Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

3.อาการนำและอาการร่วมอื่นๆทางตา, 4.ท่านได้คำตอบที่ต้องการหรือไม่?, 1…

- - - - ใสหรือขาวขุ่นเล็กน้อย
        
        เป็นในตา 2 ข้าง
        
        โรคภูมิแพ้ขึ้นตา(Allergic conjunctivitis)
        
        เป็นในตาข้างเดียว
        
        โรคเยื่อบุตาอักเสบจากไวรัส(viral conjunctivitis)
        
        *ปัจจัยเสี่ยงเช่น อาชีพครูที่มีประวัติสัมผัสเด็กนักเรียนที่มีอาการตาแดงมาก่อน /สถานที่ๆมีคนอยู่รวมกันจำนวนมากเช่น โรงเรียน ค่ายทหาร/มีการติดเชื้อทางเดินหายใจอาจสัมพันธ์กับการติดเชื้อไวรัสซึ่งทำให้เกิดอาการตาแดงจากภาวะเยื่อบุตาอักเสบติดไวรัสได้(viral conjunctivitis)
        (p.6/p.9)
    - - หลังตื่นนอนเป็นก้อนเเข็งๆที่หัวตา
        
        ภาวะตาแห้ง/โรคตาแห้ง(dry eye)
        
        *ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเช่น เพศหญิง/พนักงานออฟฟิศนั่งหน้าจอคอมฯในห้องแอร์/ใช้ยาหยอดตาทีมีสารกันเสียชนิด Benzalkonium chloride/ทานยารักาาอาการภูมิแพ้ (p.6/p.8/p.9)
        
        ภูมิแพ้ที่ตา/ โรคภูมิแพ้ขึ้นตา(Allergic conjunctivitis)
      - ออกมาเยอะตลอดทั้งวัน
        
        ภาวะเยื่อบุตาอักเสบ
    - - ตาข้างเดียว
        
        โรคเยื่อบุตาอักเสบจากแบคทีเรีย (Becterial conjunctivitis)
        
        ออกมาตลอดทั้งวัน
        
        โรคเยื่อบุตาอักเสบจากการติดเชื้อ (Genococcal conjunctivitis)
        
        *ปัจจัยเสี่่ยงเช่น มีประวัติโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/ถ้าคนไข้มาด้วยภาวะเยื่อบุตาแดงเฉียบพลันเเละเป็นข้างเดียว (p.10)
  - - - ควรปรึกษาแพทย์จักษุเพื่อให้ยาลดความดันตาทันที
  - - - *อาชีพที่ต้องอยู่กับคนจำนวนมากเช่น อาชีพครูมาพบแพทย์ด้วยอาการตาแดง หากมีประวัติการสัมผัสเด็กนักเรียนที่มีอาการตาแดงมาก่อน (P.6 อาชีพสามารถบอกความเสี่ยงในการเกิดโรคทางตาได้)
      - *แพ้ยาหยอดตาที่มีสารกันเสียชนิด Benzalkonium chloride (P.8 ประวัติการใช้ยาหยอดหรือยาป้าย)
      - *ประวัติเพศสัมพันธ์เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ Sexual transmitted disease ทำให้เกิดโรคเยื่อบุตาอักเสบจากการติดเชื้อ Gonococcal conjunctivitis (P.10)
  - - - กระดูกเบ้าตาภายในแตก (Blow out fracture) ซึ่งอาจมีภาวะ Limit extra ocular movement
        
        *ในอาชีพช่างตอกตะปู หรือทำงานก่อสร้างที่ทำงานกับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่มีความเร็วสูง หากไม่ได้ใส่แว่นหรือหน้ากากป้องกัน (P.6 อาชีพสามารถบอกความเสี่ยงในการเกิดโรคทางตาได้)
  - - - ภาวะขาดเลือดของเนื้อเยื่อ limbus รอบ cornea (Limbal ischemia)
  - - - Radiation keratitis และ Corneal epithelial abrasion
  - - - ส่วนตาขาวอักเสบ (Scleritis)
      - โรคต้อหินเฉียบพลัน (Acute angle closure glaucoma)
      - ภาวะม่านตาส่วนหน้าอักเสบ (Anterior uveitis)
        
        *ประวัติโรคตาแดงเป็นๆหายๆ อาจสัมพันธ์กับกับภาวะนี้ (P.9)
        
        *ภาวะนี้สัมพันธ์กับ Sarcoidosis, Anklyosing spondylitis, Inflammatory bowel disease, Psoriasis จากประวัติ Autoimmune disease อาจพบอาการทางระบบอื่นร่วมเช่น ผมร่วง ปวดข้อ น้ำหนักลด มีผื่น ปัสสาวะแสบขัด หรือมีไข (P.11)
      - แผลที่กระจกตา (Corneal ulcer)
    - - ภาวะเลือดออกใต้เยื่อบุตา (subconjunctival hemorrhage)
  - - - มองหาภาวะ Corneal ulcer จากเชื้อ Pseudomonas หรือ Acanthamoeba
        
        *ซักถามถึง ชนิดของคอนแทคเลนส์แบบนิ่มหรือแบบแข็ง เป็นแบบรายวัน/เดือน/ปี การใส่นอน การใส่เกินเวลา การทำความสะอาดเช่นใช้น้ำยาล้างหรือใช้น้ำประปาหรือน้ำเกลือ และค่าสายตาที่เปลี่ยนไวกว่าปกติ (P.9 ประวัติการใช้แว่นหรือคอนแทคเลนส์)
  - - - โรคงูสวัด (Herpes zoster ophthalmicus)
      - มีตุ่มน้ำใสใบหน้า ลามมาที่ปลายจมูก มีแขนงมายังตาด้วย
        
        อาจมีการติดเชื้อไวรัสบริเวณกระจกตาร่วมด้วย
  - - - สัมพันธ์กับการขยี้ตา การไอ เบ่ง จามแรงๆ โดยผู้ป่วยที่มีภาวะ poor-control Hypertension หรือได้รับยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยง
- - - - ไม่เคือง
        
        ปวด
        
        น้ำตาไม่ไหล
        
        อาการปวดตามาก(Deep pain)
        
        ปวดบริเวณหัวคิ้วทั้งสองข้างหรือปวดเมื่อยล้ากระบอกตา(Asthenopia)
        
        ใส่แว่นไม่ตรงกับค่าสายตา
        
        1 more item...
        
        เพ่งมองใกล้เพื่อ Compensate ภาวะ refractive error
        
        1 more item...
        
        ปวดบริเวณขมับด้านใดด้านหนึ่งแบบตุ๊บๆเป็นพักๆร่วมกับมองเห็นเเสงหรือเส้นสีในตาข้างเดียวกัน
        
        Migraine aura
        
        บริเวณขมับช้างใดข้างหนึ่ง(Temporal pain)ร่วมกับอาการตามัวลงข้างเดียวกันเเละมีอาการปวดกราม(่jow claudication)
        
        หลอดเลือดแดงอักเสบ Giant cell arteritis (temporal arteritis)
        
        อาการปวดสัมพันธ์กับการกรอกตา
        
        Ocular Myasthenia gravis (กล้ามเนื้ออ่อนเเรงชนิดMyasthenia gravis)
        
        *อาจสัมพันธ์กับภาวะ ต้อหินเฉียบพลัน (Acute angle closure glaucoma) (p.12)
        
        ควรปรึกษาแพทย์จักษุเพื่อให้ยาลดความดันตาทันที (p.12)
        
        น้ำตาไหล
        
        ไม่ปวด
        
        อาการกระพริบตาถี่หรือขยิบตา(Blinking)
        
        เกิดจากพฤติกรรมของคนไข้เอง เช่น
        
        Facial tics หรือ สาเหตุจากอาการทางจิต(Psychogenic cause)
      - เคือง
        
        ไม่ปวด
        
        น้ำตาไหล
        
        ขนตาม้วนเข้าใน(Entropion)
        
        ภาวะขนตาเก(Trichiasis)
        
        ภาวะที่มีการสร้างน้ำตามากเกินไป (Tearing, Lacrimation)
        
        น้ำตาไม่ไหล
        
        ปวด
        
        น้ำตาไหล
        
        ถ้าใช้ยาหยอดตาทีมีสารกันเสียชนิด Benzalkonium chloride
        
        มีสิ่งแปลกปลอมในตา(Foreign body)
        
        ท่อระบายน้ำตาอุดตัน (Nasolacrimal duct obstruction)
        
        ขนตาม้วนเข้าใน(Entropion) *อาการรุนแรง
        
        ภาวะกระจกตาบวม(Corneal edema)
        
        ภาวะกระจกตาเป็นแผล(Keratitis)
        
        น้ำตาไม่ไหล
    - - เคือง
        
        ปวด
        
        เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิเเพ้(Allergic conjunctivitis)
        
        *มีอาการคัน+มีภาวะเยื่อบุตาแดงๆเป็นๆหายๆมาก่อน (p.7)
        
        แผลถลอกบริเวณกระจกตา(corneal abrasion)
        
        โรคตาแห้ง(dry eye)
        
        *ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเช่น เพศหญิง/พนักงานออฟฟิศนั่งหน้าจอคอมฯในห้องแอร์/ใช้ยาหยอดตาทีมีสารกันเสียชนิด Benzalkonium chloride/ทานยารักษาอาการภูมิแพ้ (p.6/p.8/p.9)
        
        เเพ้เเสง
        
        โรคช่องหน้าลูกตาอักเสบ(Uveitis) ตามัว
        
        Facial tics หรือ สาเหตุจากอาการทางจิต(Psychogenic cause)
        
        ไม่ปวด
        
        ขอบเปลือกตาอักเสบ(Blepharitis)
      - ไม่เคือง
        
        ไม่ปวด
        
        ปวด
- - - - ภาวะขอบเปลือกตาอักเสบ (Blepharitis)
        
        สัมพันธ์กับโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Acne Rosacea) และ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis)
    - - ติดเชื้อเป็นก้อนหนองหรือกุ้งยิง (Hordeolum)
    - - ตากุ้งยิง (Chalazion)
    - - ภาวะ Preseptal cellulitis
      - มีภาวะตามัว ปวดและกรอกตาไม่ได้ตามปกติร่วมด้วย
        
        โรคเนื้อเยื่อในเบ้าตาอักเสบ (Orbital cellulitis)
        
        ควรได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียการมองเห็นถาวร
    - - มีอาการคันร่วมด้วย
        
        ภาวะภูมิแพ้ (Allergy)
      - ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน (Myxedema)
  - - - ภาวะเนื้องอกในเบ้าตา (Tumor)
      - ภาวะติดเชื้อบริเวณเบ้าตา (Orbital cellulitis)
      - ความผิดปกติของการทำงานของต่อมไทรอยด์ Thyroid dysfunction (Inflammation)
  - - - กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Myasthenia gravis)
    - - หนังตาตก (Mechanical ptosis)
    - - กล้ามเนื้อเปิดเปลือกตาฉีกขาด (Levator dehiscence)
  - - - ปวด บวม แดง ร้อน (หาเพิ่ม)
- - - - ค่อย ๆ มัวลง
        
        มัวทั่วไป
        
        ไม่มีอาการปวด
        
        มองระยะใดไม่ชัด
        
        มองใกล้ไม่ชัด
        
        สายตายาว
        
        1 more item...
        
        มองไกลไม่ชัด
        
        สายตาสั้น
        
        1 more item...
        
        โรคต้อกระจก (Cataract)
        
        *ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อกระจก เช่น การสูบบุหรี่ P.11)
        
        ภาวะเบาหวานขึ้นตา (Diabetic retinopathy)
        
        กระจกตาขุ่น (Corneal opacity)
        
        ภาวะตาแห้ง (Dry eye)
        
        *ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดโรค เช่น เพศ พบในเพศหญิงมากกว่า/อาชีพ พนักงาน office (P.6) /ประวัติการใช้ยาหยอด (P.8) /ยาภูมิแพ้ (P.9)
        
        มีอาการปวด
        
        มัวบางส่วน
        
        ไม่ปวด
        
        โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
        
        1 more item...
        
        โรคของจุดรับภาพหลัก (Macular disease)
        
        โรคจอประสาทตาหลุดลอก (Retinal detachment)
        
        โรคเส้นเลือดในจอประสาทตาอุดตัน
        (Branch artery/vein occlusion)
        
        ปวด
      - มัวเฉียบพลัน
        
        มัวทั่วๆไป
        
        มีอาการปวด
        
        โรคต้อหินเฉียบพลัน
        
        *ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดโรค เช่น ประวัติครอบครัว (P.12)
        
        โรคเส้นประสาทตาอักเสบ (Optic neuritis)
        
        *ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น ประวัติการดื่มสุรา (P.11)
        
        โรคเส้นประสาทตาขาดเลือด (Ischemic optic neuropathy)
        
        โรคม่านตาอักเสบ
        
        ไม่มีอาการปวด
        
        โรคหลอดเลือดแดงในจอประสาทอุดตัน (Retinal artery/vein occlusion)
        
        *ปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น ยาคุมกำเนิด (P.9)
        
        มองเห็นมืดลงเป็นพักๆ(Amaurosis fugax) (Transint visual loss)
        
        โรคทางหลอดเลือดตามตำแหน่งต่างๆ
        
        อายุน้อย
        
        1 more item...
        
        สูงอายุ
        
        1 more item...
        
        มัวบางส่วน
        
        มีอาการปวด
        
        ไม่มีอาการปวด
- - - - ไม่เห็นจุดดำ
        
        ไม่เห็นฟ้าแลบ
        
        มองเห็นไม่ชัดเวลากลางคืนหรือตาบอดกลางคืน(Night blindness,Nyctolopia)
        
        เกิดจากโรคของจอประสาทตา
        
        ได้แก่
        
        Hereditary optic atrophy
        
        โรคขาดวิตามินเอ หรือ เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (vitamin A deficiency)
        
        โรคตาบอดตอนกลางคืน (Ratinitis pigmentosa)
        
        *ควรซักประวัติถึงคนในครอบครัวว่ามีอการทางตาแบบเดียวกับผู้ป่วยหรือไม่?(p.11)
        
        เห็นแสงไฟคล้ายเเสงฟ้าเเลบในตาโดยเฉพาะเวลากลางคืน (Flashing)
        
        *มักจะเห็นที่หางตาข้างใดข้างหนึ่ง
        
        ภาวะวุ้นตา (Vitreous) ดึงรั้งจอประสาทตา (Retina)
        
        เป็นอาการเริ่มต้น
        
        โรคจอประสาทตาหลุดลอก (Retinal detachment)
        
        *ปัจจัยเสี่ยงเช่น คนไข้ที่สายตาสั้น (p.7)
        
        โรคจอประสาทตาฉีกขาด (Retinal break)
      - เห็นจุดดำหรือเส้นดำหยากไย่ลอยไปมา(Floater)
        
        ภาวะเลือดออกในวุ้นตา (Vitreous degeneration)
        
        ภาวะวุ้นตาเสื่อม (Vitreous hemorrhage)
    - - จุดรับภาพหลักผิดปกติ (Macular disease)
  - - - กล้ามเนื้อตามีความผิดปกติ
        
        *ประวัติอุบัติเหตุทางตา โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
    - - ต้อกระจก(Cataract), Central corneal scar, Lens tilt or subluxation (เกิดจากความขุ่นของ Ocular media)
        
        ภาวะสายตาเอียง (Astigmatism) (เกิดจาก Uncorrected refractive error)
        
        พยาธิสภาพชนิดเป็นก้อน (Space-occupying lesion) ซึ่งจะพบภาวะตาโปน (Proptosis) ร่วมด้วย (เกิดจากกล้ามเนื้อตามีความผิดปกติ)
        
        Intermittent diplopia (เกิดจากโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง Myasthenia gravis)