Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ใบความรู้หน่วยที่ 4 สถานการณ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน - Coggle…
ใบความรู้หน่วยที่ 4 สถานการณ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
โลกปัจจุบันมีพัฒนาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลที่ตามมาคือ มีความต้องการใช้
พลังงานในกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรม คมนาคม เกษตรกรรม ยิ่งประเทศพัฒนามากก็จะ
ยิ่งมีการบริโภคพลังงานมากขึ้นตามไปด้วยบทเรียนนี้จะกล่าวถึงสถานการณ์การใช้พลังงานทั้งในส่วนที่เป็นพลังงานประเภทสิ้นเปลือง และพลังงานพลังงาน
หมุนเวียนหรือพลังงานทดแทน รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันที่เกิดจากผลกระทบของการใช้พลังงาน
4.2 ปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสถานการณ์พลังงานโลก
4.2.1 การเพิ่มจํานวนประชากรโลก
จากการประมาณการณ์จํานวนประชากรโลกของหน่วยงานบริหารจัดการพันล้านคน ระบุว่าในปี 1999 จํานวนประชากรโลกทั้งหมดมีจํานวน 6 พันล้านคน และ
คาดว่าระหว่างปีปัจจุบันจนถึงปี2050 จะมีจํานวนของประชากรเพิ่มขึ้นประมาณ 2.3 พันล้านคน
4.2.2 ปริมาณการใช้พลังงานในปัจจุบันและความต้องการใช้พลังงานในอนาคต
กระทรวงพลังงาน (ม.ป.ป.) รายงานว่า ประเทศกําลังพัฒนามีการใช้พลังงานมากที่สุด คาดว่าความต้องการเพิ่มขึ้น
ประมาณ 65% สัดส่วนการใช้พลังงานทั้งหมดในระหว่างปีค.ศ. 2004-20302004-2030 จะเพิ่มจาก 46% เป็น 58% ประมาณครึ่งหนึ่ง
ของการเพิ่มขึ้นของความต้องการพลังงานทั้งโลกในปีค.ศ. 2030 มาจากความต้องการใช้พลังงานในการขนส่ง 20%20% ซึ่งส่วน
ใหญ่อยู่ในรูปของปิโตรเลียม (Energy information administration, 2007) การใช้พลังงานมหาศาลในทวีปเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีนและอินเดียเป็นผลมาจากการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3.7% ต่อปีซึ่งสูงกว่า
ประเทศในทวีปอื่นมาก ดังนั้น ในอีก 20 ปีข้างหน้าทวีปเอเชียจะใช้พลังงานมากขึ้นเป็น 2 เท่า
4.2.3 ปริมาณสํารองของแหล่งพลังงานที่มีเหลืออยู่
จากรายงานของ US energy information administration (2014) พบว่าแหล่งน้ํามันส่วนใหญ่อยู่ในตะวันออก
กลางมีประมาณ 803.60 BBL (49%) รองลงมาอเมริกาใต้รวมกับอเมริกากลางที่มีประมาณ328.26 BBL (20%) อเมริกา
เหนือมีประมาณ 219.79 BBL (13%) บริเวณยุโรปรวมกับยูโรเชียมีปริมาณ 131.17 BBL (8%) ส่วนบริเวณที่มีเหลือค่อนข้างน้อยคือ บริเวณแอฟริกามีประมาณ 126.73 BBL (8.0%) และเอเชียแปซิฟิกมีเหลืออยู่เพียง 46.01 BBL (3%)
โดยสรุปทั่วโลกจะยังคงมีแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลเหลือเพียงพอต่อความต้องการ จะมีการค้นพบแหล่งน้ํามันจากแหล่ง
น้ํามันใหม่ๆ เข้ามาเสริมแหล่งน้ํามันที่มีอยู่เดิมนอกจากนั้นโลกยังคงมีแหล่งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินสํารองเป็นจํานวนมาก
และคาดว่าจะพบแหล่งก๊าซใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ภาพรวมแหล่งเชื้อเพลิงสํารองยังคงเหลือเพียงพอต่อความต้องการของโลก
4.3. สถานการณ์พลังงานของแต่ละภูมิภาค
ความต้องการพลังงานของประเทศอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นช้าลง แต่ประเทศกําลังพัฒนาจะมีความต้องการพลังงาน
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะเพิ่มจาก 40% ในปัจจุบัน เป็น 55% ในปีค.ศ. 20302030 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียความต้องการ
พลังงานในแต่ละภูมิภาคมีดังนี้ (คณะผู้แทนไทยประจําประชาคมยุโรป, 2006)
4.2.2 อเมริกาเหนือ จะมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นปีละ 0.7%
4.3.3 เอเชียจะมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นปีละ 3.7%
4.3.4 กลุ่มประเทศลาตินอเมริกามีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นปีละ 2.4%
4.3.1 สหภาพยุโรป จะมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเพียงปีละ 0.4%
4.4 ผลกระทบของพลังงานกับสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงซากดึกดําบรรพ์ทําให้มีการปล่อยก๊าซหลายชนิด ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น
ซัลเฟอร์ไนโตรเจนออกไซด์คาร์บอนมอนอกไซด์ไฮโดรคาร์บอนรวมทั้งสารโลหะหนักต่างๆและที่สําคัญคือปริมาณ
คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุสําคัญของการเกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก (greenhouse effect)effect) พบว่าในระหว่างปี ค.ศ.
1965 – 2013 ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นทุกปีจนถึง 35.1 billion metric tons (BMT)ในปีค.ศ.2013
เมื่อพิจารณาถึงแหล่งที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มประเทศอุตสาหกรรมจะ
มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด และมีแนวโน้มมากขึ้นในขณะที่กลุ่มยุโรปตะวันออก มีปริมาณการปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์ลดลงได้ถึงร้อยละ 40 ในช่วงปีค .ศ .1990-2001 ซึ่งสาเหตุที่สําคัญคือการหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนสําหรับประเทศกําลังพัฒนาในแถบเอเชียโดยเฉพาะประเทศจีน มีแนวโน้มการปล่อยสูงขึ้น เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่
รวดเร็ว มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ทําให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นมหาศาลผลที่ตามมาคือปล่อย
คาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นด้วย
4.4 สถานการณ์การใช้พลังงานในประเทศไทย
4.4.1 ปริมาณการใช้พลังงานและแหล่งพลังงาน
การใช้พลังงานของประเทศไทยเป็นไปในลักษณะเดียวกับการใช้
พลังงานของประเทศต่าง ๆ ในโลก กล่าวคือ พลังงานเชิงพาณิชย์ (commercial energy)ซึ่งพลังงานที่มีการใช้มากที่สุดได้แก่
น้ํามัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า เป็นต้น การผลิตในประเทศไม่เพียงพอจึงต้องนําเข้าจากต่างประเทศเป็นมูลค่าถึง
1,235 พันล้านบาท (40 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
4.4.2 รายงานสถานการณ์การใช้พลังงานของประเทศไทย
(2) โชติชัย สุวรรณาภรณ์(2555) กล่าวว่าแนวโน้มการใช้พลังงานในประเทศไทยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกภาคส่วน
ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่งที่มีสัดส่วนการใช้พลังงานรวมกันสูงถึงกว่าร้อยละ70 และภาคส่วนอื่นๆ รวมกัน
อีกประมาณร้อยละ 30 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายทั้งประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้นําเข้าพลังงานชนิดต่างๆ ทั้งไฟฟ้าถ่านหิน
ก๊าซธรรมชาติ น้ํามันสําเร็จรูป และน้ํามันดิบ เพื่อรองรับการใช้งานภายในประเทศ
(3) ทวารัฐ สูตะบุตร (2558) รายงานว่า ความต้องการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้นในช่วง 8 เดือนแรกของปี
2558 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 2,603 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ํามันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2557 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2557 เท่ากับ 2.4% ทําให้
ยอดการนําเข้าพลังงาน(สุทธิ) เพิ่มขึ้น 8.6% ในขณะที่การผลิตในประเทศลดลง 1.1%
(1) ชัยพร เซียนพาณิชย์ (2011) รายงานว่า ประเทศไทยจําเป็นต้องพึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิล
ทั้งน้ํามันและก๊าซธรรมชาติ การผลิตไฟฟ้าที่ผ่านมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในสัดส่วนถึงร้อยละ 72%72% ทําให้ต้อง
พึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเป็นหลัก และจากประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ พม่า (แหล่งยาดานา) และมาเลเซีย(แหล่ง JDA)
ซึ่งแตกต่างจากประเทศต่าง ๆ
จากสถานการณ์พลังงานของไทยจะพบว่าการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเป็นลําดับ ขณะที่พลังงานสํารองมีปริมาณจํากัด ถ้า
พลังงานจากแหล่งเดิมลดลงหรือกําลังหมดไป พลังงานในอนาคตจะมาจากแหล่งใด
4.1 สถานการณ์พลังงานโลก
ในยุคแรก ๆ มนุษย์ใช้พลังงานส่วนใหญ่เพียงเพื่อการดํารงชีพ ต่อมามีการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดจนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ
จนเข้าสู่ยุคปัจจุบันความต้องการพลังงานของโลกยังคง
สูงขึ้นทุกวันสิ่งที่ต้องตระหนักเป็นอย่างยิ่งคือ ผลกระทบด้าน
สิ่งแวดล้อมที่จะเกิดตามมาพลเมืองจึงต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างการใช้พลังงานเพื่อสร้างความเจริญเติบโตทางด้าน
เศรษฐกิจและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจนอย่างชัดเจนด้วย