Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

อวัยวะสัมผัสหู - Coggle Diagram

- - - - เกิดจากความผิดปกติของหูชั้นนอกเยื่อแก้วหูและหูชั้นกลางทําให้มีความผิดปกติของกลไกการส่งผ่านคลื่นเสียงไปสู่หูชั้นใน
    - - เกิดจากความผิดปกติในอวัยวะรูปหอยโข่งในหูชั้นใน
    - - เกิดจากความผิดปกติในระบบการนําเสียงร่วมกับประสาทรับฟังเสียงบกพร่อง
  - - - Presbycusis พบในคนชรา
      - Noise induced hearing loss เกิดจากเสียงดังมาก
      - Drug induced hearing loss เกิดจากยากลุ่ม Aminoglycoside,salicylate, diuretics
      - Infection ติดเชื้อจากหูชั้นใน น้ําไขสันหลัง การติดเชื้อหูชั้นกลาง
      - Trauma
      - Vascular cause
      - Tumor
      - Meniere's disease
      - Autoimmune
      - Sudden sensorineural hearing loss
  - - - อาการนํา เช่น หูอื้อ เสียงดังในหู หรือการได้ยินลดลง
      - อาการร่วม เช่น ปวดหู น้ำออกหู คันหู มีเสียงดังในหู เวียนหัวบ้านหมุน อาการผิดปกติของระบบประสาทจะช่วยบอกตําแหน่ง
      - ประวัติในอดีต เช่น การใช้ยาที่มีพิษต่อหู อุบัติเหตุที่ศีรษะ การผ่าตัดใบหู การได้ยินเสียงดังมากเกินไป
    - - การตรวจทางร่างกายทางหู คอ จมูก การส่องกล่องดูหู (Otoscope)
      - การตรวจทางระบบประสาท กรณีสงสัยรอยโรคของเส้นประสาทหรือสมอง
      - การตรวจการได้ยินด้วยส้อมเสียง (Tuning fork) เพื่อแยกโรคหูชั้นกลางหรือเส้นประสาทหูใน
- - - - ภาวะปกติขี้หูสามารถอุดตันอยู่ในส่วนของช่องหูชั้นนอกและมีสีและปริมาณที่มากน้อยได้แตกต่างกัน แต่บางครั้งเกิดปัญหาขี้หูอุดตัน
    - - ขี้หูแห้งและแข็ง Epithelial migration ลดลง
        ทําให้ขี้หูอุดตันได้ง่าย
    - - หูอื้อ ปวดหู
    - - โดยการล้าง ใช่เครื่องดูดหรือการใช้เครื่องมืออื่น ๆ ช่วย
  - - - ในเด็กเล็กมักพบของเล่นชิ้นเล็ก ลูกปัด หรือเมล็ดผลไม้ เด็กยัดใส่ รูหู ทําให้เกิดอาการติดเชื้อ จนถึงอาการเยื่อแก้วหูทะลุได้
      - ผู้ใหญ่มักพบเป็นเศษชิ้นส่วนของไม้พันสําลีหรือพวกแมลง
    - - หูอื้อ รําคาญ สูญเสียการได้ยิน
      - ยเด็กเล็กๆมักเอามือจับหูบ่อยๆ ร้องกวน และไม่ยอมดูดนม
      - วัยผู้ใหญ่จะพยายามแคะหู บางรายมีอาการมึนงงเวียนศีรษะจนถึงอัมพาตของใบหน้า
    - - สิ่งมีชีวิตใช้แอลกฮอล์70% หรือยาหยดประเภทน้ำมันหยอดลงไป แล้วคีบออก
      - สิ่งไม่มีชีวิต ใช้น้ำสะอาดหรือเกลือปราศจาก
        เชื้อหยอดจนเต็มหูแล้วเทน้ําออกหรือใช้ที่ล้างหูช่วย
      - ของแข็งใช้เครื่องมือแพทย์คีบออก
  - - - ปวดหู หูอื้อ การได้ยินลดลง มีน้ำหนองไหลจากหู หรือในบางรายพบว่ามีไข้สูง
    - - แพทย์จะใช้เครื่องมือทำการส่องตรวจหูเพื่อทำการวินิจฉัย และทำความสะอาดหู จากการตรวจอาจจะพบตั้งแต่เยื่อแก้วหูบวมแดงไปจนถึงแก้วหูทะลุและมีหนองไหลได้
    - - กิดจากการอักเสบติดเชื้อเฉียบพลันแพทย์จะให้ยปฏิชีวนะ หากเยื่อแก้วหูมีรูทะลุร่วมด้วยแพทย์อาจให้ยาหยอดหูร่วมด้วยขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้นอาจได้รับการผ่าตัด
      - เกิดจากการอักเสบติดเชื้อเรื้อรัง
        
        ถ้ายังมีหนองไหลอยู่แพทย์จะดูดหนองทำความสะอาดหู ให้ยาปฏิชีวนะร่วมกับยาหยอดหู หากอาการไม่ดีขึ้นอาจได้รับการผ่าตัด
        
        กรณีที่หูแห้งดีแล้วไม่มีน้ำหนองไหลจากหู แพทย์จะพิจารณาผ่าตัดปะแก้วหูเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำและช่วยให้การได้ยินดีขึ้น
    - - เกิดฝีหลังหู
      - หน้าเบี้ยวจากเส้นประสาทที่เลี้ยงใบหน้าอักเสบ
      - เส้นประสาทการได้ยินเสื่อมหรืออักเสบ
      - เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
      - ฝีในสมอง
  - - - รู้สึกปวดหูหรือเจ็บหูทันทีหลังเกิดการฉีกขาดของแก้วหู
      - มีของเหลวไหลออกมาจากช่องหู
        อาจมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ เป็นหนอง หรือมีเลือดปนออกมา
      - ได้ยินเสียงดังในหู หูอื้อ
      - การได้ยินลดลงหรือสูญเสียการได้ยินบางส่วน
      - รู้สึกเหมือนมีลมออกจากหูเมื่อมีการเบ่ง เช่น การสั่งน้ำมูก เนื่องมาจากแรงดันในหูชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น
      - ไข้ขึ้นสูง
      - ในกรณีที่อาการรุนแรงอาจทำให้ใบหน้าเบี้ยว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน
    - - การติดเชื้อในหูชั้นกลาง (Otitis Media)
      - การบาดเจ็บจากแรงกระแทก แรงดัน (Barotrauma)
      - เสียงดังมากอย่างฉับพลัน
      - สิ่งแปลกปลอมในหู
      - การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
    - - การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ (Laboratory Tests)
      - การตรวจการทำงานของหูชั้นกลาง (Tympanometry)
      - การตรวจการได้ยิน
    - - การปลูกเยื่อแก้วหู (Eardrum Patch)
        
        แพทย์จะใช้สารเคมีจี้ไปที่ขอบรอยฉีกขาดบนแก้วหู เพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อแก้วหูงอกขึ้นมาใหม่ จากนั้นจึงปะด้วยกระดาษแบบพิเศษบริเวณที่รอยฉีกขาด โดยต้องมีการทำซ้ำอีกหลายครั้งจนกว่าแก้วหูจะปิดสนิท
      - การผ่าตัดปะแก้วหู (Tympanoplasty)
        
        เป็นการรักษาในกรณีที่แก้วหูไม่สามารถปิดได้เอง การปลูกเยื่อแก้วหูไม่ได้ผล รอยฉีกมีขนาดใหญ่ หรือเป็นรอยที่เกิดจากการติดเชื้อ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดโดยนำเนื้อเยื่อในส่วนอื่นของผู้ป่วยที่มีความใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อแก้วหูมาปิดบริเวณที่แก้วหูทะลุทดแทน
- - - - การใช้เครื่องช่วยฟัง (hearing aid) เหมาะในผู้ป่วยที่มีการสูญเสียการได้ยินไม่มาก
    - - แพทย์จะทำการเอากระดูกหูส่วนที่เป็นโรคออก และใส่วัสดุเทียมเข้าไป เพื่อทำหน้าที่ในการส่งผ่านเสียงแทนกระดูกที่มีหินปูนยึดติด ทำให้การนำเสียงกลับมาเป็นปกติ ทำให้การสูญเสียการได้ยินดีขึ้น
- - - - การทำกายภาพบำบัดเพื่อเคลื่อนตะกอนหินปูน
      - การทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เกิดการปรับสภาพของสมองได้เร็วขึ้น
- - - - ให้ยาบรรเทาอาการ
      - ควรหยุดเดินหรือนั่งพักถ้าฝืนจะเกิดอุบัติเหตุ
      - พยายามอย่ากินหรือดื่มหนัก
      - หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ
- - - - การติดเชื้อไวรัส
      - การอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหูชั้นใน
        
        เส้นเลือดแดงหดตัวเฉียบพลัน
        
        เส้นเลือดที่เสื่อมตามวัย
        
        เลือดข้น จากการขาดน้ำ
        
        การอักเสบของเส้นเลือด (vasculitis)
      - การรั่วของน้ำในหูชั้นใน เข้าไปในหูชั้นกลาง (perilymphatic fistula)
    - - การบาดเจ็บ
      - เนื้องอก
      - การติดเชื้อของหูชั้นใน
      - สารพิษและพิษจากยา
      - น้ำในหูไม่เท่ากัน