาน ทำ Dialysis ให้อาหารทางหลอดเลือดดำโดยไม่ได้เพิ่มโปแคสเซียมเป็นเวลานาน หรือให้ยาขับปัสสาวะชนิด Thiazides, Loop diuretics , Carbonic anhydrase inhibitors,Natural corticosteroid และ Amphotericin B
      - การออกฤทธิ์
        
        การออกฤทธิ์ : เพิ่มความเข้นข้นในเซลล์ โปแตสเซียมมีผลต่อเซลล์ในเส้นประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ
      - ผลข้างเคียง
        
        ผลข้างเคียง : ชา สับสน การทำงานของหัวใจลดลง ทำให้EKGผิดปกติ มีโปแตสเซียมในเลือดสูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ลำไส้เล็กฉีกขาด
    - - B co-ed Tab
        รับประทานครั้งละ 1เม็ด วันละ2ครั้ง หลังอาหาร เช้าเย็น
      - ประโยชน์:ทำหน้าที่ Cornzyme เกี่ยวข้องกับการขับถ่ายถ่ายทอดอิเล็กตรอน ในBiological oxidation-reduction ซึ่งมีความจำเป็นต่อการหายใจของเซลล์ การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเเละไขมัน
      - เเหล่ง:ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ เเละผักใบเขียว
    - - Chlovas-40 Tab
        รับประทานครั้งละ1เม็ด วันละครั้งก่อนนอน
        
        ประเภท: ยาลดไขมัน (Lipid-lowering agent ชนิด HMG-CoA reductase inhibitor)
      - ข้อบ่งใช้
        
        ข้อบ่งใช้ : ลดระดับ LDL-C และ TC ในผู้ป่วย Hypercholesterolemia เช่นเดียวกับยาในกลุ่ม Statins ชนิดอื่น และสามารถลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ได้ปานกลางในผู้ป่วย Hypertriglyceridemia ใช้กรณีที่ใช้ Simvastatin แล้วไม่ได้ผล
      - การออกฤทธิ์
        
        การออกฤทธิ์ : ยังยั้งการทำงานของเอนไซม์ 3-hydroxy-3-methylglutaryl-coenzyme-A (HMG-CoA) reductase ในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
      - ผลข้างเคียง
        
        ผลข้างเคียง : มีไข้ เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก อุจจาระอัดแน่น ท้องอืด และปวดกล้ามเนื้อมีเอนไซม์ตับเพิ่มขึ้น
    - - ข้อบ่งใช้
        
        ข้อบ่งใช้ : ใช้เป็นยาป้องกันการรวมตัวของเกล็ดเลือด ลดความเสี่ยงของ Recurrent transient is chemic attacks หรือ CVA ในผู้ป่วยลดความรุนแรง หรือป้องกัน Acute MI ลดความเสี่ยงของ MI ในผู้ป่วยที่มี Unstable angina
      - ผลข้างเคียง
        
        ผลข้างเคียง: ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำลายหน้าที่ของเกร็ดเลือดอาจจามีเลือดกำเดนออก เลือดเเข็ง
      - B-aspirin Ec 81 Mg Tab
        1เม็ด วันละ 1ครั้ง หลังอาหาร เช้า
        
        ประเภท:ยาต้านการจับ
        กลุ่มเกล็ดเลือด (Antiplatelet)
      - การออกฤทธิ์
        
        การออกฤทธิ์ : ใช้ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเกล็ดเลือด (Clotting) โดยออกฤทธิ์ลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด (Platelet aggregation)
  - - - • TPHA : Non-reactive
      - • VDRL (RPR) : Non-reactive
      - • Troponin - T : 0.191 ng/mL : HH (ค่าปกติ 0-0.014 ng/mL)
    - - • Glucose(FBS) : 108 mg/dL : H [ค่าปกติ 70-99 mg/dL]
      - • Creatinine : 1.80 mg/dL : H [ค่าปกติ 0.73-1.18 mg/dL]
      - • Cholesterol : 395 mg/dL : H [ค่าปกติ<200 mg/dL]
      - • Triglyceride : 161 mg/dL : H [ค่าปกติ<150 mg/dL]
      - • LDL : 310 mg/dL : H [ค่าปกติ<130 mg/dL]
      - • Sodium(Na) : 146 mmol/L : H [ค่าปกติ 136-145 mg/dL]
      - • Potassium (K) : 2.47 mmol/L : LL [ค่าปกติ 3.5-5.1 mg/dL]
      - • Chloride : 114.0 mmol/L : H [ค่าปกติ 98-107 mg/dL]
      - •osmolarity(plasma) :322 mOSMOL/kg H[ค่าปกติ 275-295]
    - - Special list
        • ESR : 60 mm/hr : H [ค่าปกติ 0-20 mm/hr]
      - CBC
        • Hb : qp.p g/dL : L [ค่าปกติ 12.8-16.1 g/dL]
      - • Hct : 30.7% : L [ค่าปกติ 38.2-48.3%]
      - • RBC : 3.54 10^6/uL : L [ค่าปกติ 4.03-5.55 10^6/uL]
      - • Lymphocyte : 21.0% : L [ค่าปกติ 21.1-42.7%]
  - - - 5.เเบบประเมินการกลืน (standing swallowing assessment)
        ลองให้ผู้ป่วยกลืนน้ำเเต่ผู้ป่วยไอเเละสำลัก ประเมินเมื่อวัน 6\2\64เเละทำมาต่อเนื่อง
        6.แบบประเมินคะแนนโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันเป็นเครื่องมือสำหรับวัดขนาดของความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน
        (The modified national institutes of health stroke scale :NIHSS )
        การประเมินของผู้ป่วยได้ 7 คะแนน 5/2/64 เเละทำมาต่อเนื่อง
        7.Rankin scale
        Rankin scale คือ การประเมินระดับความพิการของผู้ป่วยหลังจากเป็นโรคหลอดเลือดสมองมีคะเเนน 0 ถึง 5
        ได้คะเเนนได้4มีภาวะไร้ความสามารถรุนแรงปานกลาง:เดินเองได้โดยใช้เครื่องพยุงและไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง ประเมินเมื่อวันที่5
        
        ผู้ป่วย retain foley's catheter ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ไม่พบตะกอน ไม่ส่งกลิ่นเหม็น อุจจาระ off 9/2/64
        -Vital signs ; TB : 36.7 องศาเซลเซียส ,PR : 74 ครั้ง/นาที,RR : 20 ครั้ง/นาที ,BP : 201/95 mmHg-Others ;Oxygen Saturation : 100% (8/2/64)
- - - - 2.Middle cerebral artery
        
        อาการอ่อนแรงของร่างกายชีคใดซีกหนึ่ง
        (Contralateral hemiparesis)
        
        โดยมักพบว่าอาการของแขนมากกว่าขา
        
        การสูญเสียความสามารถในการใช้หรือเข้าใจภาษาหรือคำพูด (Aphasia)
        
        สับสนและความจำบกพร่อง
      - 3.Posterior cerberal artery
        
        เวียนศีรษะ รู้สึกเหมือนบ้านหมุน
        คลื่นไส้อาเจียน เดินเช และตากระตุก
      - 1.Anterior cerebral artery
        
        อาการอ่อนแรง (motor) และสูญเสียการรับความรู้สึก (sensory) ของแขน
        
        ขา ด้านตรงข้ามของรอยโรค โดยมักพบว่าอาการของขามากกว่าแขน
        
        ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะ ขาดสมาธิ
  - - - จะเกิดการขัดขวางของoxygen เเละกลูโครส ที่ไปเลี้ยงสมองทำให้เกิดการไหลเวียนเลือดที่ช้าลงลดลง เซลล์จะเปลี่ยนกระบวนการเผาผลาญอาหารจากเเบบใช้ออกซิเจน มาเป็นกระบวนการไม่ใช้ออซิเจน ทำให้เกิดกรดเเลตลิตซึ่งส่งผลให้การเสียสมดุลอิเล็กโตรไลท์
        
        การไหลเวียนเลือการไหลเวียนเลือดที่ลดลงจนถึงศูนย์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อสมองให้ถึง4ถึง 10 นาทีโดยมีปริมาณน้อยกว่า 16-18 ml/ 100G/min
        
        ถ้าเป็นปริมาณเลือดที่น้อยกว่า20ml/100g/min เป็นสาเหตุของการขาดเลือด
  - - - 1.1.Transient ischemic attack
        อาการผิดปกติทางระบบประสาทไม่เกิน 24ชม.
      - 1.2Reverse ischemic Neurological
        อาการผิดปกติทางระบบประสาทอยู่นานเกิน 24ชม.
  - - - โรคเบาหวาน จะทำให้หลอดเลือดตีบเเข็ง ส่งผลให้
        เลือดอุดตัน การควบคุมระดับน้ำตาในเลือดในให้เหมาะสม
      - โรคความดันโลหิตสูง การพบระดับความดันโลหิตสูง160\95Mmhg จะพบว่าsystolic blood pressure จะสามารถลดการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
      - การสูบบุหรี่ :การสูบบุหรี่ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้มถ้าสูบวันละมากกว่า40 มวล ถ้ถ้าผู้สูบที่สูบน้อยกว่าวันละ 10 มวนจะมีปริมาณความเสี่ยงน้อยกว่า
    - - ภาวะไขมันในเลือดสูง เกิดก้อนไขมันเกาะติดกับผนังหลอดเลือด
      - การดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มโรคความดันโลหิตสูง ไขมันเเละน้ำตาลในเลือดสูง
      - โรคอ้วน
      - การออกกำลังกาย
    - - 1.อายุ เป็นปัจจัยที่เสื่อมของหลอดเลือด
      - 2.เพศ ชายมีความเสี่ยงสูงมากกว่าผู้หญิง
  - - - เพื่อประเมินระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย เช่น คุณชื่ออะไร
        อายุเท่าไหร่ วันนี้วันที่เท่าไหร่ การซักประวัติการเจ็บป่วยก่อนหน้า
    - - 2.2 การตรวจร่งกายทางระบบประสาท ช่น การประเมินระดับความรู้สึกตัว การประเมิน
        Neurological sign ได้แก่ Glasgow coma scale (GCS), Pupil reaction , NIHSS และ Motor power เป็นตัน)
      - 2.1 การตรวจร่งกายทั่วไป ประกอบด้วยการตรวจร่างกายในระบบต่งๆ ได้แก่ สัญญาณชีพ ระบบระบบหายใจ เป็นต้น
    - - 3.1 การตรวจเม็ดเลือด ในบางรายอาจมีภาวะเลือดหนืด ความเข้มขันเลือดสูง
      - 3.2การตรวจระดับน้ำตา เพื่อช่วยวินิฉัย โรคเบาหวาน หรือในรายที่เป็นเบาหวาน
        
        🪧Dtx 5/2/64 150-200
        🪧Dtx7/2/64 130-150
        keep
      - 3.3การตรวจระดับไขมันในเลือด เพื่อช่วยวินิจฉัยภาวะไขมันในเลือดสูง
        
        🪧LDL : 310 mg/dL : H [ค่าปกติ<130 mg/dL]
      - 3.4 การตรวจการแข็งตัวของเลือด )
        
        🪧Osmolarity(plasma) 322 mOSMOL/kg
        มีค่าสูงกว่าปกติ เป็นตัวที่กำหนดน้ำในเซลล์
      - 3.5การตรวจระดับเกลือแรในเลือด (Electrolyte) ช่วยแยกภาวะเกลือแรในเลือดผิดปกติ เช่น เกลือ
        แร่ต่ำ อาจทำให้มีอาการคล้ายโรคหลอดเลือดสมอง)
      - 3.6การตรวจเลือดและปัสาวะเพื่อดูระบบการทำงานอื่นร่วมด้วย เช่น การทำงานของไต
        
        🪧Osmolarity(plasma) 322 mOSMOL/kg
        มีค่าสูงกว่าปกติ เป็นตัวที่กำหนดน้ำในเซลล์
        เสี่ยงค่าhyperosmolarity เป็นการซึมน้ำเข้าจากเซลล์เป็นการ
    - - 4.1การตรวจภาพถ่ายทางรังสีของสมองเเละหลอดเลือด
        
        การทำ Computed tomography (CT)
        
        🪧Ct scan ผลปกติ
        
        Magnetice resonance lmaging (MRI) เป็นการตรวจที่เห็นพยาธิที่เกิดขึ้นที่สมองได้ชัดเจน
      - 4.2การตรวจด้วยคลื่นเสียงอุลตราโซนิค
        
        การตรวจ Duplex ultrasound เพื่อการตรวจวัด
        ขนาดภายในหลอดเลือด carotidที่คอ
        
        การทำtrancranial doppler ultrasounds (TCD) เป็นการตรวจวัดความเร็วของหลอดเลือดเเดงในสมอง