Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพัฒนาโครงงานและกระบวนการเชิงวิศวกรรม - Coggle Diagram
การพัฒนาโครงงานและกระบวนการเชิงวิศวกรรม
การคิดเชิงออกแบบกับการแก้ปัญหา
2.การพัฒนาแนวคิด
เมื่อเรารู้ถึงข้อมูลปัญหาที่ชัดเจน ตลอดจนวิเคราะห์อย่างรอบด้านแล้ว ให้นำเอาข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์มาพิจารณาและพัฒนาแนวคิดในการแก้ปัญหา
3.การสร้างแนวทางการแก้ปัญหา
หลังจากได้แนวคิดในการแก้ปัญหา กระบวนการถัดไปคือการนำแนวคิดนั้นมาสร้างให้เป็นจริงโดยอาจสร้างเป็นต้นแบบ (prototype) และนำไปทดสอบกับผู้ใช้เพื่อรับข้อมูลย้อนกลับ หรือนำไปทดสอบในสถานการณ์จริงและเก็บข้อมูลผลการทดสอบ
1.การระบุและตีความปัญหา
ขั้นแรกต้องทำความเข้าใจกับปัญหาให้ถ่องแท้ในทุกมุมมองเสียก่อน ตลอดจนเข้าใจผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย หรือเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการแก้ไขนี้เพื่อหาหนทางที่เหมาะสมและดีที่สุดให้ได้ การเข้าใจคำถามอาจเริ่มตั้งด้วยการตั้งคำถาม สร้างสมมติฐาน กระตุ้นให้เกิดการใช้ความคิดที่นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ดีได้ ตลอดจนวิเคราะห์ปัญหาให้ถ้วนถี่ เพื่อหาแนวทางที่ชัดเจนให้ได้ การเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้งถูกต้องนั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงประเด็นและได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
โครงงานกับการแก้ปัญหา
2.ระยะพัฒนาโครงงาน
3.ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
4.วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา
2.รวบรวมข้อมูลและแนวคิด
5.ทดสอบ ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
1.ระบุปัญหา
ระยะนำเสนอโครงงาน
การนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
1.ระยะเริ่มต้นโครงงาน
สำรวจสถานะการณ์
ความรู้กับการแก้ปัญหา
1.ความรู้พื้นฐาน
เป็นความคุ้นเคย ความตระหนักหรือความเข้าใจในเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งอื่น เช่น ข้อเท็จจริง (ความรู้ประพจน์) ทักษะ (ความรู้กระบวนการ) หรือวัตถุ (ความรู้โดยประจักษ์) วิธีหาความรู้มีหลายวิธีและมีแหล่งที่มาต่าง ๆ เช่น ประสบการณ์ การศึกษา เหตุผล ความทรงจำ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ การสำรวจและการฝึกฝน เป็นต้น
2.ความรู้และทักษะในการปฎิบัติงาน
ความรู้เกี่ยวกับข้อบังคับต่าง ๆ ทางกฎหมาย รวมถึงแนวปฎิบัติ คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณในการปฎิบัติงาน และทักษะที่จำเป็นที่จำเป็น เช่น การสื่อสาร การคิดเชิงระบบ
การสร้างประโยชน์
การเพิ่มมูลค่า
สิ่งต่างๆที่ผู้ผลิตใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างและพัฒนาขึ้นทำให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มทางด้านราคาและมูลค่าทางการตลาดซึ่งหมายถึงการรับรู้ถึงคุณค่าทางจิตใจของผู้บริโภค
การสร้างมูลค่า
เป็นการสร้างคุณค่าให้ผลงาน ซึ่งเน้นการตอบสนองต่อความต้องการต่อผู้บริโภคทั้งที่เป็นวัตถุสิ่งของและทางด้านอารมณ์ความรู้สึกกว่าการเพิ่มมูลค่า
1.การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมหรือการสร้างผลิตพันธ์ใหม่
2.การขยายตลาดหรือการหากลุ่มเป้าหมาย
สิทธิและการคุ้มครองผลงาน
1.ทรัพย์สินทางปัญญาอุตสาหกรรม
(industrial prooerty)
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
ชื่อทางการค้า
แบบผังภูมิวงจรรวม
เครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายรับรอง
เครื่องหมายบริการ
เครื่องหมายร่วม
สิทธิบัตร
การออกแบบผลิตภัณฑ์
อนุสิทธิบัตร
การประดิษฐ์
ความลับทางการค้า
2.ลิขสิทธ์ (Copyrigth)
เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่มอบสิทธิทางกฎหมายที่มอบให้ผู้สร้างสรรค์งานแต่เพียงผู้เดียวในการเผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดัดแปลงงานที่สร้างสรรค์ โดยทั่วไปแล้ว งานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นงานสร้างสรรค์ทางปัญญาทุกรูปแบบ