Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

พัฒนาการของเด็ก, ดาวน์โหลด (3), ดาวน์โหลด (12), ดาวน์โหลด (10),…

- - - - ภาวะตัวเหลือง
        
        พบได้หลังเกิดภายใน 24 ชั่วโมง เกิดจากการที่ตับทำหน้าที่ในการขับถ่ายบิริรูบินไมํ
        สมบูรณ์ เม็ดเลือดแดงอายุสั้น อาการที่พบคือ จะเริ่มเหลืองที่ใบหน้าเข้าหาลำตัว แขนขา
        
        ชันตุ (Cradle cap)
        
        ลิ้นเป็นฝ้า
        
        สะดือจุ่น
        
        ผื่นผ้าอ้อม (Diaper rash)
        
        เป็นการอักเสบของผิวหนังบริเวณก้น อาจเกิดจากการหมักหมม การเปียก
        ชื้นของอุจจาระ ปัสสาวะ หรือการแพ้สบูํ ผงซักฟอก ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมบํอยๆ
        
        โรคติดเชื้อต่างๆ
        
        พบได้บํอยในทารกที่ร้องไห้บํอย หรือเบํงถํายเป็นประจำ เนื่องจากกล้ามเนื้อหน้าท้องยังไมํ
        แข็งแรงพอ อาการนี้จะหายไปเองภายใน 2 ปี
        
        พบได้โดยเฉพาะทารกที่ดื่มนมผสมและไมํได้รับการดูแลในช่องปากลักษณะของฝ้าจะสามารถเช็ดออกได้งํายโดยใช๎ผ๎าชุบน้ำต้มสุกเช็ดในชํองปาก
        
        หรือไขจับศีรษะ มีลักษณะเป็นสะเก็ดดาๆ น้ำตาลๆ บริเวณกลางกระหมํอม ทำให้ดูสกปรก ไมํสุขสบาย ควรสระผมให้ทารกอยํางน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดชันตุ
      - อาเจียน
        
        ทารกทุกคนมักเกิดอาการเรอหรือแหวะนมออกมาเล็กน้อยหลังจากอิ่มนมใหม่ๆซึ่งถือเป็น
        เรื่องปกติ แต่หากมีอาการเล็กน้อยถือว่าไม่ผิดปกติ
        
        สะอึก
        
        เกิดจากการทำหน้าที่ของกล้ามเนื้อหน้าท้องและกระบังลมของทารกยังไมํสัมพันธ์กัน มารดา
        ควรดูแลด้วยการกอดอุ้ม ปลอบโยน หรือให้ทารกดูดนมมารดา
        
        ท้องผูก
        
        ทารกบางรายเมื่ออายุ 15 วัน การถํายอุจจาระอาจจะน้อยลง เหลือวันละครั้ง แตํหากพบวํา
        การถํายอุจจาระเป็นก้อนแข็ง ทารกร้องไห้เสียงดัง หรือมีเลือดปน
        
        ท้องร่วง
        
        เป็นการถํายอุจจาระเหลวหรือถํายเป็นน้ าบํอยครั้งกวําปกติ อาจเกิดจากการติดเชื้อ การกิน
        อาหารบางอยํางที่รํางกายทารกยํอยไมํไหว หรืออาหารมีกากมากกวําที่เคยกิน
        
        ปวดท้องโคลิค (Colic)
        
        พบในทารกอายุน้อยกวํา 3 เดือน สาเหตุยังไมํแนํชัด ทารกจะมีการร้องไห้
        เสียงดัง หน้าแดง ตัวงอ ร้องไห้นานช่วงเวลาเดิม
    - - อารมณ์ไม่พอใจและตื่นเต้น
        
        เกิดจากการที่ทารกไมํได้รับการตอบสนองความต้องการของ
        ตนเอง เชํน หิว เจ็บปวด และถูกกระตุ้นที่รุนแรงเร็วเกินไป ทารกจะแสดงที่ทางที่ไมํเป็นสุข
      - อารมณ์โกรธ
        
        จะพบเมื่อทารกถูกขัดขวางความต้องการ หรือการกระทำของตนเองถูกบังคับให้ทำใน
        สิ่งที่ไมํชอบ ทารกจะแสดงอารมณ์โกรธด้วยการร้องไห้เสียงดัง
    - - การกลัวคนแปลกหน้า
        
        พบเมื่ออายุ 8 เดือน เกิดจากการที่ทารกได้สร้างสัมพันธภาพกับบิดา
        มารดาแล้ว ดังนั้นเมื่อพบคนแปลกหน้า ทารกจะรู้สึกกลัว จ้องมองคนแปลกหน้าอยูํชั่วขณะแล้วร้องไห้
  - - - ทารกในขวบปีแรกจะยังไมํมีพัฒนาการด้านคุณธรรมและศรัทธาในจิตวิญญาณ การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงที่เป็นรูปธรรม และพัฒนาการด้านภาษาเป็นสื่อช่วยให้เด็กเริ่มใช๎ความคิด เหตุผล และจินตนาการ ควรเน้นการทักษะการพัฒนาทางด้านกล้ามเนื้อ
    - - สํงเสริมสัมพันธภาพระหวํางบิดามารดากับทารก ให้เป็นความสัมพันธ์ทางบวกที่เกิดขึ้นทีละ
        น้อยและมีความมั่นคงถาวร เป็นความรู้สึกรักใครํของทั้งสองฝ่าย จะแสดงออกต่อกันโดยการสัมผัส
    - - ส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
      - ส่งเสริมให้ทารกได้รับอาหารเสริมเหมาะสมตามวัย
      - สร้างเสริมแบบแผนการดำเนินชีวิตของทารกเป็นไปตามปกติ สอดคล้องกับความสามารถในการ
        ทำกิจกรรมของทารกที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน
      - ส่งเสริมให้ทารกมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
        
        เด็กอายุ 6-12 เดือน
        
        เด็กอายุ 0-6 เดือน
      - ส่งเสริมพัฒนาการให้เป็นไปตามวัยโดยการใช้ของเล่น
      - การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันเหมาะสมกับวัย
        
        กลุ่มท็อกซอยด์ (toxoid)
        
        กลุ่มวัคซีนเชื้อตาย (Inactive vaccine หรือ killed vaccine)
        
        2.1 วัคซีนที่ท าจากแบคทีเรียที่ตายแล้วหรือไวรัสทั้งตัวที่ทำให้ตายแล้ว
        
        2.2 วัคซีนที่ทำจากบางส่วนของแบคทีเรียหรือไวรัส
        
        วัคซีนชนิดเชื้อเป็นฤทธิ์อ่อน (Live attenuated vaccine)
    - - วัยทารก เป็นวัยที่ที่ต้องการการปกป้องดูและเป็นพิเศษ การกอดรัด การสัมผัส ลูบตัวทารกเบาๆ จะ
        ทำให๎ทารกรู้สึกอบอุํน มั่นคง ปลอดภัย อารมณ์ดี ไมํควรกระตุ้นทารกอยํางรุนแรงและรวดเร็วเกินไป
  - - - ความสูงหรือความยาว
      - น้ำหนัก
      - ขนาดของรอบศีรษะ
      - รอบอก รอบท้อง
      - การขึ้นของฟัน
    - - การประเมินพัฒนาการของเด็กสามารถประเมินได้จาก แบบทดสอบ Denver Development Test(DDST) ปัจจุบันพัฒนาเป็น Denver II ซึ่งผู้ที่จะใช้แบบทดสอบประเมินต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมมาแล้ว
    - - Subjective data
        
        เป็นข้อมูลที่ได้จากการซักประวัติจากตัวผู้ป่วย ผู้เลี้ยงดู คนใกล้ชิด
      - Objective data
        
        เป็นข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การตรวจร่างกาย การวัดการเจริญเติบโต
- - - - ปัญหาสุขภาพในช่องปาก
      - ปัญหาภาวะโภชนาการ
      - ปัสสาวะรดที่นอน
      - โรคเหา
      - โรคผิวหนัง
      - อุบัติเหตุ
    - - อารมณ์โมโหร้าย
      - ความกลัว
      - การดูดนิ้วหัวแม่มือ
    - - ความอิจฉา
      - การหยิบของผู้อื่น
      - การพูดโกหก
      - การกลัวการไปโรงเรียน
      - พฤติกรรมก้าวร้าว
    - - ปัญหาพูดติดอ่าง
      - ปัญญาพูดไม่ชัด หรือออกเสียงผิดปกติ
      - ปัญหาการพูดช้า
  - - - ทำได้โดยการซักประวัติและตรวจรํางกาย ซึ่งจะต้องเตรียมความพร้อม
        ทั้งเด็กที่จะได้รับการประเมิน การเตรียมสถานที่ การสร้างสัมพันธภาพ
  - - - ป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อด้วยวัคซีน
      - ส่งเสริมการดูแลรักษาสุขภาพฟัน
      - ส่งเสริมการอยากรับประทานอาหาร
      - สร้างเสริมสุขลักษณะการนอนที่ดี
      - การปรับปรุงพฤติกรรมปัสสาวะรดที่นอน
      - ส่งเสริมการหัดเดินด้วยการเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
      - การสร้างเสริมพัฒนาการด้านร่างกายทั่วไป
    - - การปรับพฤติกรรมเด็กเจ้าอารมณ์อาละวาด
      - การสร้างเสริมวุฒิภาวะทางอารมณ์
      - การส่งเสริมสุขภาพจิตทั่วไป
    - - การพัฒนาการเล่น
      - สนับสนุนเลือกพี่เลี้ยงที่ไว้วางใจได้
      - ส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมทั่วไป
    - - ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา
      - ส่งเสริมศักยภาพการออกเสียงให้ชัดเจนเป็นปกติในเด็กที่มีพฤติกรรมพูดไม่ชัด และพูดติดอ่าง
      - ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาทั่วไป
- - - - ปัญหาสุขภาพในช่องปาก
      - ปัญหาภาวะโภชนาการ
      - ปัญหาโรคติดเชื้อและพาราสิต
      - อุบัติเหตุและการบาดเจ็บ
    - - การไม่อยากไปโรงเรียน
      - ปัญหาการเรียน
      - ปัญหาปัสสาวะรดที่นอน
    - - การลักขโมย
      - ปัญหาเด็กขาดการดูแลหลังเลิกเรียน
    - - ปัญหาที่สัมพันธ์กับพัฒนาการด้านภาษา
  - - - ส่งเสริมการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากในวัยเรียน
      - ส่งเสริมผู้ปกครองในการจัดหาอาหารที่เหมาะสมตามวัย
      - เฝ้าระวังภาวะโภชนาการในเด็กวัยเรียน
      - ส่งเสริมทักษะการป้องกันอุบัติเหตุในเด็กวัยเรียน
      - ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายทั่วไป
    - - สร้างเสริมความมั่นใจในการไปโรงเรียนของเด็กวัยเรียน
      - วิตกกังวลจากปัญหาด้านการเรียน
      - ส่งเสริมความสามารถในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะ
    - - ส่งเสริมความเข้าใจเรื่องการเป็นเจ้าของในวัยเรียนในวัยเรียนที่มีพฤติกรรมลักขโมย
      - ส่งเสริมเด็กวัยเรียนให้รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเองและครอบครัว
      - สร้างเสริมวินัยในเด็กวัยเรียน
      - สร้างเสริมทักษะที่จ าเป็นแก่เด็กวัยเรียน
      - ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมของเด็กวัยเรียน
      - ส่งเสริมทักษะการดุแลตนเองหากจ าเป็นต้องอยู่บ้านคนเดียว
      - ส่งเสริมบทบาทผู้ปกครองในการแก้ปัญหาเรื่องเด็กติดโทรทัศน์
    - - ส่งเสริมบิดามารดาหรือผู้เลี้ยงดูให้สามารถนำเสนอให้รู้จักโลกมากขึ้น