Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเลือกทำเลที่ตั้งและลักษณะของเรือนไทย 4 ภาค, ลักษณะของเรือนไทย 4 ภาค,…
-
ลักษณะของเรือนไทย 4 ภาค
-
ภาคกลาง
เรือนครอบครัวเดี่ยว เรือนขนาดเล็ก เรือนนอน 1 หลัง แบ่งเป็นห้องนอนและห้องโถง เรือนครัว 1 หลัง เรือนทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยระเบียง
เรือนครอบครัวขยาย เมื่อลูกสาวแต่งงาน พ่อแม่มักปลุกเรือนให้ลูกสาวลูกเขยอยู่ต่างหาก 1 หลัง อาจอยู่ด้านข้างหรือตรงข้ามเรือนพ่อแม่ หรือปลูกเป็นเรือนที่ตั้งเป็นเอกเทศออกจากเรือนพ่อแม่ก็ได้
เรือนคหบดี เรือนหมู่ขนาดใหญ่ ผู้สร้างมักฐานะดี ประกอบด้วยเรือนใหญ่ เรือนรี เรือนขวาง เรือนครัว หอนก เรือนทุกหลังเชื่อมต่อกัน ชานโล่ง ไม่มุงหลังคา บริเวณกลางชานมักเจาะเป็นช่องเพื่อปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา
ภาคเหนือ
มักมีภูมิอากาศที่หนาวเย็น เรือนที่อยู่จึงต้องมีชายตาที่ลาดคลุมลงมาต่ำถึงตัวเรือน มีหน้าต่างน้อยเพื่อให้ภานในเรือนมีความอบอุ่น การวางตัวเรือนเป็นลักษณะขวางตะวัน คือ หันข้างไปทางตะวันออก-ตะวันตกเพื่อให้ห้องนอนได้รับแสงแดด
ลักษณะเด่นที่ทำให้สังเกตุได้ง่ายว่าคือเรือนภาคเหนือคือ ที่ยอดปั้นลม ปั้นลมนิยมประดับไม้กาแลที่แกะสลักอย่างงดงาม มีชานกล้างโล่งหรือเติ๋น ด้านหน้ามีร้านน้ำเพื่อวางห้อน้ำดื่ม เหนือประตูเข้าห้องนอนมักประดับหัมยนต์ คือ แผ่นไม้แกะสลักลวดลายดอกไม้ใบไม้ หลังคามุงด้วยแผ่นไม้หรือกระเบื้องดินเผา
ภาคใต้
มีทั้งเรือนเครื่องผูกของชาวประมง และเรือนเครื่องสับแบ่งเป็นเรือนของชาวไทยพุทธ เรือนทั้งสองต่างเป็นเรือนยกพื้นสูง แต่ภาคใต้มีฤดูฝนที่ยาวนาน จึงนิยมเอาท่อนไม้ หิน ปูน มาหล่อเป็นฐานรองรับเสาไม้ โดยไม่ได้ยึดติดระหว่างเสาและฐานให้มั่นคงแข็งแรง และนำไม้มาร้อยทะลุเสาทุกต้นตามแนวยาวเพื่อความมั่นคง
เรือนไทยพุทธ ขนาดไม่ใหญ่โตนัก หลังคาจั่ว ไม่ยกพื้นสูงขนาดให้คนเดินลอดได้สะดวก เนื่องจากมีลมพายุพัดผ่านเสมอจึงมีชายคายื่นยาว ช่องหน้าต่างน้อย นิมยมมุงหลังคาด้วยกระเบื้องดินเผา
เรือนไทยมุสลิม สะท้อนสถาปัตยกรรมพื้นบ้าน,วัฒนธรรมอิสลาม มีการกำหนดบริเวณแบ่งแยกพื้นที่สำหรับเพศชายหญิงชัดเจน และยังเป็นเรือนที่เคลื่อนย้ายไปปลูก ณ ที่แห่งใหม่ได้สะดวก ส่วนหลังคานิยมสร้างเป็นทรงจั่ว ทรงปั้นหยา หรือทรงมนิลา
ภาคอีสาน
เรือนกึ่งถาวร แบ่งเป็นเรือนเหย้า เป็นเรือนเครื่องผูกหรือผสมเรือนเครื่องสับ เป็นเรือนของเขยที่เพิ่งแยกตัวออกจากเรือนพ่อแม่ อาจแยกไปปลูกเป็นตูบ/เกย ต่อมาออกจากเล้าข้าวหรือเป็นเพิงต่อจากเล้าข้าว
เรือนตั้งต่อดิน เป็นเรือนที่มีสัดส่วนและแข็งแรงกว่าตูบต่อเล้า นิยมปลูกเป็นเรือนแฝดใต้ถุนสูง มีเรือนไปและร้านน้ำคล้ายเรือนเกย คือ เรือนที่ต่อชานที่มีหลังคาคลุมต่อออกไปจากเรือนใหญ่
-
การเลือกทำเลที่ตั้ง
จะต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ใกล้ทรัพยากรทั้งการอุปโภคบริโภค เป็นแหล่งอาหาร และเส้นทาง
คมนาคมเพื่อติดต่อ,ค้าขายได้
ภาคกลาง เป็นที่ราบลุ่มที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แม่น้ำไหลผ่านหลายสาย มักสร้างอยู่ริมแม่น้ำเป็นแนวยาวตลอดทั้งสองฝั่งลำน้ำ
ภาคอีสาน แห้งแล้งกว่าภาคอื่่น ดินในภาคนี้ส่วนใหญ่เป็นดินปนทรายที่ไม่อุ้มน้ำ จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ บางปีก็เกิดน้ำท่วมใหญ่ ภูมิปัญญาของชาวอีสานจึงเลือกสถานที่ตั้งบ้านเรือนแตกต่างกันไปตามสถานที่
ภาคเหนือ นิยมตั้งถิ่นฐานบริเวณราบลุ่มริมแม่น้ำระหว่างหุบเขา แต่เมื่อเมืองขยายตัวขึ้นก็มีการจัดการระบบชลประทานหรือฝาย เพื่อให้น้ำมีพอใช้ในการเกษตร
-
-
-