Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วย ที่มีปัญหาระบบผิวหนัง - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วย ที่มีปัญหาระบบผิวหนัง
เนื้อหา
Review Skin
Psoriasis
Bacterial Infection : Cellulitis Fasciitis
Viral Infection : Herpes simplex, Herpes Zoster
Fungal skin infection : Erythema multiform ,Steven Johnson disease Burn
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
เป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของผิวหนังที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
น้ีได้ประมาณร้อยละ 1-2 ของประชากร ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุท่ีแน่ชัด ทราบเพียงว่าเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่
พันธุกรรม
❖ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
❖ปัจจัยกระตุ้นภายนอก
ท้าให้มีผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมีการแบ่งตัวของเซลผิวหนังเร็วผิดปกติ
โรคสะเก็ดเงินไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะทางผิวหนัง แต่อาจพบมีสัมพันธ์กับโรคอื่นๆ ได้แก่ โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน และกลุ่ม metabolic syndrome ได้แก่ โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง และเบาหวาน
))
ชนิดของสะเก็ดเงิน
1.ชนิดผื่นหนา (Plaque psoriasis) เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด รอยโรคเป็นผื่นแดงหนา ขอบเขตชัด ขุยหนาสีขาวหรือสีเงินจึงได้ชื่อว่า”โรคสะเก็ดเงิน” พบบ่อยบริเวณหนังศีรษะ ล้าตัว แขนขา โดยเฉพาะบริเวณ ข้อศอก และหัวเข่าซึ่งเป็นบริเวณที่มีการเสียดสี
ชนิดผื่นขนาดเล็ก (Guttate psoriasis) รอยโรคเป็นตุ่มแดงเล็กคล้ายหยดน้้าขนาด เล็กไม่เกิน 1 เซนติเมตร มีขุย ผู้ป่วยมักมีอายุน้อยกว่า 30 ปี และอาจมีประวัติการติดเชื้อ ทางเดินหายใจส่วนบนน้นี้มาก่อน
ชนิดตุ่มหนอง (Pustular psoriasis) รอยโรคเป็นตุ่มหนองกระจายบน ผิวหนังที่มีการอักเสบแดง ในรายที่เป็นมากอาจมีไข้ร่วมด้วย
ชนิดผื่นแดงลอกทั่วตัว (Erythrodermic psoriasis) เป็นสะเก็ดเงินชนิด รุนแรง ผิวหนังมีลักษณะแดงและมีขุยลอกเกือบทั่วพื้นที่ผิวทั้งหมดของร่างกาย อาจเกิดจากการขาดยาหรือมีปัจจัยกระตุ้น
5.สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ (Inverse psoriasis) เป็นโรคสะเก็ดเงินที่มีรอยโรคในบริเวณซอกพับของ ร่างกาย ได้แก่ รักแร้ ขาหนีบ และใต้ราวนม เป็นต้น ลักษณะเป็นผื่นแดงเรื้อรังและมักไม่ค่อยมีขุย
6.สะเก็ดเงินบริเวณมือเท้า (Palmoplantar psoriasis) เป็นโรคสะเก็ดเงินบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลักษณะเป็นผื่นแดงขอบเขตชัดเจน ขุยลอก ผื่นอาจพบลามมาบริเวณหลังมือ หลังเท้าได
7.เล็บสะเก็ดเงิน (Psoriatic nails) ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมักพบมีความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย ที่พบ บ่อยได้แก่ เล็บเป็นหลุม, เล็บร่อน, เล็บหนาตัวขึ้นและเล็บผิดรูป
ข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic arthritis) ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินอาจพบมีความผิดปกติการอักเสบ ของข้อร่วมด้วย ซึ่งพบได้ทั้งข้อใหญ่ ข้อเล็ก อาจเป็นข้อเดียว หรือ หลายข้อ ส่วนใหญ่การอักเสบของ มือจะเกิดที่ข้อนิ้วมือซึ่งหากเป็นเรื้อรังและท้าให้เกิดการผิดรูปได
การรักษา
สะเก็ดเงินความรุนแรงน้อย หมายถึง ผื่นน้อยกว่า10% ของพื้นที่ผิว ทั่วร่างกาย (ผื่นขนาดประมาณ 1 ฝ่ามือเท่ากับพื้นที่ประมาณ1%) ให้การรักษา โดยใช้ยาทาเป็นอันดับแรก
สะเก็ดเงินความรุนแรงมากหมายถึง ผื่นมากกว่า10% ของพื้นที่ผิวทั่ว ร่างกาย พิจารณาให้การรักษาโดยใช้ยารับประทานหรือฉายแสงอาทิตย์เทียม หรืออาจใช้ร่วมกันระหว่างยารับประทานหรือฉายแสงอาทิตย์เทียมและยาทา
ยาทาภายนอก มีหลายชนิด ได้แก
1.ยาทาคอติโคสเตียรอยด์ (topical corticosteroids) ส่วนใหญ่นิยมใช้เนื่องจาก เป็นครีมขาวใช้ง่ายและตอบสนองต่อการรกัษาดีแต่หากใช้ยาที่แรงเกินไปร่วมกับ ทาเป็นระยะเวลานานจะท้าให้เกิดผิวหนังบางและเกิดรอยแตกของผวิหนังได้ รวมถึงอาจเกิดการดื้อยาและอาจกดการท้างานของต่อมหมวกไตได
น้้ามันดิน (tar)มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ
ประสิทธิภาพดี แต่น้้ามันดินมีสีน้้าตาล กลิ่นเหม็น เวลาทาอาจท้าให้เปื้อนเสื้อผ้า ผลข้างเคียงคือเกิดรขูุมขนอักเสบหรือระคายเคืองผิวหนังบริเวณที่ทา
แอนทราลิน (anthralin, dithranol) มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง ที่ผิดปกติแต่อาจท้าใหร้ะคายเคืองผิวหนังรวมถึงผิวหนังบริเวณที่ทายามีสีคล้้า ขึ้นได
อนุพันธ์วิตามิน D (calipotriol)มีฤทธิ์ท้าให้การแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังกลับสู่ ปกติข้อเสียของยานี้คือหากทาบริเวณผิวหนังที่บาง อาจมีการระคายเคืองได้ และยามีราคาแพงปัจจุบันมียาทาที่ผสมระหว่างอนุพันธ์วิตามิน D และคอติโคส เตียรอยด์เข้าด้วยกันเพอื่เพิ่มประสิทธิภาพและลดผลข้างเคียง
ยาทากลุ่ม calcineurin inhibitor (tacrolimus,pimecrolimus) เป็นยากลุ่ม ใหม่รักษาผื่นโรคสะเก็ดเงินบริเวณหน้าหรือตามซอกพับเพื่อต้องการหลีกเลี่ยง ผลข้างเคียงจากยาทาคอติโคสเตียรอยดแ์ตย่ังไม่แพร่หลายเนื่องจากยามีราคา แพง
ยารับประทาน พิจารณาให้กรณีสะเก็ดเงินรุนแรงปานกลางถึงมาก ที่ใช้บ่อยในประเทศไทยมี 3 ชนิด
เมทโทเทรกเสท (methotrexate) เป็นยาที่ได้ผลดีกับสะเก็ดเงินเกือบทุกชนิด ออกฤทธิ์ ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลผิวหนังที่ผิดปกติ รวมถึงมีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ผลข้างเคียง
คลื่นไส้ อาเจียน หากรับประทานยาติดต่อกันนานหลายปีจะมีความ เสี่ยงต่อการเกิดตับแข็งได้ แพทย์จึงต้องท้าการตรวจเลือดผู้ป่วยเพื่อดูการท้างานของเม็ดเลือด ตับละไตเป็นระยะ
อาซิเทรติน (acitretin) เป็นยารับประทานในกลุ่ม vitamin A ได้ผลดีมากส้าหรับสะเก็ดเงิน ชนิดตุ่มหนอง
ผลข้างเคียง
ปากแห้งลอก ผิวแห้ง มือเท้าตึงลอก รอบเล็บอักเสบ ระดับ ไขมันในเลือดสูง และอาจท้าให้เกิดตับอักเสบได
ข้อควรระวังส้าหรับผู้ป่วยที่ได้รับยานี้คือ ห้ามตั้งครรภ์เนื่องจากทารกในครรภ์อาจพิการได้ โดยต้องคุมก้าเนิดขณะรับประทานและต้องคุมก้าเนิดต่อไปอีกอย่างน้อย 2 ปีหลังหยุดยา
ไซโคลสปอริน (cyclosporin) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและยับยั้งภูมิคุ้มกันของร่างกาย ประสิทธิภาพในการรักษาดีใช้กรณีสะเก็ดเงินรุนแรงปานกลางถึงมาก
ผลจ้าง
ขนยาว เหงือกบวม เป็นพิษต่อไต และความดันโลหิตสูง ดังนั้นจึงต้อง เจาะเลือดติดตามการท้างานของไตและวัดความดันโลหิตเป็นระยะ
: การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Phototherapy)
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีในการรักษาสะเก็ดเงิน โดยจะใช้รังสีอัลตราไวโอเลต ซึ่งปัจจุบันท่ีใช้
ในการรักษาโรคสะเก็ดเงินมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ รังสีอัลตราไวโอเลต A และรังสี อัลตราไวโอเลต B ซึ่งผู้ป่วยต้องมารับการรักษา 2-3 คร้ังต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน โดยจะให้ผลดีประมาณ 70 - 80% ขึ้นไป พบผลข้างเคียงน้อย ผู้ป่วยบาง รายอาจมีอาการคันและแดงบริเวณผิวหนังที่ฉายแสงหลังท้าการรักษา
ข้อดีคือส่วนใหญ่การกลับเป็นซ้้าของโรคจะน้อยกว่าการรักษาโดยใช้ยาทาหรือยา รับประทาน
ยาฉีดกลุ่มชีวภาพ (Biological agents)
เป็นยาใหม่ที่มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อยู่ในรูปยาฉีดเข้าเส้นหรือเข้าใต้ชั้นไขมัน
ซึ่งยาบางชนิดฉีดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง บางชนิดอาจฉีดห่างกันทุก 3 เดือน
ข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากยาในกลุ่มนี้เป็นยาใหม่ จึงต้องติดตาม ผลข้างเคียงระยะยาว
นอกจากการรักษาข้างต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น การให้ความรู้ผู้ป่วยและญาติมีความส้าคัญ
ไม่น้อยไปกว่ากัน การเข้าใจความจริงที่ว่าสะเก็ดเงินเป็นโรคไม่ติดต่อ ผู้ป่วยจะไม่ถูก
รังเกียจจากคนรอบข้าง ญาติและคนใกล้ชิดควรเข้าใจและให้ก้าลังใจผู้ป่วย และ
เนื่องจากโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยควรดูแลปฏิบัติตนให้ถูกต้องจะช่วยควบคุม
โรคให้สงบได้ ผู้ป่วยควรหลีกเล่ียงปัจจัยกระตุ้นซึ่งได้แก่ ความเครียด การพักผ่อนน้อย
และการดื่มสุรา รวมถึงยาบางชนิดสามารถกระตุ้นให้โรคก้าเริบได้ เช่น ยาลดความดัน โลหิตบางชนิด ยาทางจิตเวช (lithium)
Fasciitis
โรคติดชื้อชี้นผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนังลึกถึงระดับผังผืด เป็นการติดเชื้อในชั้นไขมันผิวหนังลึกถึงระดับชั้นผังผืดหรือกล้ามเนื้อ