Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ดาวฤกษ์ - Coggle Diagram
ดาวฤกษ์
ระบบดาวฤกษ์
คือระบบดาวขนาดย่อมซึ่งประกอบด้วยดาวฤกษ์ตั้งแต่ 2 ดวงขึ้นไป ดาวฤกษ์ดังกล่าวตกอยู่ใต้แรงดึงดูดของกันและกัน จึงโคจรอยู่ในวงโคจรของกันและกัน
ระบบดาวคู่
การจำแนกระบบดาวคู่
1.ระบบดาวคู่ที่มีการเคลื่อนที่เฉพาะร่วมกัน ซึ่งเป็นสมาชิก สองดวง ที่มองเห็นแยกกันและมีการเคลื่อนที่ในแนวขวางไปพร้อมๆกัน มีคาบวงโคจรยาวนานมากจนไม่
3.ระบบดาวคู่แบบการวัดดาราศาสตร์ ซึ่งสมาชิกดวงหนึ่งมีความสว่างมากกว่าสมาชิกอีกดวงหนึ่งทำให้สังเกตเห็นสมาชิกดวงที่สว่างได้เพียงดวงเดียวเท่านั้นจากการสังเกตการณ์สมาชิกดังกล่าวจะมีการเคลื่อนที่ส่ายเป็นคาบ (Oscillatory Motion) รอบสมาชิกอีกดวงหนึ่งซึ่งมองไม่
2.ระบบดาวคู่แบบมองเห็นแยกกัน ซึ่งเป็นสมาชิกสองดวงที่มองเห็นแยกกันได้และสามารถสังเกตเห็นการโคจรของสมาชิกทั้งสองดวงรอบกันได้
4.ระบบดาวคู่สเปกตรัม จะไม่สามารถสังเกตเห็นสมาชิทั้งสองดวงแยกกันได้ (เห็นเป็นดาวเพียงดวงเดียว) แต่เมื่อถ่ายสเปกตรัมพบ่าวมีชุดสเปกตรัม 2 ชุดซ้อนกันอยู่และเป็นอิสระต่อกัน อีกทั้งยังเป็นชั้นสเปกตรัมที่แตกต่างกันด้วย และมีการเลื่อนของดอปเปลอร์ในทิศตรงกันข้าม แต่สมาชิกทั้งสองดวงในระบบดาวคู่นี้อาจมีวงโคจรรอบกันที่ยาวมาก จึงไม่อาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นคาบของความเร็วในแนวเล็ง (Radial Velocity) ของสมาชิกแต่ละดวงได้
5.ระบบดาวคู่สเปกโทรสโคปี ไม่สามารถสังเกตเห็น สมาชิกทั้งสองดวงแยกกัรได้เช่นกัน แต่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นคาบของความเร็วในแนวเล็งของสมาชิกแต่ละดวง ซึ่งสามารถนํามาสร้าง “กราฟความเร็วในแนวเล็ง (Radial VelocityCurve)” ได้ การสังเกตการณ์ระบบดาวคู่สเปกโทรสโคปีจำเป็นต้องใช้เครื่องสเปกโทรกราฟความละเอียดสูง กับกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่
6.ระบบดาวคู่อุปราคา จะสงเกตเห็นเป็นดาวดวงเดียวเท่านั้น เนื่องจากสมาชิกทั้งสองดวงอยู่ใกล้กันมาก ระนาบวงโคจรของระบบดาวคู่เกือบอยู่ในแนวสายตา ทำให้สามารถสังเกตเห็นการแปรแสงอันเป็นผลมาจากดาวทั้งสองดวงเคลื่อนที่บังกันสามารถนํามาสร้าง กราฟแสง
เป็นระบบที่ประกอบด้วยสมาชิกสองดวงอยู่ภายใต้สนามความโน้มถ่วงซึ่งกันและกันสมาชิกของระบบดาวคู่แต่ละดวงต่างก็โคจรรอบจุดศูนย์กลางของมวลร่วมกัน ในบรรดาดาวฤกษ์ทั้งหมดพบว่าประมาณครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าเป็น
-
สี,อุณหภูมิของดาวฤกษ์
และสเปกตรัมของดาว
สีของดาวฤกษ์จะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิพื้นผิวของดาวฤกษ์คือดาวที่มีอุณหภูมิพื้นผิวต่ำ จะมีสีค่อนข้างแดงดาวที่มีอุณหภูมิพื้นผิวสูงจะมีสีไปทางขาวหรือแกมน้ำเงินสีเหลืองอมขาวมีอุณหภูมิประมาณ7400องศาเคลวิน สีแดงอุณหภูมิประมาณ3500องศาเคลวิน สีฟ้าอุณหภูมิประมาณ28000องศาเคลวิน สีน้ำเงินอมขาวประมาณ29000-40000องศาเคลวิน นอกจากนี้ดาวแต่ละประเภทยังจัดอยู่คนละชั้นสเปกตรัมกันอีกด้วย
กรรมวิธีที่นักดาราศาสตร์ศึกษาดาวฤกษ์โดยการสังกตจากสเปกตรัมของดาวเรียกว่า "สเปกโตรสโคปี" (Spectroscopy) โดยใช้เครื่องสเปกโตรมิเตอร์ต่อพ่วงกับกล้องโทรทรรศน์เพื่อรวมแสงดาวเข้ามาผ่านเกรตติงเพื่อแยกแสงดาวออกเป็นสเปกตรัมช่วงคลื่นต่างๆ แล้วบันทึกภาพด้วยอุปกรณ์บันทึกภาพ CCD สเปกตรัมจะบอกสมบัติของดาว 3 ประการคือ อุณหภูมิพื้นผิว องค์ประกอบทางเคมีของบรรยากาศและทิศทางการเคลื่อนที่ของดาวซึ่งสัมพัทธ์กับโลก
พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความยาวคลื่นเข้มสุดที่ดาวแผ่รังสีออกมา (λmax) กับอุณหภูมิพื้นผิว (T) ตามกฎการแผ่รังสีของวีนที่ว่าλmax = 0.0029/T ซึ่งอธิบายอย่างสั้นๆว่า "ความยาวคลื่นของรังสีเข้มสุดที่ดาวแผ่ออกมา แปรผกผันกับอุณหภูมิพื้นผิวของดาว"
ดาวฤกษ์ที่แผ่รังสีเข้มสุดเป็นรังสีอัลตาไวโอเล็ตที่ความยาวคลื่น 250 nm มีอุณหภูมิพื้นผิว 12,000 K
ดาวฤกษ์ที่แผ่รังสีเข้มสุดในช่วงแสงที่ตามองเห็นที่ความยาวคลื่น 500 nm มีอุณหภูมิพื้นผิว 6,000 K
ดาวฤกษ์ที่แผ่รังสีเข้มสุดเป็นรังสีอินฟราเรดที่ความยาวคลื่น 1,000 nm ภาพที่ 1 ความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิและ มีอุณหภูมิพื้นผิว 3,000 K ตามลำดับ
ความหมาย
ดาวฤกษ์ เป็นดาวที่มีองค์ประกอบเป็นแก๊สร้อนขนาดใหญ่มีพลังงานมหาศาล เกิดขึ้นจากกลุ่มแก๊สและฝุ่นรวมตัวกัน ซึ่งเรียกว่า เนบิวลา เมื่อก๊าซร้อนในเนบิวลาอัดแน่นจนมีอุณหภูมิสูงถึง 10 ล้านเคลวิน จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นหลอมรวมไฮโดนเจนให้เป็นฮีเลียม กำเนิดเป็นดาวฤกษ์
-
การเกิดดาวฤกษ์
เกิดจากกลุ่มแก๊สไฮโดรเจนขนาดมหึมาในอวกาศเรียกว่าเนบิวลา ซึ่งกลุ่มแก๊สจะเริ่มยุบตัวลงอย่างช้าๆเนื่องจากแรงโน้มถ่วงจากศูนย์กลางโดยขณะยุบตัวแรงโน้มถ่วงก็จะเพิ่มมากขึ้นทำให้อัตรายุบตัวถูกเร่งให้เร็วขึ้นใจกลางของกลุ่มแก๊สจึงความหนาแน่น,อุณหภูมิสูงขึ้นคือปฏิกริยาที่ธาตุเบาเช่นไฮโดรเจนรวมตัวเป็นธาตุ มีน้ำหนักกมากขึ้น
“เนบิวลา” (Nebula) หรือ “หมอกเพลิง” คือ กลุ่มแก๊สและฝุ่นซึ่งรวมตัวกันเนบิวลาเป็นกลุ่มแก๊สที่ขนาดใหญ่หลายปีแสง แต่เบาบางมีความหนาแน่นต่ำมากองค์ประกอบหลักของเนบิวลาคือแก๊สไฮโดรเจน เนื่องจากไฮโดรเจนเป็นธาตุที่มีโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นธาตุตั้งต้นของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล
ความสว่างของดาวฤกษ์
เป็นพลังงานจากดาวฤกษ์ที่ปลดปล่อยออกมาในเวลา 1 วินาทีต่อหน่วย พื้นที่มีหน่วยเป็นวัตต์ต่อตารางเมตร(W/m2) ค่าการเปรียบเทียบความสว่างของดาวฤกษ์ เรียกว่า อันดับความสว่างหรือแมกนิจูด(magnitude)
อันดับความสว่างไม่มีหน่วย เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดขึ้นเพื่อแสดงการรับรู้ความสว่างของผู้สังเกต ดาวฤกษ์ด้วยตาเปล่า ดาวที่มีความสว่างมาก อันดับความสว่างยิ่งน้อย ส่วนดาว ที่มีความสว่างน้อย อันดับความสว่างจะมีค่ามาก อันดับความสว่างสามารถนำไปใช้กับดวงจันทร์และดาวเคราะห์ได้
โชติมาตรปรากฏ/ความส่องสว่างที่ปรากฏ สังเกตได้จากโลก ใช้ดูความสว่างของดาวฤกษ์จากโลกเป็นการกำหนดระดับความสว่าง ซึ่งเป็นตัวเลขที่กำหนดขึ้นโดยกำหนดเป็น 6 ระดับดาวฤกษ์ที่มีโชติมาตรต่างกัน 1 จะมีความสว่าง ต่างกัน 2.512 เท่า ดาวสองดวงมีความสว่างต่างกัน = (2.512)n เท่า ดาวที่มีค่าโชติมาตรน้อยจะมีความสว่างมากกว่าดาวที่มีค่าโชติมาตรมาก
-
ระยะห่าง
ดาวฤกษ์อยู่ห่างจากโลกมาก และระยะระหว่างดาวฤกษ์ด้วยกันเองก็ห่างไกลกันมากเช่นกัน การบอกระยะทางของดาวฤกษ์จึงใช้หน่วยของระยะทางต่างไปจากระยะทางบนโลก ดังนี้
- ปีแสง (lightyear หรือ Ly.) คือ ระยะทางที่แสงเดินทางในเวลา 1 ปี อัตราเร็วของแสงมีค่า 3 x 108 m/s
- หน่วยดาราศาสตร์(astronomical unit หรือ A.U) คือ ระยะทางระหว่างโลกและดวงอาทิตย์ ระยะทาง 1 A.U มีค่า 150 ล้านกิโลเมตร
- พาร์เซก (parsec) เป็นระยะทางที่ได้จากการหาแพรัลแลซ์(parallax) คือการย้าย ตำแหน่งปรากฏ ของวัตถุเมื่อผู้สังเกตอยู่ในตำแหน่งต่างกันของดาวดวงนั้น ซึ่งเป็นวิธีวัดระยะห่างของดาวฤกษ์ที่อยู่ค่อนข้างใกล้โลกได้อย่างแม่นยำกว่าดาวฤกษ์ที่อยู่ไกลมา
-