Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 6 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพที่ผิวหนัง, F3585ED0-F861-4EE8-BBD8…
บทที่ 6 การพยาบาลผู้ป่วยที่มีพยาธิสภาพที่ผิวหนัง
โครงสร้างของผิวหนัง (Structure of skin)
หนังกำพร้า (Epidermis)
หนังแท้ (Dermis)
ผิวหนังชั้นไขมัน (Hypodermis หรือ Subcutis)
หน้าที่
การป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่ง แปลกปลอม การป้องกันแสงอัลตราไวโอเล็ต การรับความรู้สึก การหายของบาดแผล รวมถึงมีผลต่อภาวะ จิตใจ ได้แก่ ด้านภาพลักษณ์ ความงาม
ปัญหาผิวหนัง
ปัญหาที่มีผลต่อสุขภาพผิว หรือโรคผิวหนัง
ปัญหาเกี่ยวกับความสวยงาม
โรคผิวหนัง
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
สาเหตุ
พันธุกรรม
ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
ปัจจัยกระตุ้นภายนอก
ชนิดของสะเก็ดเงิน
ชนิดผื่นหนา (Plaque psoriasis)
ชนิดผื่นขนาดเล็ก (Guttate psoriasis)
ชนิดตุ่มหนอง (Pustular psoriasis)
ชนิดผื่นแดงลอกทั่วตัว (Erythrodermic psoriasis)
สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ (Inverse psoriasis)
สะเก็ดเงินบริเวณมือเท้า (Palmoplantar psoriasis)
เล็บสะเก็ดเงิน (Psoriatic nails)
ข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic arthritis)
การรักษา
ผื่นน้อยกว่า 10% ของพื้นที่ผิวทั่วร่างกาย ใช้ยาทา
ผื่นมากกว่า 10% ของพื้นที่ผิวทั่วร่างกาย ใช้ยารับประทานหรือฉายแสงอาทิตย์เทียม
ยาทาภายนอก
ยาทาคอติโคสเตียรอยด์ (topical corticosteroids) นํ้ามันดิน (tar) แอนทราลิน (anthralin, dithranol) อนุพันธ์วิตามิน D (calipotriol) ยาทากลุ่ม calcineurin inhibitor
ยารับประทาน
เมทโทเทรกเสท (methotrexate) อาซิเทรติน (acitretin) ไซโคลสปอริน (cyclosporin)
การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Phototherapy)
รังสีอัลตราไวโอเลต A และรังสีอัลตราไวโอเลต B
ยาฉีดกลุ่มชีวภาพ (Biological agents)
ฉีดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง บางชนิด อาจฉีดห่างกันทุก 3 เดือน
Cellulitis& Fasciitis
เป็นการอักเสบเฉียบพลันจากการติดเชื้อของผิวหนังในชั้นหนังแท้และในเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง
ปัจจัยเสี่ยง
การมีแผลเกิดใหม่ที่ผิวหนัง
การมีผื่นหรือรอยโรคเดิมที่ผิวหนัง
โรคประจำตัว
มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่อง
มีประวัติการใช้เข็มฉีดยา
อาการ
มีไข้
มีอาการปวดภายใน 1-2 วันแรกที่เริ่มเกิดอาการ และเจ็บเมื่อถูกกดหรือสัมผัสโดนบริเวณนั้น
รู้สึกอุ่นหรือร้อนบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ
เกิดแผล หรือมีผื่นขึ้นบริเวณที่เกิดอาการ และอาจขยายตัวลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
เกิดรอยบุ๋มบริเวณผิวหนัง
ปวดกล้ามเนื้อ
การรักษา
การดูแลเฉพาะท่ี (local care)
การใช้ยาต้านจุลชีพ ควรคํานึงถึงเหตุของจุลชีพก่อเชื้อเป็นสําคัญ
การป้องกัน
ไม่แกะหรือเกาผิวหนัง
หากมีผิวแห้งควรใช้ครีมทาบำรุงผิว
สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บและการเกิดแผลทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ
ผู้ที่มีบาดแผลควรทำความสะอาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกวัน
ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย
Steven Johnson disease
ความผิดปกติของผิวหนังและเยื่อเมือกบุผิวชนิดรุนแรงที่พบได้ไม่บ่อย
อาการ
รู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
เกิดผื่นแดงที่ตรงกลางมีสีเข้มและรอบข้างมีสีจาง
เกิดแผลพุพองตามผิวหนังและเยื่อเมือกบุผิวบริเวณริมฝีปาก ช่องปาก จมูก ตา และอวัยวะเพศ
ผิวหนังชั้นนอกหลุดลอก เผยให้เห็นผิวด้านในที่มีลักษณะคล้ายผิวไหม้
ประเภทยาที่อาจก่อให้เกิดโรค
ยาต้านการติดเชื้อ เช่น เพนิซิลลิน โคไตรม็อกซาโซล
ยาระงับอาการปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน
ยากันชักหรือยารักษาอาการป่วยทางจิต เช่น ฟีโนบาร์บิทัล เฟนิโทอิน เซอร์ทราลีน คาร์บามาซีปีน และอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากอยู่
ในระหว่างเข้ารับการรักษาโรคด้วยวิธีฉายรังสี
ยารักษาโรคเกาต์ เช่น อัลโลพูรินอล เป็นต้น
การรักษา
ประคบเย็นเพื่อช่วยให้ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออกง่ายขึ้น จากนั้นจึงใช้ผ้าพันแผลปลอดเชื้อพันรอบผิวหนังบริเวณที่มีอาการ
ให้น้ำและสารอาหารผ่านทางจมูก ช่องท้อง หรือหลอดเลือด เนื่องจากการสูญเสียผิวหนังส่งผล
ให้ร่างกายสูญเสียน้ำและสารอาหารมากกว่าปกติ
ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นหรือมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทาผิวเป็นประจำ
ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของยาชาหรือยาฆ่าเชื้อ เพื่อช่วยให้กลืนอาหารได้ง่ายขึ้น
ผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติบริเวณดวงตา แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาหยอดตาหรือยาป้ายตา
ใช้ยาแก้ปวดชนิดรุนแรงเพื่อบรรเทาอาการปวดตามร่างกาย
ให้ยาปฏิชีวนะ หากผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
ให้ยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์เพื่อควบคุมอาการอักเสบของผิวหนัง
Fungal Infection
ปัจจัยเสี่ยง
มีภาวะผิวหนังที่สัมผัสกับสิ่งสกปรกที่มีเชื้อราอยู่ และผิวหนังนั้นเปียกชื้น
คนอ้วน เพราะมักมีเหงื่อมาก
คนท้อง เพราะมักมีเหงื่อออกมาก และอยู่ในภาวะร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ
เด็กเล็กและผู้สูงอายุ เพราะร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ
คนที่ชอบกินยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่กินยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรค
ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ
อาการ
ระคายเคือง อาจแสบ เจ็บ
อาจมีลักษณะเหมือนการอักเสบ คือ ปวด/เจ็บ บวม แดง ร้อน
คัน
มีผื่น ซึ่งผื่นจากเชื้อราบางชนิด จะมีลักษณะเฉพาะ
อาจเกิดเป็นแผล โดยเฉพาะเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้อน
รักษา
การให้ยาต้านเชื้อรา
และการรักษาประคับประคองตามอาการ
ป้องกัน
รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
รักษาความสะอาดร่างกาย ไม่ให้มีบริเวณที่ เปียก ชื้น
รักษาความสะอาด มือ และเท้า
รักษาเท้าไม่ให้เปียกชื้น
รักษาความสะอาดเครื่องใช้ ของใช้ส่วนตัว ไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
ไม่คลุกคลีกับผู้ติดเชื้อรา
เมื่อมีเพศสัมพันธ์ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
Herpes simplex
สาเหตุ
สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสและทางเพศสัมพันธ์ เป็นโรคที่พบได้บ่อย บริเวณที่ติดเชื้อเริมจะเป็น ตุ่มน้้าใสเล็กๆ รวมกันเป็นกลุ่ม ตุ่มนี้จะแตกออกภายใน 2-3 วัน
อาการ
ปวดแสบปวดร้อนต่อมาจะมีอาการบวม และอีก 2-3 วัน จะ มีตุ่มน้ำใสเกิดบนฐานสีแดง ตุ่มน้ำแตกออกใน 24 ชั่วโมง และตกสะเก็ด ตุ่มอาจจะรวมเป็น กลุ่มใหญ่ และเป็นแผลท้าให้ปวดมาก แผลจะหายภายใน 2-3 สัปดาห์ ต้าแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ ริมฝีปาก ตา ตัว และก้น
รักษา
ใช้ยารับประทานเพื่อลดความรุนแรง ลดความถี่ และลดระยะเวลาที่เป็น
การท้าแผลในขณะที่โรคยังมีอาการปวดแสบปวดร้อน
โดยใช้น้ำยา Burow's Solution ประคบผื่น
ยาบรรเทาอาการปวด ลดไข้
Herpes มี 2 ชนิด
Herpes Simplex Virus (HSV-1) มักเกิดบริเวณปากและผิวหนังเหนือสะดือขึ้นไป
Herpes Simplex Virus (HSV-2) เชื้อมักเกิดบริเวณอวัยวะเพศ และติดต่อโดยเพศสัมพันธ์
Herpes Zoster
อาการ
โดยทั่วไปอาการปวดจะเกิดขึ้น 4 – 6 วันก่อนที่ผื่นจะปรากฏ
จะเป็นอาการปวดแสบร้อน ชาหรือ รู้สึกปวดเสียวคล้ายหนามแทง
และไวต่อสิ่งกระตุ้น
ผู้ป่วยอาจมีไข้ รู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
การป้องกัน
การสัมผัสตุ่มน้ําหรือแผลของผู้ป่วยงูสวัดอาจทําให้ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน เกิดเป็นโรคสุกใสได้ดังนั้นควร แยกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ้ง ห่ม ผ้าเช็ดตัว ที่นอน ของผู้ป่วยโรคงูสวัดกับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรคอีสุกอีใสมา ก่อน
ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเป็น โรคงูสวัดแบบแพร่กระจายสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทางการหายใจ ดังนั้นควรแยกผู้ป่วย ไม่ใกล้ชิดกับผู้ที่ไม่เคยเป็นโรค เด็กเล็ก และหญิงต้ังครรภ
รักษา
ยาต้านไวรัส
งูสวัดสามารถที่จะลดอาการปวดท่ีเกิดข้ึน ลดการอักเสบ รวมทั้งช่วยลดจําานวนตุ่มน้ําาที่จะเกิดขึ้นถ้าให้ การรักษาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากท่ีเห็นผื่นแดงข้ึน
Acyclovir 800 mg ให้วันละ 5 ครั้งติดต่อกัน เป็นเวลา 7-10 วัน
Valacyclovir 500 mg ครั้งละ 2 เม็ดวันละ 3 คร้ัง เป็นเวลา 7 วัน
Famciclovir 500 mg วันละ 3 คร้ัง ติดต่อกัน 7 วัน
งูสวัดเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกับทำให้ เกิดโรคอีสุกอีใส(Chickenpox) มีชื่อเรียกว่า varicella zoster virus (VZV) ทุกวันน้ียังไม่มีใครอธิบายได้ชัดเจนว่า ทําาไมไวรัสชนิดเดียวทําาให้เกิดโรคที่มีความแตกต่างกันได้ถึง 2 โรค
Erythema multiforme
เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากแพ้ยา หลังจากได้รับยาที่แพ้จะเกิดผื่น
อาการ
ไข้
รู้สึกไม่สบายตัว
คันตามผิวหนัง
ปวดข้อ
มีผื่นขึ้น
ตาแดง
แสบตา น้ำตาไหล
แสบปาก
ลักษณะผื่นแพ้ยา
ผื่นจะมีรูปร่างคล้ายเป้ายิงธนู โดยมีลักษณะรูปร่างกลม เป็นวงสามชั้น ชั้นในสุดจะมีสีแดงเข้มจัดหรือเป็นตุ่มน้ำพอง ชั้นถัดมาจะมีสีซีดจาง และชั้นนอกสุดจะมีสีแดงจางๆ ขนาดประมาณ 2 mm - 2 cm มักพบบริเวณปลายเท้า บริเวณเหนือข้อศอก ข้อต่อต่างๆ และบริเวณใบหน้า ผื่นส่วนมากจะปรากฏขึ้นอย่างทันทีทันใด และอาจจะอยู่นานเป็นสัปดาห์
สาเหตุ
แพ้ยา
Anticonvulsants
Antigouts
NSAIDs
Penicillins
Cephalosporines
Quinolones
Sulfonamides
Analgesics
TNF-α inhibitors
Bronchodilator
CCBs
Other
การรักษา
หยุดยาที่แพ้ หรือรักษาโรคติดเชื้อ
บริเวณที่เป็นตุ่มน้ำให้ทำความสะอาดและทำแผล
รับประทานยาแก้แพ้
ให้ยา steroid