Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การจัดการสิ่งแวดล้อม คุณภาพของน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค - Coggle Diagram
การจัดการสิ่งแวดล้อม
คุณภาพของน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค
คุณสมบัติของน้ำ
ด้านกายภาพ (Physical Quality)
ความขุ่น
สี
กลิ่น
รส
อุณหภูมิ
ด้านเคมี (Chemical Quality)
ความเป็นกรดเป็นด่างหรือค่าพีเอซ
ความกระด้าง
ปริมาณออกซิเจน
ด้านชีวภาพ (Biological Quality)
เป็นสื่อนำโรคได้
พารามิเตอร์ที่นิยมใช่บ่งชี้คุณภาพ
Tatal Bacteria or Standard Plate Count
Tatal Coliform Index
Fecal Coliform
การสร้างบ่อน้าเพื่อใช้น้าในการอุปโภคบริโภค
ประเภทของบ่อน้ำแบ่งตามลักษณะของชั้นดิน
บ่อน้ำตื้น
ลึกไม่เกิน 100 ฟุต
เป็นบ่อที่ขุดลงไปจนถึงชั้นดินอุ้มน้ำชั้นแรก
อยู่ในระดับเดียวกันกับระดับของน้าใต้ดิน
คุณภาพของน้ำมักไม่ถูกสุขลักษณะ
บ่อน้ำลึกหรือบ่อน้ำบาดาล
เป็นบ่อที่หรือเจาะลึกผ่านชั้นดินอุ้มน้ำชั้นแรกลงไปจนถึงชั้นดินอุ้มน้ำชั้นสอง
เป็นชั้นดินที่ไม่ยอมให้น้ำซึมผ่านต่อไป น้ำจึงถูกกักเก็บไว้เป็นจำนวนมาก
อยู่ระดับที่ต่ำกว่าระดับความดันของน้ำ
เมื่อขุดหรือเจาะลงไปถึงชั้นนี้น้ำจะพุงขึ้นมาทันที
การสร้างบ่อน้ำที่ถูกหลักสุขาภิบาล
1.เป็นสถานที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง สร้างห่างจากแหล่งน้ำโสโครกอย่างน้อย 30 เมตร
บ่อควรตั้งอยู่ระดับของต้นน้ำ
การขุดบ่อหรือป้องกันบ่อน้ำ
ขุดบ่อลึกจนถึงน้ำใต้พื้นดิน
ผนังบ่อทำด้วยวงขอบบ่อ อิฐ หรือวัสดุที่แข็งแรง
จากระดับปากบ่อลึกลงไปในบ่อประมาณ 10 ฟุต ควรจะถมด้วยดินเหนียว และอัดให้แน่น
จากระดับผิวดินลึกลงไปประมาณ 10ฟุต ควรจะยารอยต่อหรือฉาบซีเมนต์
ปากบ่อสูงกว่าระดับผิวดินอย่างน้อย 20 เซนติเมตร
สร้างฐานบ่อ มีรัศมีประมาณ 1 เมตรโดยรอบ
สร้างฝาผิดปากบ่อ
หลังจากสร้างบ่อเสร็จแล้ว ควรจะทำลายเชื้อโรคในบ่อก่อน โดยเติมน้ำยาคลอรีนลงไปในบ่อให้มีความเข้มข้นของคลอรีน 50-100 ppm
ปัญหาน้ำเสีย (Waste water)
ลักษณะน้ำเสียที่เป็นมลพิษ
ด้านกายภาพ
สารปนเปื้อนในน้ำ
สารแขวนลอยและตะกอน
สารลอยผิวหน้าน้ำ ได้แก่ ใบไม้ กิ่งไม้ โฟม ถุงพลาสติก
คราบน้ำมัน และสารอื่น ๆ
พารามิเตอร์
ความขุ่น
อุณหภูมิ
สี
กลิ่น
ด้านเคมี
สารอินทรีย์
มาจากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
พารามิเตอร์
Biochemical Oxygen Demand: BOD ปกติควรมีค่าบีโอดี 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ถ้าสูง แสดงว่าน้ำในแหล่งน้ำนั้นมีสารอินทรีย์ปนเปื้อนอยู่มาก
Chemical Oxygen Demand: COD ทำได้ในเวลา 2 ชั่วโมง ถ้าสูง แสดงว่าน้าในแหล่งน้านั้นมีสารอินทรีย์ปนเปื้อนอยู่มาก
สารอนินทรีย์
พารามิเตอร์
pH
น้ำบริสุทธ์มี pH7 น้ำตามธรรมชาติมี pH 6.0-8.5
มีปัญหามลพิษ สูงกว่า9.0 (กัดกร่อน) หรือต่ำกว่า 5.0 (มีผลต่อปฏิกิริยาเคมี)
ความกระด้างของน้ำ
เหล็กและแมงกานีส
มากกว่า 2 มก.ต่อลิตร อาจทำให้น้ำมีรสหวานปนขม
ต่ากว่า 0.1 มก.ต่อลิตร อาจทำให้น้ำไม่น่าบริโภคได้
มากกว่า 3 มกต่อลิตร หรือแมงกานีสมากกว่า 0.1 มก.ต่อลิตรมาซักเสื้อผ้าจะทำให้เกิดรอยด่าง
Chloride
ถ้าไม่มากกว่า 250 มกต่อลิตรจะทำให้น้ำ ไม่มีรสชาติไม่น่าบริโภค
Heavy metal
สารกัมมันตภาพรังสี
Toxic Compounds
Gases
ปริมาณของออกซิเจนในน้ำ (Dissolved Oxygen =DO) ต้องมีอย่างน้อย 5 มก/ลิตร ค่าปกติคือ 9.2 มก/ลิตร มีออกซิเจนสูงกว่า 6 ppm ถือว่าเป็นน้าที่สิ่งมีชีวิตอยู่ได้แต่ถ้าปริมาณออกซิเจนต่ำกว่า 2 ppm ถือเป็นน้ำเสื่อมคุณภาพ
Nitrogen
ไฮโดรเจนซัลไฟด์
มีเธน เป็นตัวทำนายว่าน้านั้นไม่มีออกซิเจนละลายน้ำเลยและมีการปนเปื้อนสารอินทรีย์มาเป็นเวลานาน
สารอนินทรีย์ที่จัดเป็นสารมลพิษทางน้ำ ได้แก่ โลหะหนัก
ด้านชีวภาพ
สิ่งมีชีวิต (Biological agents)
จุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค เช่น แบคทีเรีย โพรโตซัว ไวรัส รา
สาหร่าย
พารามิเตอร์
Coliform เป็นกลุ่มแบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้สัตว์เลือดอุ่น น้ำบริโภคกำหนดให้มีค่าพีเอ็นของโคลิฟอร์มไม่เกิน 2.2 ต่อน้ำ100มิลลิลิตร
Fecal Coliform ที่สำคัญคือ E.coli
น้ำบริโภคกำหนดให้ต้องไม่พบฟีคัลโคลิฟอร์ม
ปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งต่างๆ
น้ำผิวดิน
ปนเปื้อนของแบคทีเรียกลุ่มฟิคอลโคลิฟอร์มสูง
ปริมาณออกซิเจนละลายต่ำ
ความขุ่นของน้ำ
คุณภาพน้ำ
พบว่าภาคกลางเป็นบริเวณที่คุณภาพน้ำมีสภาพเสื่อมโทรมมากที่สุด
น้ำใต้ดิน
ได้ทำการเจาะและพัฒนาน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ เพื่อวัตถุประสงค์หลัก
การบริโภคอุปโภค
อุตสาหกรรม
เกษตรกรรม
น้ำฝน
การเฝ้าระวังคุณภาพน้าฝนในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2540-2542
ส่วนใหญ่ยังมีคุณภาพ ในเกณฑ์ดีมาก