Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หลักการพื้นฐานของการพยาบาลจิตเวช, สมาชิก, 1.น.ส.ประภัสสร สำเภาทอง …
หลักการพื้นฐานของการพยาบาลจิตเวช
หลักการพื้นฐานของการพยาบาลจิตเวช
คุณลักษณะของพยาบาลจิตเวช
มีความรู้
ทฤษฎีทางจิตเวช การพยาบาลจิตวิทยา สังคมวิทยาปัญหาสังคม
เพื่อช่วยเหลือผู้รับบริการได้อย่างถูกต้อง
ยอมรับ
พฤติกรรมของผู้รับบริการ
และหาแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้น
มีความสม่ำเสมอ
ในการกระทำและคำพูด
เป็นที่ไว้วางใจสำหรับผู้รับบริการ
และยินดีช่วยเหลือ จริงใจ
มีความเป็นอิสระ
เชื่อถือในตนเอง
มีความอดทน
เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
เจตคติต่อการเจ็บป่วย
1) ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจ
2) มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเอง
3) มนุษย์ทุกคนต้องการความช่วยเหลือประคับประคองด้านจิตใจ
4) มนุษย์ทุกคนมีความต้องการทั้งด้านร่างกายและอารมณ์ที่อยู่อาศัย
5) การสื่อสารเป็นการแลกเปลี่ยนในสังคม
6) การรับรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงเป็นลักษณะเฉพาะตัว
7) การสำนึกระมัดระวังตนเอง (Self-awareness)
8) อัตมโนทัศน์เกิดจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงในสังคม
9) ความคิด ความรู้สึก อารมณ์และปฏิกิริยาก่อให้เกิดพฤติกรรม ความเข้าใจ
10) พฤติกรรมทุกอย่างมีความหมาย
11) พฤติกรรมไม่คงที่
12) ความเครียดอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกและความ จำเป็นอื่นๆ
13) บุคคลมีความสามารถในการเผชิญ (Coping) กับความเครียดที่แตกต่างกัน
14) การเจ็บป่วยเป็นการเรียนรู้ชนิดหนึ่ง
15) ความสนใจและแนวถนัดตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล
16) การเจริญเติบโตของมนุษย์และพัฒนาการทางบุคลิกภาพ
17) มโนทัศน์เกี่ยวกับความเจ็บป่วยอาจมาจากวัฒนธรรม สังคม ครอบครัว ความคิด และความเชื่อของแต่ละบุคคล
18) ความเจ็บป่วยอาจทำให้การทำหน้าที่ของชีวิตผันแปรหรือต้องพึ่งพาผู้อื่น
19) การฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นหัวใจของการบำบัด
20) การฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นอิทธิพลจากความร่วมมือของผู้ป่วยและครอบครัว
หลักการพยาบาลจิตเวช
Patient need to be accepted exactly as they are:
ผู้ป่วยต้องการการ ยอมรับในสภาพที่เขาเป็นอยู่
การรับรู้และยอมรับในพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นด้าน
การกระทำ หรือคำพูด ความคิด และยอมรับว่าผู้ป่วยเป็นบุคคลหนึ่ง มีความรู้สึกนึกคิด มีศักดิ์ศรี
Self-understanding is uses as a therapeutic tools: ความเข้าใจตนเอง เป็นเครื่องมือในการรักษา
การเข้าใจ และรับรู้ในการกระทำความคิด และอารมณ์ของ ตนเอง
Consistency can be used to contribute to the patient security: ความสม่ำเสมอจะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางจิตใจ
การปฏิบัติตนอย่างเสมอต้นเสมอปลายใน สถานการณ์ต่างๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกอบอุ่น มั่นคง เกิดความรู้สึกไว้วางใจ และความเชื่อถือในตัวพยาบาล
Reassurance must be given in a suitable and in an acceptable manner: การให้กำลังใจควรทำอย่างเหมาะสมในท่าทีที่ยอมรับผู้ป่วย
การให้กำลังใจผู้ป่วยเป็นสิ่ง สำคัญที่สุดพยาบาลต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย มีไหวพริบที่จะให้กำลังใจในเวลาที่เหมาะสมถูก จังหวะความต้องการของผู้ป่วย ต้องเป็นความจริง และไม่ให้กำลังใจมากไปเพราะจะทำให้หมดคุณค่า
Change in patient behavior through emotional experience not by rational interpretation: พฤติกรรมของผู้ป่วยจะเปลี่ยนได้เมื่อผู้ป่วยมีประสบการณ์ทางอารมณ์แต่ จะไม่เปลี่ยนด้วยการให้เหตุผล
ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดจากการได้พบเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองมาก่อน ส่วนการให้เหตุผล (Rational interpretation) หมายถึง การอธิบายโดยใช้เหตุผลเพื่อให้บุคคลเปลี่ยนความคิด ท่าที และพฤติกรรม ต่างๆ
Avoiding increase in patient anxiety: หลีกเลี่ยงการเพิ่มความวิตกกังวล ให้กับผู้ป่วย
ต้องมีความระมัดระวังในการกระทำที่จะไม่ไปสร้างความกระทบกระเทือนใจผู้ป่วยอันจะ เป็นผลทำให้เกิดความวิตกกังวลได้
Observation of mentally ill patient directed toward “Why” of behavior: การสังเกตผู้ป่วยด้วยการใช้คำถามกับตนเองว่า “ทำไม” ผู้ป่วยจึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น
การใช้คำถามว่า “ทำไม” จะช่วยให้ พยาบาลทราบและเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของผู้ป่วย ซึ่งจะเป็นผลให้สามารถปฏิบัติการ
Realistic nurse-patient-relationship: สัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและ ผู้ป่วย
จะต้องมีระยะเวลาเริ่มต้น ระยะของการสร้างสัมพันธภาพ และระยะสิ้นสุดสัมพันธภาพ
Nursing care centered on patient as a person not on control of symptoms: การพยาบาลต้องคำนึงถึงความเป็นบุคคลและปัญหาของผู้ป่วย ไม่ใช่เพื่อการควบคุม อาการของผู้ป่วย
พิจารณาตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยเป็นเฉพาะรายไป และปฏิบัติด้วย ความเหมาะสม
Routines and procedures explained at patients level of understanding: กิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ ควรอธิบายตามระดับความเข้าใจของผู้ป่วย
คำนึงถึงสภาพความพร้อมของผู้ป่วย ใช้ภาษาที่ง่ายๆ ได้ใจความ
ต้องอธิบายบ่อยๆ หรือทบทวน เป็นระยะๆ
Verbal and physical force avoided if possible: หลีกเลี่ยงการใช้ คำพูดหรือกำลังบังคับผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น
Many procedures modified but basic principle unaltered: วิธีการต่างๆ ในการให้การพยาบาลเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมแต่หลักการต้องคงเดิม
4.ระบบการดูแลอย่างต่อเนื่อง
แบ่งเป็น
ขอบเขตของงานสุขภาพจิตและจิตเวชในระบบ
สาธารณสุขของประเทศไทย
คือ
กรมสุขภาพจิตเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบนโยบายและยุทธศาสตร์ สุขภาพ
จิตระดับประเทศ
โดยให้การสนับสนุนทาง
ระบบสาธารณสุข
บริการจิตเวชเฉพาะทางในโรงพยาบาล
บริการสุขภาพจิตไม่เพียงครอบคลุม
การส่งเสริม ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต
การบูรณาการงานสุขภาพจิตเข้าสู่ระบบ
บริการสาธารณสุขแต่ละระดับ มีดังนี้
1) การดูแลสุขภาพด้วยตนเองในระดับครอบครัว
2) บริการสาธารณสุขมูลฐาน
(PrimaryHealth Care Service Level: PHC)
ดำเนินการโดย
ประชาชน
อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
ตัวอย่างเช่น
ให้สุขภาพจิตศึกษา
คัดกรองปัญหา
3) บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
โดยบุคลากรสาธารณสุข เช่น
พนักงานอนามัย
พยาบาล
นักวิชาการสาธารณสุข
โดยบริการ ได้แก่
การให้การปรึกษา
การผสมผสาน
การดูแลสุขภาพจิตในงานอื่น
เช่น
การฝากครรภ์
การติดตามดูแลผู้ป่วยต่อเนื่อง
4) บริการสุขภาพระดับทุติยภูมิ
ดำเนินการโดยโรง
พยาบาลชุมชน
เป็นหน่วยบริการที่ให้บริการ
รักษาผู้ป่วยนอก
วินิจฉัยและรักษาโรค จิตเวชที่พบบ่อย
ติดตามดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง
ช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจในภาวะวิกฤต
5) บริการสุขภาพระดับตติยภูมิ
ให้บริการเฉพาะทางโดยผู้เชี่ยวชาญ
โรงพยาบาลทั่วไป
โรงพยาบาลศูนย์คณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
รงพยาบาล/สถาบันจิตเวช
เครือข่ายและบริการสุขภาพจิตชุมชน
การส่งเสริมสุขภาพจิต และการป้องกันปัญหานั้นดำ
เนินการผ่านทาง
วัด
องค์กรท้องถิ่นต่างๆ
โรงเรียน
เป้าหมาย
ดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชอย่างต่อเนื่องแล้วยังสนับสนุนให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในชุมชนได้
มีการจัดตั้งชมรมญาติและผู้ป่วยจิตเวชเพื่อให้การช่วยเหลือซึ่งกัน
ให้ชุมชนตระหนักถึงปัญหาและ
จัดหาแหล่ง สนับสนุนที่เหมาะสมด้วยตัวเอง
ความร่วมมือของชุมชนเป็นปัจจัยส าคัญแห่งความสำเร็จของขุชน
เป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของการ ดำเนินกิจกรรมสุขภาพจิตชุมชน
ลักษณะการจัดบริการสุขภาพจิตและจิตเวช
แบ่งเป็น
1) บริการผู้ป่วยใน (In-patient services)
ให้บริการผู้ป่วยที่รุนแรง และจำเป็นต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
รักษาด้วยการ
ให้ยา
การทำจิตบำบัดรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
จัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด
2) บริการผู้ป่วยนอก (Out-patient services)
ไม่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
อาจเป็นผู้ป่วยเก่าที่นัดมารับยา
หรือมีปัญหาที่ต้องการคำแนะนำ
ให้การรักษาในระยะสั้น
3) บริการจิตเวชฉุกเฉิน
(Emergency services)
เป็นบริการตรวจรักษา ตลอด 24 ชม. แบบกะทันหัน
ผู้ป่วยที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต ต้องการช่วยเหลือด่วน
เช่น
ผู้ป่วยเอะอะ อาละวาด
ผู้ป่วยพยายามฆ่าตัวตาย
ผู้ติดสารเสพติด
4) บริการผู้ป่วยเฉพาะบางเวลา
(Partial hospitalization services)
เป็นการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นแล้ว
แต่ยังไม่สามารถกลับสู่ครอบครัว/สังคมได้เต็มตัว
จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาบางเวลา ดังนี้
4.1) บริการโรงพยาบาลกลางวัน (Day hospital)
4.2) บริการโรงพยาบาลกลางคืน (Night hospital)
จะช่วย
ลดความรู้สึกสูญเสีย
ส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบไม่พึ่งพิงผู้อื่นมากเกินไป
ช่วยให้เห็นคุณค่าในตนเอง
5) บริการให้คำปรึกษาและการศึกษา
(Consultation and education services)
โดย
จัดฝึกอบรม
ให้คำแนะนำ
เผยแพร่ความรู้ในเรื่องสุขภาพจิต
บริการแบบอื่นๆ
1) บริการสุขภาพจิตเด็ก
2) บริการสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ
3) การตรวจคัดกรอง
4) บริการติดตามผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการจำหน่าย
5) บริการบำบัดรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง
6) บริการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่
7) บริการศึกษาค้นคว้าวิจัยและการประเมินผล
การดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่บ้าน
ลักษณะและขอบเขตงาน 4 มิติ
1) การส่งเสริมสุขภาพจิต (Promotion of Mental Health)
เป็นการป้องกันปัญหา สุขภาพจิตขั้นต้น
(Primary prevention)
โดยมีหลักการว่า
สุขภาพ
จิตดีมีพื้นฐานจากการกำเนิดที่ดี
มีสุขภาพ
สมบูรณ์แข็งแรง
ได้รับความรักความอบอุ่นจาก
มารดา บิดา หรือผู้เลี้ยงดู
2) การป้องกันปัญหาสุขภาพจิตหรือรักษาภาวะ
ทางสุขภาพจิตให้ดี (Prevention or Maintenance
of Mental Health)
ปัญหาสุขภาพจิตเกิดขึ้นได้
กับบุคคลทุกเพศทุกวัย
เพราะช่วง ชีวิตของ
มนุษย์มีทั้งการเจริญเติบโตการพัฒนาการตามวัย
3) การบำบัดรักษา (Therapeutic or Restoration
of Mental Health)
บุคคลที่มี ปัญหาสุขภาพจิต
หากไม่ขจัดให้หมดไป
อาจทำให้เจ็บป่วยเป็น
โรคจิต
โรคประสาทได้
การปฏิบัติการพยาบาล
ต้องให้คำแนะนำช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหา
สุขภาพจิตให้ได้รับการรักษาทันท่วงที
เพื่อไม่ให้สุขภาพจิตเสื่อมหรือ
ลุกลาม
4) การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation of
Mental Health)
ผู้ที่เจ็บป่วยทางจิตใจ จะขาด
ความสนใจตนเองและสิ่งแวดล้อม
การตัดสินใจไม่ดี
ขาดความ
สามารถในการเข้าสังคม
ขาดความคิด
ริเริ่มสร้างสรรค์
รวมทั้งขาดการดูแล
ช่วยเหลือตนเอง
การปฏิบัติการพยาบาล
ฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยทั้งทาง
จิตใจ
ด้านร่างกาย
3.บทบาทพยาบาล
3.1 ระดับพื้นฐาน
1)เป็นผู้จัดสรรสิ่งแวดล้อมเพื่อการศึกษา
คำนึงถึงความสะดวกสบาย ความเป็นสัดส่วน
ความสวยงาม สุขอานมัย
2)เป็นเสมือนตัวแทนของแม่
เช่น หน้าที่การเลี้ยงดูให้ผู้บริการมีความสุขสบาย ได้รับอาหารเพียงพอ
3)เป็นตัวแทนสังคม
ช่วยให้ผู้รับบริการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ กระตุ้นให้กล้าแสดงออกในสังคมได้เหมาะสม
4)เป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำ
รับฟังผู้รับบริการ ให้คำแนะนำช่วยเหลือตามความเหมาะสม
5)พยาบาลเป็นเสมือนครู
สอนกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน
6)ทางการรักษาพยาบาลที่ใช้เทคนิคเฉพาะทางการพยาบาล
มีหน้าที่ในการพยาบาลพื้นฐานทุกประเภท
3.2บทบาทหน้าที่ระดับสูงหรือระดับผู้เชี่ยวชาญ
1)เป็นที่ปรึกษา
ให้คำปรึกษาและแนะแนวแก่บุคคลที่มีปัญหาหรือตกอยู่ในภาวะวิกฤต เพื่อลด ความเครียด
2)เป็นผู้ติดต่อให้ความร่วมมือ
การให้การ พยาบาลท่ัวไป การให้การช่วยยเหลือผู้ที่มีปัญหา สุขภาพจิตในแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาล
3)เป็นผู้บำบัดรักษาเบื้องต้น
มีหน้าที่คัดกรองผู้รับบริการ ให้การบําบัดรักษาเบื้องต้นในชุมชน
4)เป็นผู้นำการบำบัด
•สร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการเชิงการรักษา
การทำจิตบำบัดประคับประคอง
เป็นผู้ฟื้นฟูสมรรถภาพ
เป็นผู้ให้ความรู้
เป็นผู้นิเทศงานหรือประสานงาน
•พยาบาลจิตเวชต้องดำรงซึ่งสิทธิของผู้ป่วยและคุณภาพของงานบริการจำเป็น
ได่แก่ บทบาทขแงพยาบาล บทบาทผู้ร่วมทีม
สุขภาพจิต และบทบาทของพลเมืองในสังคม
บทบาทอิสระ กึ่งอิสระ และไม่อิสระ
บทบาทอิสระ
งานที่พยาบาลทําได้ โดยตัดสินใจเอง
บทบาทกึ่งอิสระ
งานที่พยาบาล ตัดสินใจภายใต้กรอบของสหวิชาชีพ
เช่น การตัดสินใจให้ยาเมื่อจำเป็น
บทบาทไม่อิสระ
งานที่พยาบาลทํา โดยรับคําสั่งจากวิชาชีพอื่น
เช่น ให้ยาตามแผนการรักษา
สมาชิก
1.น.ส.ประภัสสร สำเภาทอง เลขที่ 45 รหัส62111301047
3.น.ส.มานิตตา แสงจันทร์ เลขที่ 69 รหัส 62111301072
4.น.ส.สุชาดา เปลี่ยนแก้ว เลขที่ 89 รหัส 62111301092
5.น.ส.สุทธิกมล หนองเหล็ก เลขที่ 91 รหัส 62111301094
2.น.ส.ปรียานุช วิเชียรชูตระกูล เลขที่46 รหัส 62111301048