Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิทางการเรียนและทกัษะการแก้โจทย์ ปัญหาคณติศาสตร์ …
เรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิทางการเรียนและทกัษะการแก้โจทย์
ปัญหาคณติศาสตร์
ของนักเรียนโดยใช้กลวิธีSTAR
ปัญหาการวิจัย
ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียน เรื่อง การแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ก่อนและหลงัการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธีSTAR พบว่า ผลการทดสอบหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย 27.33 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 68.33 สูงกว่าผลการทดสอบก่อนเรียนมีค่าเฉลีย17.97 คะแนน คิดเป็นร้อยละ44.93 อยา่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ประชากรนักเรียนที่ใช้ในการวิจัยยังมีจำนวนน้อย
ปีที่พิมพ์
กันยายน พ.ศ 2560
มหาวทิยาลยัราชภัฏรําไพพรรณี
ความมุ่งหมายวิจัย
เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิทางการเรียนของนกัเรียน เรืองการแกโ้จทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
โดยใช้กลวิธีSTAR เปรียบเทียบกับเกณฑร์้อยละ70
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เรือง การแก้โจทย์ปัญหา
คณิตศาสตร์ก่อนและหลงัการจดัการเรียนรู้โดยใชก้ลวิธีSTAR
เพื่อศึกษาทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนักเรียน
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนการรู้โดยใช้กลวิธี STAR
ตัวแปรตาม ได้แก่
2.1 ผลสัมฤทธิทางการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
2.2 ทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ของนกัเรียน
ทบทวนวรรณกรรมบทที่2
การวิจัยเรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
ของนักเรียนโดยใช้กลวิธีSTAR ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้
1.ความจำ เป็นในการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
ประเภทของโจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์
กลวิธีแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการสอนคณิตศาสตร์โดยใช้กลวิธี STAR
กระบวนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ประกอบด้วย4ขุั้นตอน ดังนี้
ขั้นทำความเข้าใจปัญหา เป็นการมองไปที่ตัวปัญหา พิจารณาว่าปัญหานั้นต้องการอะไร ปัญหากําหนดอะไรให้บ้าง เช่น การเขียนรูปภาพ หรือแผนภูมิ
2.ขั้นวางแผน เป็นขั้นตอนสําคัญทีจะต้องพิจารณาว่าจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใดจะแก้
อย่างไร ปัญหาทีเคยมีประสบการณ์ในการแก้มาก่อนหรือไม่
3.ขั้นดำเนินการตามแผน เป็นขั้นตอนที่ลงมือปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ให้ชัดเจนแล้วลงมือปฏิบัติจนกระทั้งสามารถหาคำตอบได้
ขั้นตรวจสอบ เป็นขั้นที่ผู้แก้ปัญหามองไปที่ปัญหา ที่ขั้นตอนนั้นเพื่อพิจรณาความถูกต้องของคำตอบและปรับปรุงแก้ไขวิธีแก้ปัญหาให้ชัดเจน
ชาร์ลและเลสเตอร์ ได้พิจารณาจำแนกประเภทของ
ปัญหาตามเป้าหมายของปัญหาดังนี้
ปัญหาที่ใช้ฝึก(Drill Exercise) เป็นปัญหาที่ใช้ฝึกขั้นตอน วิธีและการคำนวณเบื้องต้น
ปัญหาข้อความยากง่าย เป็นปัญหาที่เคยพบมาก่อน เช่น ปัญหาในหนังสือเรียนรู้ฝึกให้คุ้นเคยกับการเปลี่ยนประโยคภาษา เป็นประโยนสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
ปัญหาทีเป็นกระบวนการ
ปัญหาการประยุกต์ เป็นปัญหาที่ต้องใช้ทักษะความรู้มโนมติและดำเนินการทางคณิตศาสตร์
ปัญหาปริศนา (Puzzle Problem) เป็นปัญหาทีบางครั้งได้คำตอบจากการเดาสุ่ม
ไม่จำเป็นต้องใช้คณิตศาสตร์ในการแก้ ปัญหา
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที5 - 6 ทีศึกษาอยู่ในโรงเรียนวัดน้ำ
ขุ่น อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรีภาคเรียนที2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน2 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 36 คน เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที5 จำนวน 21 คน และ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที 6 จำนวน 15 คน ซึงได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Sampling) เป็นห้องเรียนที่มีนักเรียนแบบคละความรู้ความสามารถโดยกลุ่มตัวอย่างได้รับการจัดการเรียนรู้เรื่องการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์โดยใช้กลวิธีSTAR
เครื่องมือและการหาคุณภาพ
แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กลวิธีSTAR
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่5-6 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือกจาํนวน 30ข้อ
แบบทดสอบวัดทักษะในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ แบบอัตนัยและปรากฏร่องรอยในการคิด จำนวน 1 ฉบับ จาํนวน 4 ข้อ ซึ่งใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเป็นแบบทดสอบชุดเดิม
สถิติที่ใช้ในการวิเคระาห์
สถิติพื้นฐาน
ค่าเฉลียเลขคณิต
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผู้แต่ง กนัต์กนิษฐ์ พลพิพัฒน์
์