Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 2 หลักการช่วยฟื้นคืนชีพ …

- - - - ทางเดินหายใจอุดตันจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น จากสิ่งแปลกปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ การแขวนคอ การถูกบีบรัดคอ การรัดคอ เป็นต้น
      - มีการสูดดมสารพิษ ก๊าซพิษ ควันพิษ
      - การถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงดูด
      - การจมน้ำ
      - การบาดเจ็บที่ทรวงอก ทำให้ทางเดินหายใจได้รับอันตรายและเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บ
      - โรคระบบประสาท เช่น บาดทะยัก ไขสันหลังอักเสบทำให้กล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต
      - การได้รับสารพิษจากแมลงสัตว กัดต่อย ทำให้มีการบวมของเนื้อเยื่อของทางเดินหายใจและหลอดลมมีการหดเกร็ง
      - การได้รับยากดศูนย์ควบคุมการหายใจ เช่น มอร์ิฟิน ฝิ่น โคเคน ฯลฯ
      - โรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงอย่าางเฉียบพลัน
      - 10.มีการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจและมีภาวะหายใจล้มเหลวจากสาเหตุต่าง ๆ
  - - - หัวใจล้มเหลวจากโรคหัวใจจากการออกกาลังกายมากเกินปกติ
      - มีภาวะช็อกเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันจากการสูญเสียเลือดมาก
      - ทางเดินหายใจอุดกั้นทำให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
      - การได้รับยาเกินขนาดหรือการแพ้ยา
- - - - ผู้ช่วยเหลือต้องตั้งสติ เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ป่วยและผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ
      - ตรวจสอบผู้ป่วย โดยการกระตุ้นผู้ป่วยด้วยการเรียก เขย่าตัว ถ้าผู้ป่วยไม่ตอบสนอง ขณะเดียวกันขอความช่วย ดังนี้
        
        2.1 ตะโกนขอความช่วยเหลือ
        
        2.2 ขอความช่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669
        
        2.3 นำเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจแบบอัตโนมัติ (AED) และอุปกรณ์ฉุกเฉินมาใช้
      - ตรวจคลำชีพจรบริเวณลำคอ(carotid artery) ของผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ภายในเวลา 5-10 วินาที ว่ารู้สึกถึงการมีชีพจรอย่างชัดเจนหรือไม่
      - ถ้าไม่มีชีพจรและไม่หายใจ ให้ทำการนวดหัวใจ
      - Chest compression การกดหน้าอก ลงมือนวดหัวใจทันที 30 ครั้ง ให้ได้อัตราเร็ว 100 – 120 ครั้ง/นาที จนกว่าจะคลำชีพจรได้ หรือจนกว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
      - Airway จัดท่าให้ทางเดินหายใจโล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวาง
      - Breathing การช่วยหายใจ โดยการเป่าปาก 2 ครั้ง (Mouth to Mouth หรือ Mouth to nose) แต่ละครั้งนาน 1 วินาที
      - ภายหลังช่วยหายใจแล้ว ให้ประเมินซ้ำว่าผู้ป่วยมีชีพจรหรือ หากไม่มีชีพจรให้ทำการนวดหัวใจต่อไป ในอัตราส่วนระหว่างการนวดหัวใจต่อการช่วยหายใจ เป็น 30 : 2 ครั้ง ทำซ้ำ 5 รอบหรือประมาณทุก 2 นาที จึงประเมินชีพจรการหายใจซ็ำ
    - - ผู้ป่วยมีระดับความรู้สึกตัวดีขึ้น เริ่มได้สติ กระพริบตาได้
        
        ผู้ป่วยหายใจได้เอง
        
        สามารถคลำชีพจรได้
        
        รูม่านตามีปฏิกิริยาต่อแสง
        
        ผิวหนังเริ่มแดงขึ้น
        
        สามารถวัดความดันโลหิตได้
    - - ประเมินความรู้สึกตัว คลำชีพจร การหายใจของผู้ป่วย
        
        จัดให้ผู้ป่วยใส่เสื้อผ้า
        
        จัดทำพักฟื้น (recovery position) ในกรณีที่ผู้ป่วยยังมีสติอยู่แต่หายใจได้เองมีชีพจร เพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจ ลดความเสี่ยงการอุดกั้นทางเดินหายใจ และกาสำลักอาหารได้
  - - - 1.1 เริ่มต้นด้วยการกู้ชีพขั้นพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ
      - 1.2 ดูแลให้ออกซิเจน และติด monitor/defibrillator
      - 1.3 การเปิดเส้นเลือดดำและการให้ยา
      - 1.4 การใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจ (advanced airway)
      - 1.5 การค้นหาสาเหตุ เพื่อให้การวินิจฉัยโรคและนำไปสู่การรักษาตามสาเหตุโดยแบ่งเป็น 5H’s และ 5T’s
        
        5 H’s
        
        Hypovolemia
        
        Hypoxia
        
        Hydrogen ion (acidosis)
        
        Hypo-/hyperkalemia
        
        Hypothermia
        
        5T’s
        
        Thrombosis (coronary)
        
        Thrombosis (pulmonary)
        
        Tension pneumothorax
        
        Tamponade (cardiac)
        
        Toxins