Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
อวัยวะรับสัมผัส, นางสาวอารยา ชูระเชตุ ปี 2 รหัสนักศึกษา 62111301110 -…
อวัยวะรับสัมผัส
จมูก
การได้กลิ่น (Smeling)
จมูกเป็นอวัยวะที่รับสัมผัสกลิ่นเช่นกลิ่นอาหารและสารเคมีอื่น ๆ ในโพรงจมูกจะมีเซลล์รับสัมผัสกลิ่นซึ่งเป็นสารเคมีอยู่ทางตอนท้ายของโพรงจมูกอยู่ถึง 7 ชนิด
เลือดกำเดา (Epistaxis)
สาเหตุเป็นภาวะที่มีเลือดออกมาทางจมูกจากการฉีกขาดของหลอดเลือดที่เยื่อบุจมูกซึ่งอาจมาจากได้รับบาดเจ็บการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปและการมีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดรวมทั้งการติดเชื้อรวมไปถึงการมีเนื้องอกในช่องจมูกด้วย
อาการและอาการแสดง
- เลือดออกจากผนังกั้นจมูกส่วนหน้า (Anterior Epistaxis) พบบริเวณที่เรียกว่า Messelbach 5 plexus of ittle area ซึ่งเป็นบริเวณที่มีหลอดเลือดที่มาเลี้ยงจมูกรวมอยู่มากพบมากในเด็กและคนหนุ่มสาว
- เลือดออกจากผนังกั้นจมูกส่วนหลัง (Posterior Epistaxis) มักพบในผู้สูงอายุที่มีโรค FT หรือโรคในกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทำให้เลือดออกง่ายหยุดยาก
การรักษา
- เลือดออกจากผนังกั้นจมูกส่วนหน้า (Anterior Epistaxis)
-
1.2 การใช้ Anterior nasal packing คือการใส่ผ้ากอซที่มียาปฏิชีวนะและสารพวก Gel (ใช้หล่อลื่นเวลานำออก) เพื่อไปอุดตำแหน่งเลือดออก foam
- เลือดออกจากผนังกั้นจมูกส่วนหลัง (Posterior Epistaxis) เป็นตำแหน่งที่เลือดออกมากและหยุดยาก
2.1 Posterior nasat packing คือการอุดในช่องคอหลังโพรงจมูกโดยใช้ gauze tanpon หรือใช้ bacon หรือสาย Foley 5 ซึ่งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนกับผู้ป่วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
-
-
-
-
การพยาบาลหลังการรักษา
-
-
ถ้ามีอาการบวมบริเวณจมูกมากให้ประคบเย็นและให้ยาแก้ปวดร่วมกับจัดท่านอนศีรษะสูง 45-60 องศาเพื่อลดอาการบวมและให้พักผ่อนให้เพียงพอ
ประเมินเลือดออกโดยสังเกตผ้ากอซว่ามีเพื่อนหลุดลงไปในลำคอหรือไม่ถ้าเลือนต้องตัดให้สั้น แต่ห้ามดึงผ้ากอซออกเอง
อธิบายให้ทราบว่าอาจมีอาการหูอื้อได้ แต่จะหายเมื่อนำตัวกดห้ามเลือดออกซึ่งจะเอาออกหลังใส่ 48-72 ชั่วโมง แต่รายที่มีเลือดออกมากอาจใส่นาน 7 วัน
หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณจมูกเช่นการแคะขี้มูกการสั่งน้ำมูกแรง ๆ ซึ่งห้ามทำอย่างน้อย 1 สัปดาห์ถ้าไอจามให้เปิดปากด้วย
ภายหลังการนำเอาตัวกดเลือดออกควรนอนพักนิ่ง ๆ ก่อน 2-3 ซม. ห้ามยกของหนักการออกกำลังกายโดยใช้แรงมาก ๆ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์หลังมีเลือดออก
-
Sinusitis
-
ไซนัสอยู่ 4 คู่
- Maxillary sinus มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่แก้มทั้ง 2 ข้าง
- Frontal sinus อยู่ที่หัวคิ้วทั้ง 2 ข้างในบางรายพบว่ามีเพียงช่องเดียวหรือไม่มีเลยบางรายก็มีถึง 3 ช่อง
- Ethmoidal sinus อยู่ที่ซอกตาระหว่างกระบอกตาและจมูกเป็นช่องเล็ก ๆ ติดต่อกันอยู่มีข้างละประมาณ 2-10 ช่อง
- Sphenoidal sinus อยู่ที่หลังจมูกด้านบนสุดติดกับฐานของสมอง
-
-
การรักษาไซนัสอักเสบ
ส่วนมากเป็นการรักษาด้วยยารับประทานไม่นิยมให้ยาหยอดจมูกผู้ป่วยที่ปฏิบัติตนตามที่แพทย์แนะนำและรับประทานยาสม่ำเสมอมักหายได้ง่ายในระยะนี้ยาที่ใช้ส่วนใหญ่คือยาปฏิชีวนะและยาที่รักษาตามอาการ
-
การพยาบาลหลังผ่าตัด
- จัดท่านอนในท่าศีรษะสูง 40-45 องศาเพื่อลดอาการบวมบริเวณจมูกและแก้มเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น
- ประคบบริเวณจมูกด้วยความเย็นเพื่อบรรเทาอาการปวด (ใน 48 ชั่วโมแรกไม่ควรประคบร้อนเพราะจะกระตุ้นให้มีเลือดออกได้)
- การป้องกันการติดเชื้อควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยดูแลทำความสะอาดช่องปากโดยบ้วนปากด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงการแปรงฟันบริเวณแผล
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายการยกของหรือทำงานหนักภายใน 10-14 วันแรกหลังผ่าตัด
- ไม่ควรไอจามแรง ๆ ถ้าจะจามให้ทำแบบเปิดปากด้วยเพื่อลดแรงดันที่จะเข้าสู่โพรงอากาศข้างจมูกซึ่งทำให้แผลผ่าตัดในช่องปากแยกได้
-
-