Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Metabolism - Coggle Diagram

- - - - เติมหมู่ฟอสเฟตที่กลูโคส เพื่อเป็น glyceraldehyde-3-phosphate
      - ใช้ 2 ATP เพื่อสลายพันธะ C-C
    - - glyceraldehyde-3-phosphate ถูกออกซิไดซ์และเติมหมู่ฟอสเฟตโดย inorganic phosphate
      - ไม่ใช้ ATP
      - เกิด 2 NADH
      - 1,3 biphosphoglycerate
        
        ปลดปล่อยพลังงาน 2 ATP
        
        2 Pyruvate
  - - - อาศัยเอ็นไซม์ Pyruvate dehydrogenase complex
        
        เข้าสู่ Citric acid cycle / Kreb cycle
  - - - Isocitrate dehydroganase
      - Citrate Synthase
    - - 3 NADH และ FADH2
        
        electron transport chain
  - - - respitory chain
      - electron transport chain
        
        ที่เยื่อหุ้มชั้นในของไมโทคอนเดรีย
  - - - เอ็นไซม์ glucose-6-phosphate dehydrogenase
        
        CO2
        
        Pentose-5-phosphate
        
        ถูกรีดิวซ์เป็น NADPH
    - - NADPH
        
        สังเคราะห์กรดไขมัน และกรดอะมิโน
      - Ribose-5-phosphate
        
        สังเคราะห์กรดนิวคลีอิค
  - - - สารที่ใช้ในการสังเคราะห์กลูโคส
        
        กรดแลกติก
        
        ไพรูเวต
        
        กลีเซอรอล
        
        สารตัวกลางอื่น ๆ
        
        Citric acid cycle
        
        Glycolysis
    - - ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในตับและกล้ามเนื้อ
      - การสลายไกลโคเจนในตับทำให้ได้พลังงานและน้ำตาลในเลือด เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
      - การสังเคราะห์ไกลโคเจน
        
        นำกลูโคสเติมหมู่ฟอสเฟต
        
        Glucose-6-phosphate => Glucose-1-phosphate
        
        ทำปฏิกิริยากับ UTP
        
        อาศัยเอ็นไซม์ UDP-glocose pyrophosphorylase
        
        UDP-glucose
        
        1 more item...
- - - - ไมโตคอนเดรียก่อน
  - - - ปฏิกิริยาที่สร้างหรือรวมตัวของโมเลกุลขนาดเล็กให้เป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ซึ่งต้องการพลังงานเรียกว่า Endergonic
    - - ปฏิกิริยาที่ย่อยสารประกอบขนาดใหญ่ให้เป็นสารโมเลกุลขนาดเล็กและปล่อยพลังงานเคมีที่อยู่ในพันธะโมเลกุลนั้นๆเรียกว่า exergonic
        
        ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ triacylglycerol หรื่อว่าอยู่ในของ triglyceride
        
        แคตาบอลิซึมของกรดไขมันเป็นปฏิกิริยาของออกซิเดชั่นเกิดขึ้นในไมโตคอนเดรีย
        
        ไขมันจากการย่อยอาหารจะถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กแล้วสังเคราะห์ขึ้นเป็น triacylglycerol
        
        triacylglycerol จะเปลี่ยนจากรูปที่ไม่ละลายน้ำไปเป็นลูกของไมเซลล์ ต่อมน้ำดีจะหลั่งไปคลุกเคล้ากับ triacylglycerol ทำให้ลำไส้เล็กหลั่งเอนไซม์ไลเปส
        
        กรดไขมัน(fatty acid)
        
        กลีเซอรอล
        
        ประมาน95%ของพลังงานทั้งหมดไตรเอซิลกลีเซอรอล จะยังคงอยู่ในรูปของสายโซ่กรดไขมัน
  - - - acetyl CoA เข้าสู่ CTA -cycle
    - - เรียกว่าภาวะคีโตซีส(ketosis)
  - - - เอสเทอริฟิเคชันไปยัง coA
      - การเปลียนกลับเป็น coA
      - Transestrification ไปยัง Carninine ตามด้วยการขนส่ง
  - - - palmitoyl-CoA จะถูกออกซิไดซ์ทั้งหมด 7 ครั้ง
        และได้ 8 acetyl-CoA
      - จากFADH2จะให้1คู่อิเล็กตรอน และสังเคราะห์ได้ 1.5ATP และ NADHจะให้ 1 คู่อิเล็กตรอน และสังเคราะห์ได้ 2.5ดั้งนั้นการออกซิไดซ์ 1 ครั้งและการจัดการคาร์บอน ออก 2อะตอม จะสังเคราะห์ได้ 4ATP
    - - การออกซิไดซ์กรดไขมัน Oleate ที่มี 18 Cและมี1พันธะคู่
  - - - โดยต่อมน้ำดีจะหลั่งน้ำดีไปคลุกเคล้ากับไตรเอซิลกลีเซอรอลที่ลำไส้เล็ก ทำให้เอนไซม์ไลเปส(water-soluble lipase)ทำหน้าที่ย่อยไตรเอซิลกลีเซอรอลเเล้วจะได้เป็น
        
        กรดไขมันอิสระ(free fatty acids)
        
        กลีเซอรอล(glycerol)
      - ไตรเอซิลกลีเซอรอลจะต้องเปลี่ยนรูปที่ไม่ละลายน้ำไปเป็นรูปของไมเซลล์(micelles)
    - - กรดไขมัน
      - Glycerol
- - - - เป็นฮอร์โมนที่สร้างจากสมอง ในเวลาที่ไม่มีแสงหรือมีแสงสว่างน้อย เมื่อถึงเวลา ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วง ปกติจะเป็นเวลาประมาณ 21.00 น.
    - - สารสื่อประสาท Gamma - Aminobutyric Acid สังเคราะห์จากกรดอะมิโนกลูตาเมทเร่งด้วยเอนไซม์ glutamate decarboxylase
    - - ระบบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดอาการแพ้
  - - - It may be used for biosynthesis
      - It may be excreted as a part of a nitrogen-containing product