Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยีนและการควบคุมการแสดงออกของยีน - Coggle Diagram
ยีนและการควบคุมการแสดงออกของยีน
การควบคุมการแสดง
ออกทางพันธุกรรม
การควบคุมเมเทบอลิซึมในเซลล์โปรคาริโอต
การควบคุมกระบวนการถอดรหัสสามารถใช้
กําหนดปริมาณหรือความถี่ในการสร้างอาร์เอนเอได้
การควบคุมโดยโปรตีน ทําหน้าที่ควบคุม
การสังเคราะหเ์อ็มอาร์เอนเอเรียกโปรตีนควบคุมที่ยับยั้ง
Iac operon
ยีนควบคุมจะสร้างโปรตีนมากดการแสดงออกของยีน โดยโปรตีนจะมาเกาะที่ยีนโอเปอเรเตอรทำให้เกิดทรานสคริบชันไม่ได้
เป็นการควบคุมการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับการย่อยสลายน้ำตาลเเลกโตส
เป็นส่วนของยีน z (lac Z), y (lac Y) และ a (lac A)
trp operon
โดยทั่วไปการสังเคราะห์กลุ่มเอนไซม์
ใน trp operon จะถูกควบคุมโดยปริมาณทริปโทเฟน
เป็นโอเพอรอนที่ควบคุมการสังเคราะห์กลุ่มเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับ
การสังเคราะห์กรดอะมิโนทริปโทเฟน trp operon
การสังเคราะห์โปรตีน
ไรโบโซม
ไรโบโซมจึงเปรียบเสมือนโรงงานสําหรับสังเคราะห์โปรตีน
ไรโบโซมเป็นบรเิวณที่เกิดการสังเคราะห์โปรตีน
โดยอาร์อาร์เอนเอของโปรคาริโอตมีหน่วยย่อยขนาด 50 S และขนาด 30
ในเซลล์ของยูคาริโอตจะพบไรโบโซมทั้งที่อยู่เป็นอิสระและที%เกาะอยู่ติดกันเอนโดพลาสมิกเรติคูลัม(RER)
กระบวนการแปลรหัส
complexที่AUG แล้ว บริเวณเอของไรโบโซมจะว่าง aa-tRNAที่มีลําดับนิวคลิโอไทด์
ของแอนติโคดอนบนสายเอ็มอาร์เอนเอจะถูกนําเข้าไปยังบริเวณนี้
การกระตุ้นกรดอะมิโนเพื่อนําไปยังไรโบโซมกรดอะมิโนแต่ละชนิดจะสามารถจับกับที่อาร์เอนเอได้โดยอาศัยพลังงาน
ATP ซึ่งต้องใช้เอนไซม์aminoacyl-tRNA synthetase
การเริ่มแปลรหัสพันธุกรรม
การยุติการสร้างโปรตีน จะมีโปรตีน Release Factor (RF) เข้ามาจับโคดอนหยุดนั้นแทนเอนไซม์เอนไซม์เปปทิดิลทรานสเฟอเรส
หน่วยใหญ่จะเข้ามาร่วมจับได้เป็น initiation complex
พากรดอะมิโนเมไธโอนีนตัวแรกเข้ามาที่โคดอน AUG บนสายเอ็ม อาร์เอนเอ จากนั้นไรโบโซม
รหัสพันธุกรรม
การแปลรหัสจากเอ็มอารเ์อนเอไปเป็นลําดับกรดอะมิโนในสายพอลิเปปไทด์
เรียกขั้นตอนนี่ว่าการถอดรหัส
โดยลําดับเบสบนสายเอ็มอาร์เอนเอจะเป็นรหัสพันธุกรรมของโปรตีนชนิด
ต่าง ๆที่มีความยาวของลําดับเบสแตกต่างกันไปทําไมต้องมีรหัสถึง 64 รหัสเพื่อใช้ในการแปลเป็นกรดอะมิโนเพียง 20ชนิดเท่านั้น
เนื่องจากกรดอะมิโนบางชนิดมีรหัสพันธุกรรมมากกว่า หนึ่งรหัสการเพิ่มความยาวของสยพอลิเปปไทด์ หลังจากเกิด initiation complex
การสังเคราะห์
กรดนิวคลิอิก
เอมไซม์และโปรตีนกับการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
เอมไซม์สังเคราะห์คือเอมไซม์ดีเอนเอพอลิเมอเรสทําหน้าที่เร่งปลาย5ไปปลาย3
การลอกแบบดีเอนเอจะเกิดในทิศปลาย5 ไปปลาย 3
เป็นดีเอนเอสายใหม่คือดีเอนเอเส้นนําแต่สายที่อยู่ตรงข้ามคือดีเอ็นเอ
การสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
วิธีอนุรักษ์มีการจําลองตัวเองของดีเอนเอแล้ว2สายไม่แยกจากกันยงัเป็นสายเดิมได้ดีเอ็นเอสายใหม่
วิธีอนุรักษ์เมื่อมีการจําลองตัวเองของดีเอ็นเอแล้วดีเอนเอแต่ละโมเลกุลจะมีพอลินิวคลีโอไทด์สายเดิมและสายใหม่
ขั้นตอนการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ
ดีเอ็นเอเเม่เเบบเกลียวคู่จะคลายเกลียวได้โดยใช้เอ็นไซม์เฮลิเคสซึ่งจับกับ
บรเิวณเรพลิเคชันฟอร์คทําให้ดีเอ็นเอแยกเป็น 2 สาย
การสังเคราะห์ดีเอนเอจําเป็นต้องมีไพรเมอรเ์พื่อทําหน้าที่เริ่มต้นการสังเคราะห์
จากนั้นเอนไซม์ดีเอนเอพอลิเมอเรส III จะมาเร่งปฏิกิรยิาการสร้างสายดีเอ็นเอต่อจากอาร์เอนเอไพรเมอร์ในทิศทาง 5 ไป 3 เสมอ
การสังเคราะห์อาร์เอ็นเอ
ขั้นตอนเริ่มต้นดีเอนเอเส้นที่ถูกกําหนดให้มีการสังเคราะหเ์อ็มอาร์เอ็นเอ จะมีบริเวณโปรโมเตอร์เพื่อให้เอนไซม์อารเ์อนเอพอลิเมอเรสเริ่มจับเมื่อกำหนดให้นิวคลิโอไทด์ตัวแรกของจุดเริ่มต้นของดีเอนเอที่เป็น coding strand
การสิ้นสุดการสร้าง เมื่อเอนไซม์อาร์เอนเอพอลิเมอเรสเคลื่อนตัวมาถึง
บริเวณจุดยุติก็จะหยุดการเติมนิวคลิโอไทด์
การเพิ่มความยาวเมื่อพันธะฟอสโฟไดเอสเทอร์พันธะแรกถูกสร้างขึ้นเอนไซม์อาร์เอนเอพอลิเมอเรสจะเคลื่อนตัวไปบนสายดีเอนเอแม่แบบในทิศทาง 3 ไป 5