Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลไกการติดเชื้อที่บริเวณคอหอยหรือต่อมทอลซิลอักเสบ - Coggle Diagram
กลไกการติดเชื้อที่บริเวณคอหอยหรือต่อมทอลซิลอักเสบ
การพยาบาล
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ hypovolemic shock
เนื่องจากสูญเสียเลือดหรือสารเหลวขณะทำการผ่าตัด
ประเมิน vital signs ทุก 15 นาที 1-2 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัดจน vital signs คงที่จึงวัดทุก 30 นาทีนาน 1-2 ชั่วโมงจากนั้นวัดทุก 4 ชั่วโมงถ้ามีอาการกระสับกระส่ายระดับความรู้สึกตัวลดลงเหงื่อออกถ้าสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลงมากเช่นความดันโลหิตต่ำชีพจรเร็วให้จัดท่านอนหงายยกปลายเท้าสูง 20-30 องศาขาและเข่าเหยียดตรงเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดกลับสู่หัวใจ
ประเมินการเสียเลือดจากแผลผ่าตัด
ถ้ามีเลือดออาจากแผลในช่องปากให้นำ cold park มาประคบบริเวณหน้าผากหรือคอเพื่อให้เลือดหยุดไหลหรืออมน้ำแข็งประคบหรืออมน้ำแข็งประมาณ 10 นาทีแล้วจึงเอาออกประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยมาประคบหรืออมน้ำแข็งใหม่เป็นเวลา 10 นาทีทำเช่นนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ
ดูแลให้สารละลายทางหลอดเลือดดำการได้รับเลือดส่วนประกอบของเลือดทดแทน
บันทึกการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและปริมาณปัสสาวะ
กลไก
การติดเชื้อที่บริเวณคอหอยหรือต่อมทอลซิล มักเกิดภายหลังโรคหวัด การอักเสบทำให้มีอาการแดงที่คอหอยหรือต่อมทอลซิลหรือทั้งสองแห่ง มีการสร้างสารคัดหลั่งตามชนิดของเชื้อพบว่าเชื้อgroupA beta hemolytic streptococcus ซึ่งมีเอ็ม โปรตีน(M Protien) ที่ผนังเซลล์เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดความรุนแรงเนื่องจากเป็นตัวกีดขวางขบวนการphagocytosis ของpolymorphonuclear neutrophils
ปวดแผลผ่าตัดเนื่องจากมีการแตกทำลาย
ของผิวหนังจากการผ่าตัด
ประเมินลักษณะอาการปวดความรุนแรงประดับของความปวดปัจจัยที่ทำให้ปวดโดยการสอบถามสังเกตสีหน้าท่าทางและประเมิน pain score
จัดท่านอนที่สุขสบายโดยจัดศีรษะสูงเล็กน้อย (ต้องไม่ขัดกับแผนการรักษา) และเปลี่ยนท่าอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
แนะนำเทคนิคการผ่อนคลายเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการปวดเช่นการทำสมาธิการหายใจการอ่านหนังสือฟังเพลงเป็นต้น
ดูแลให้ยาแก้ปวดตามแผนการรักษาและสังเกตอาการแทรกซ้อนของยาส่วนมากในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัดมักจะให้ยาระงับปวด เป็นยาparacetamol กับ Augmentin
เสี่ยงต่อร่างกายได้รับสารอาหารสารน้ำไม่เพียงพอกับความต้องการมีภาวะไม่สมดุลของสารอาหารสารน้ำและอีเลคโตรลัยท์เนื่องจากงดอาหารและน้ำทางปากหลายวันและได้รับสารอาหารทดแทน
ประเมินภาวะโภชนาการความต้องการพลังงาน
สารอาหารสารน้ำของผู้ป่วย
บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า-ออก
ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเช่น Albumin,
Hemoglobin, Electrolytes เป็นต้น
ข้อแนะนำก่อนกลับบ้าน
ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 24-48 ชั่วโมงหากรับประทานน้ำและอาหารได้เพียงพอและไม่มีภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยใช้เวลาพักฟื้นทั้งหมดประมาณ 7-10 วัน
ผู้ป่วยอาจจะมีไข้หรือมีอาการบวมหรือรู้สึกติดๆขัด ๆ ตึงๆคล้ายมีสิ่งแปลกปลอมบริเวณคอหรือมีเสียงเปลี่ยนได้ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์
หลังการผ่าตัด 1-2 วันแรกเพดานอ่อนหรือผนังในคออาจบวมมากขึ้นได้ทำให้หายใจอึดอัดไม่สะดวกดังนั้นจึงควรนอนศีรษะสูง
ผู้ป่วยจะได้รับยาแก้อักเสบยาแก้ปวดยาลดบวมในรูปยาน้ำและยากลั้วคอผู้ป่วยควรจะรับประทานยาดังกล่าวให้หมด
ควรหลีกเลี่ยงการขากเสมหะแรง ๆ การล้วงคอหรือแปรงฟันเข้าไปในช่องปากลึกเกินไปการออกแรงมากการเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนักหลังผ่าตัดภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก
ควรรับประทานอาหารอ่อนเช่นโจ๊กหรือข้าวต้มไม่ควรรับประทานอาหารที่แข็งหรือร้อนหรือรสเผ็ดหรือจัดเกินไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
โดยปกติหลังผ่าตัดประมาณ 2-4 สัปดาห์
แผลจะหายเป็นปกติ
การพยาบาลในหอผู้ป่วยในระยะ 24 ชั่วโมงแรก
กิจกรรม (Action)
1.รวบรวมข้อมูลการผ่าตัดจากแผนการรักษาของแพทย์และรับ
ข้อมูลจากพยาบาลห้องพักฟื้น/ห้องผ่าตัด Operative note
เตรียมเตียงและอุปกรณ์เครื่องใช้ที่เหมาะสม
สำหรับการดูแลผู้ป่วยแต่ละราย
3.ล้างมือก่อนช่วยย้ายผู้ป่วยขึ้นเตียง
4.แจ้งให้ผู้ป่วยทราบถึงการย้ายเตียงและสถานที่
5.ดูแลอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับ ปกติไม่ให้ต่ำ จนเกินไป
6.การจัดท่าหลังผ่าตัดตามความเหมาะสมเฉพาะโรค
7.ดูแลเพื่อบรรเทาอาการปวด การป้องกัน
ภาวะแทรกซ้อนและความไม่สุขสบายอื่นๆ
8.ประเมินอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักเกิดจากผลของยา ระงับความรู้สึก หากมีอาการควรให้การช่วยเหลือ
กลไกการเจ็บปวด
เกิดจากปริมาณน้ำและเกลือแร่ในร่างกายลดลง หรือปริมาณเลือดในร่างกายลดลง ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดเพื่อขนส่งออกซิเจนและสารอาหารไปเลี้ยงทั่วร่างกายเพียงพอ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บทางร่างกายอย่างรุนแรงจนเสียเลือดปริมาณมาก โรคโลหิตจางขั้นรุนแรงหรือภาวะขาดน้ำรุนแรง
การพยาบาลในระยะหลัง 24 ชั่ว โมงจนถึงจำ หน่ายกลับบ้าน)
1.หลัง 24 ชั่วโมงแรกวัดสัญญาณชีพ และระดับความรุนแรง ของความปวด ทุก 4-8 ชั่ว โมง ตามความจำเป็น
2.ช่วยในการพลิกตะแคงตัวทุก2 ชั่วโมงกระตุ้นให้ลุกนั่ง ลงจากเตียงหลังผ่า ตัด24 ชั่วโมง
3.ดูแลแผลผ่าตัด
4.วางแผนการให้ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่บ้าน ตามหลัก D-METHOD
D= Disease คำ แนะนา เกี่ยวกับโรคการรักษาการผ่าตัดที่ได้รับ การจัดการความปวด การสังเกตอาการผิดปกติที่ควรมา พบแพทย์ก่อนวันนัด
M = Medication คำแนะนา เกี่ยวกับยาที่ต้องรับประทานต่อ ที่บ้านทั้งวิธีใช้ วิธีเก็บรักษาการเฝ้าระวังอาการไม่พึง ประสงค์จากยาการแก้ไขเบื้องต้น
E= Environment การเตรียมสภาพแวดล้อมที่บ้านให้ เหมาะสมกับสภาพของผู้ป่วยหลังผ่าตัด
T = Treatment ให้คำแนะนำการรักษาพยาบาลที่ต้องทำเมื่อ กลับบ้าน อย่างต่อเนื่อง เช่น การทำแผลผ่าตัดการตัดไหม การปฏิบัติตัวเฉพาะโรค
H = Health ให้คำ แนะนำ การดูแลสุขภาพทั่วไป ได้แก่การ ทำความสะอาดร่างกาย การทำกิจกรรมการออกกำลังกาย การพักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก เป็นต้น
O = Out patient referral แนะนำ แหล่งให้ความช่วยเหลือใกล้บ้าน การมาตรวจตามนัด การสังเกตอาการผิดปกติซึ่ง จำ เป็นต้องมาพบแพทย์ก่อนนัด เช่น ไข้สูง แผลผ่าตัดติดเชื้อ เป็นต้น
D = Diet แนะนำการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับโรค และส่งเสริมการหายของแผล