Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวช - Coggle Diagram
ระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวช
หลักการพื้นฐานของพยาบาลจิตเวช
คุณลักษณะของพยาบาลจิตเวช
มีความรู้
เข้าใจเกี่ยวกับทฤษฏีทางจิตเวช
การพยาบาลจิตวิทยา
สังคมวิทยาปัญหาสังคม
ใช้เป็นแนวทางในการช่วยเหลือผู้รับบริการ
ยอมรับ
พฤติกรรมของผู้รับบริการ
หาแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้น
มีความสม่ำเสมอ
การกระทำและคำพูด เป็นที่ไว้วางใจ
มีความจริงใจ
สนใจ เข้าใจ และยินดีช่วยเหลือ
มีความเป็นอิสระและเชื่อถือในตนเอง
เจตคติต่อการเจ็บป่วย
ความคิด ความรู้สึก อารมณ์และปฏิกิริยาก่อให้
เกิดพฤติกรรม ความเข้าใจ
พฤติกรรมทุกอย่างมีความหมาย
แนวคิดนี้ทำให้
พยาบาลได้ช่วยให้ผู้ป่วย ได้รับความช่วยเหลือ ทั้งนี้
ขึ้นอยู่กับความสามารถของพยาบาลในการแปล พฤติกรรมของผู้ป่วย
อัตมโนทัศน์เกิดจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลง
ในสังคม บุคคลจะรู้ว่า ตนเองมีฐานะอะไรในสังคม
อัตมโนทัศน์เกิดจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลง
ในสังคม บุคคลจะรู้ว่า ตนเองมีฐานะอะไรในสังคม
พฤติกรรมไม่คงที่ พฤติกรรมของผู้ป่วยอาจ
เปลี่ยนแปลงในระหว่างที่ เจ็บป่วย
พยาบาลต้องคาด
การณ์ให้ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ต้องให้การช่วยเหลือ รับฟัง อธิบาย ให้ความเชื่อมั่น เพื่อให้ผู้
ป่วยไว้วางใจ
การสำนึกระมัดระวังตนเอง (Self-awareness) ถ้า
เรารู้ว่าเราทำอะไร เพื่ออะไร ก็ทำให้เราเข้าใจ
พฤติกรรมของบุคคลที่เราติดต่อด้วยได้
ต้องระมัดระวังความรู้สึก ของตนเองที่จะมีต่อการ
สร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย
การเจ็บป่วยเป็นการเรียนรู้ชนิดหนึ่ง พยาบาลควรให้ความรู้ผู้ป่วยในเรื่องเจตคติ พฤติกรรมที่ช่วยลดความวิตกกังวล
ท่าทีของพยาบาลควรเป็นสิ่งที่เสริมสร้างความไว้วางใจให้ผู้ป่วย และให้ผู้ป่วยฝึกไว้วางใจผู้อื่น
การรับรู้เกี่ยวกับความเป็นจริงเป็น
ลักษณะเฉพาะตัว เหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นการพูด การเห็น ล้วนเป็นประสบการณ์ ที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของบุคคล
เมื่อมีเหตุการณ์ คล้ายคลึงกันเกิดขึ้น อาจกระตุ้น ให้เกิดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาได้อีก
มนุษย์ทุกคนต้องการความช่วยเหลือ
ประคับประคองด้านจิตใจ
พยาบาลควรมี
เจตคติที่ยอมรับ เข้าใจ ประคับประคอง มีท่าที
นุ่มนวล รับฟังความคิดเห็น ให้กำลังใจ
มนุษย์ทุกคนมีความต้องการทั้งด้านร่างกาย
และอารมณ์ที่อยู่อาศัย ความ อบอุ่น อาหาร เสื้อ
ผ้า การสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อม
ต่างมีผลต่อสุขภาพของบุคคล รวมทั้งความ ต้องการทางด้านอารมณ์ก็มีอิทธิพลต่อสุขภาพของบุคคล
ความสัมพันธ์ระหว่างร่างกายและจิตใจไม่
สามารถแยกออกจากกันได้ สิ่งคุกคามทั้งที่
เป็นความจริงหรือความคิดฝัน ทำให้เกิด ความ
วิตกกังวล
ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ
ชีวเคมีและแสดงออกให้เห็นทางร่างกายได้
การสื่อสารเป็นการแลกเปลี่ยนในสังคม ทั้งการพูด การเขียน การแสดงสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียง
พยาบาลควร
ระมัดระวังในคำพูดและท่าทีที่มีต่อผู้ป่วย
มโนทัศน์เกี่ยวกับความเจ็บป่วยอาจมาจาก
วัฒนธรรม สังคม ครอบครัว ความคิด และความเชื่อของแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย
ความเจ็บป่วยอาจทำให้การทำหน้าที่ของ
ชีวิตผันแปรหรือต้องพึ่งพาผู้อื่น
พยาบาลต้อง
ช่วยประคับประคองด้านอารมณ์ และหาทางช่วยให้ผู้ป่วยมีภาพลักษณ์ (Self-image) ที่ดีและยอมรับข้อจำกัด
ของตัวเอง
ความสนใจและแนวถนัดตามธรรมชาติของ
แต่ละบุคคลเป็นพลังในการพัฒนาบุคลิกภาพ
การสังเกตและการช่วยเหลือ
โดยจัดหากิจกรรม
ให้ผู้ป่วยกระทำตามความถนัดจึงเป็นจุดเริ่มต้น
ของการเรียนรู้ด้านสังคม ทักษะอาชีพ
บุคคลมีความสามารถในการเผชิญ (Coping)
กับความเครียดที่แตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับความ
แข็งแกร่งและกลไกการปรับตัวต่อความเครียด
การเจริญเติบโตของมนุษย์และพัฒนาการ
ทางบุคลิกภาพ
เป็นผลจากกระบวนการที่
ซับซ้อนในประสบการณ์ชีวิตของบุคคล
ความเครียดอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง
ภายในและภายนอกและความจำเป็นอื่นๆ
การฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นอิทธิพลจากความ
ร่วมมือของผู้ป่วยและครอบครัว
การฟื้นฟูสมรรถภาพเป็นหัวใจของการ
บำบัดระยะฟื้นฟู
เป็นระยะสำคัญต่อการบำบัด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับสู่สภาวะที่ดีที่สุดทั้งด้าน ร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
มนุษย์ทุกคนมีคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเอง
พยาบาลต้องเข้าใจและยอมรับ ความมีคุณค่า
ของมนุษย์ทุกคน ช่วยเหลือ และให้ความสนใจอย่างเท่าเทียม
หลักการพยาบาลจิตเวช
1.) Patient need to be accepted exactly as they are
รับรู้และยอมรับในพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นด้านการกระทำ หรือคำพูด ความคิด
กระตุ้นให้ผู้ป่วยได้พูด ระบาย ความรู้สึกไม่สบาย ข้องใจต่างๆ
ใช้พฤติกรรมแสดงการยอมรับ(Non-verbal)
เช่น แสดงออกทางสีหน้า สายตา ทาทีต่างๆ
7)Observation of mentally ill patient directed toward “Why” of behavior
การสังเกตผู้ป่วย
ด้วยการใช้คำถามกับตนเองว่า “ทำไม” ผู้ป่วย
จึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น
พยาบาล
ควรมีลักษณะ 3 ประการ
มีการตื่นตัวและไว (Alertness)
สังเกตอย่างตรงไปตรงมา (Objectivity)
มีการตระหนักรู้ในตนเอง (Awareness)
เพราะทุกๆ พฤติกรรมของ
ผู้ป่วยที่แสดงออกล้วนมีความหมาย
8) Realistic nurse-patient-relationship
สัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและ ผู้ป่วย
ต้องเป็นไปด้วยความจริงใจและถูกต้อง ตามแบบของวิชาชีพ (Professionalrelationship)
คือ จะต้องมีระยะเวลาเริ่มต้น
ระยะของการสร้างสัมพันธภาพและระยะ
สิ้นสุดสัมพันธภาพ
3)Consistency can be used to contribute to the
patient security:
ความสม่ำเสมอจะช่วยให้เกิด
ความมั่นคงทางจิตใจ
การปฏิบัติตนอย่าง
เสมอต้นเสมอปลายใน สถานการณ์ต่างๆ
9)Nursing care centered on patient as a person not on control of symptoms
การพยาบาลต้องคำนึงถึงความเป็นบุคคลและปัญหาของผู้ป่วย ไม่ใช่เพื่อการควบคุม อาการของผู้ป่วย
2.)Self-understanding is uses as a therapeutic tools
เข้าใจและรับรู้ในการกระทำ ความคิด และอารมณ์ตนเอง
เพราะความเข้าใจตนเอง เป็นพื้นฐานส่งเสริมเข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่น
ช่วยในการตอบสนองความต้องการ
ช่วยในการสร้างสัมพัธภาพกับผู้ป่วย
12)Many procedures modified but basic principle unaltered
วิธีการต่างๆ ในการ ให้การพยาบาลเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมแต่หลักการต้องคงเดิม
6) Avoiding increase in patient anxiety
หลีกเลี่ยงการเพิ่มความวิตกกังวลให้กับผู้ป่วย
5) Change in patient behavior through emotional experience not by rational interpretation
ส่วนการให้เหตุผล (Rational
interpretation)
หมายถึง การอธิบายโดยใช้
เหตุผลเพื่อให้บุคคลเปลี่ยนความคิด ท่าที และ
พฤติกรรม ต่างๆ
ประสบการณ์ทาง
อารมณ์ (Emotional experience)
หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดจากการได้พบเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองมาก่อน
พฤติกรรมของผู้ป่วยจะเปลี่ยนได้
เมื่อผู้ป่วยมีประสบการณ์ทางอารมณ์แต่จะไม่
เปลี่ยนด้วยการให้เหตุผล
11)Verbal and physical force avoided if possible
หลีกเลี่ยงการใช้ คำพูดหรือกำลังบังคับผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น
4)Reassurance must be given in a suitable
and in an acceptable manner
การให้กำลังใจผู้ป่วยเป็นสิ่ง
สำคัญที่สุดพยาบาลต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย มีไหวพริบที่จะให้กำลังใจในเวลาที่เหมาะสม ถูกจังหวะความต้องการของผู้ป่วย ต้องเป็นความจริง
การให้กำลังใจควรทำอย่างเหมาะสมในท่าทีที่ยอมรับผู้ป่วย
10)Routines and procedures explained at patients level of understanding
กิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ ควรอธิบายตามระดับความเข้าใจของผู้ป่วย โดยคำนึงถึงสภาพความพร้อม
ของผู้ป่วย ใช้ภาษาที่ง่ายๆ
ลักษณะและขอบเขตงาน4มิติ
1) การส่งเสริมสุขภาพจิต (Promotion of Mental Health)
เป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตขั้นต้น (Primary prevention)
การปฏิบัติการพยาบาล
การให้ความรู้ประชาชนในเรื่องสุขภาพจิต เริ่มตั้งแต่ให้ความรู้และคำแนะนำก่อนสมรสในการมีคู่ครองมี่เหมาะสม โรค ทางพันธุกรรม การให้กำเนิดทารก เป็นต้น
หลักการคือการมีจิตดีมีพื้นฐานจากการกำเนิดที่ดีมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ได้รับความรักที่อบอุ่น จากบิดา มารดา หรือผู้เลื้องดู มีการไว้วางใจผู้อื่น มีการแสดงออกที่เหมาะสม เชื่อมั่นในตนเอง มีความมั่นคงทางจิตใจ ยอมรับตนเอง
2) การป้องกันปัญหาสุขภาพจิตหรือรักษาภาวะทางสุขภาพจิตให้ดี (Prevention or Maintenance of Mental Health)
เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย เพราะช่วงชีวิตของมนุษย์มีการเจริญเติบโตการพัฒนาตามวัย (Growth and development)
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและความรับผิดชอบตามหน้าที่ของบุคคลในสังคม อาจมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ความคับข้องใจ ความเครียด และวิตกกังวล
การปฏิบัติการพยาบาล
ต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคคลได้รักษาระดับของสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ
พยาบาลจะเป็นผู้ให้ความรู้ช่วยเหลือ แนะนำ
3) การบำบัดรักษา (Therapeutic or Restoration of Mental Health)
บุคคลที่มีปัญหาทางสุขภาพจิตหากไม่ขจัดให้หมดออกไปอาจทำให้เจ็บป่วยเป็นโรคจิต โรคประสาทได้
การปฏิบัติการพยาบาล
ต้องให้คำแนะนำช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตหรือผู้ที่เจ็บป่วยทางจิตให้ได้รับการรักษาทันท่วงที เพื่อไม่ให้สุขภาพจิตเสื่อมหรือลุกลาม ซึ่งเป็นการจัดการการป้องกันขั้นที่ 2 (Secondary prevention)
กิจกรรมการพยาบาล
การสร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด
การดูแลทางด้านร่างกาย
การให้ยา
4) การฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation of Mental Health)
ผู้ที่เจ็บป่วยทางจิตใจ จะขาดความสนใจในตนเองและสิ่งแวดล้อม ขาดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การตัดสินใจไม่ดี ขาดความสามารถในการเข้าสังคม รวมทั้งขาดการดูแลช่วยเหลือตนเอง
การปฏิบัติการพยาบาล
ฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งจัดเป็นการป้องกันขั้นที่ 4 (Tertiary Prevention)
โดยจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการรักษา การบำบัดทางความคิด การจัดกลุ่มกิจกรรมบำบัด และการให้การรักษาบำบัดอื่นๆร่วมกัน
บทบาทการพยาบาล
ระดับพื้นฐาน
เป็นผู้จัดสรรสิ่งแวดล้อมเพื่อการรักษา
บุคลากรในทีมพยาบาลทุกคนต้องมีเจคติที่ดีต่อผู้รับบริการ
สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับวัตถุและสภาพความเป็นอยู่ พยาบาลมีหน้าที่ให้คล้ายกับบ้าน โดยคำนึงถึงความสะดวก สบาย ความเป็นสัดส่วน ความสวยงาม และสุขอนามัย
เป็นเสมือนตัวแทนของแม่
เลี้ยงดูให้ผู้บริการมีความสุขสบายได้รับอาหารเพียงพอ
คอยดูแลช่วยเหลือผู้รับบริการจนสามารถช่วยตัวเองได้
คอยดูแลห้ามปรามไม่ให้ผู้รับบริการทะเลาะวิวาทกัน
จำกัด พฤติกรรมผู้รับบริการที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น
ให้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีต่าง ๆ ให้แสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสม
เป็นตัวแทนสังคม
ช่วยให้ผู้รับบริการอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
จัดกิจกรรมให้ผู้รับบริการได้แสดงความสามารถ
ให้ผู้รับบริการได้เคลื่อนไหวเพลิดเพลิน สนุกสนาน
เป็นผู้ให้คำปรึกษาแนะนำ
รับฟังผู้รับบริการ ให้คำแนะนำช่วยเหลือตามความเหมาะสม หรืออาจไม่ต้องให้คำแนะนำก็ได้ เพราะการที่พยาบาลใส่ใจฟังผู้รับบริการรู้สึกมีคุณค่า
เป็นเสมือนครู
สอนกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน สอนการเล่นเกมส์ต่าง ๆ ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ
บอกกล่าวกิจกรรมที่ผู้รับบริการกระทำขณะที่อยู่โรงพยาบาล
แนะนำการอยู่ร่วมกันในหอผู้รับบริการ
ใช้เทคนิคเฉพาะทางการพยาบาล
ช่วยแพทย์ทำการรักษาทางร่างกาย รวมทั้งการสังเกตพฤติกรรมและบันทึกเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารแก่ทีมการรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาพยาบาลถูกต้อง
ระดับสูงหรือระดับผู้เชี่ยวชาญ
เป็นที่ปรึกษา มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง
ให้คำปรึกษาและแนะแนวแก่บุคคลที่มีปัญหาหรือตกอยู่ในภาวะวิกฤต เพื่อลดความเครียด
เป็นผู้ติดต่อให้ความร่วมมือ การให้การพยาบาลทั่วไป
ให้การช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตในแผนกต่าง ๆ ของโรงพยาบาลโดยประเมินพฤติกรรมให้การวินิจฉัยและวางแผนการพยาบาลแก่ผู้รับบริการ
เป็นผู้บำบัดรักษาเบื้องต้น
คัดกรองผู้รับบริการและให้การบำบัดรักษาเบื้องต้นในชุมชนโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลจิตเวช
อาจให้คำปรึกษา ให้จิตบำบัดประคับประคองให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์
เป็นผู้นำการบำบัด
สร้างสัมพันธภาพกับผู้รับบริการเชิงการรักษา
การทำจิตบำบัดประคับประคอง
เป็นผู้ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้รับบริการ
เป็นผู้ให้ความรู้
เป็นผู้นิเทศงานหรือประสานงาน
ดำรงไว้ซึ่งสิทธิของผู้ป่วยและคุณภาพของงานบริการ
อิสระ กึ่งอิสระ และไม่อิสระ
อิสระ
งานที่พยาาบาลทำได้โดยตัดสินใจเอง ทั้งบทบาทพื้นฐานและเชี่ยวชาญ
กึ่งอิสระ
พยาบาลทำเอง ตัดสินใจเอง แต่อยู่ภายใต้แผนการรักษาหรือภายใต้กรอบของสหวิชาชีพ
ไม่อิสระ
พยาบาลทำโดยรับคำสั่งจากวิชาชีพอื่น เช่น ให้ยาตามแผนการรักษา เจาะเลือด หรือทำตามแผนการรักษาทั้งหมด
ระบบการดูแลอย่างต่อเนื่อง
ขอบเขตของงานสุขภาพจิตและจิตเวชในระบบสาธารณสุขของประเทศไทย
กรมสุขภาพจิตเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบนโยบายและยุทธศาสตร์ สุขภาพจิตระดับประเทศ
โดยให้การสนับสนุนทางวิชาการและเทคโนโลยีแก่หน่วยบริการสุขภาพใน ระบบสาธารณสุข ตลอดจนให้บริการจิตเวชเฉพาะทางในโรงพยาบาลหรือสถาบันจิตเวชศาสตร์งาน
บริการสุขภาพจิตไม่เพียงครอบคลุมบริการบ าบัดรักษาฟื้นฟูเท่านั้น ยังรวมถึงการส่งเสริมป้องกัน ปัญหาสุขภาพจิต
โรงพยาบาลจิตเวชและสถาบันจิตเวชศาสตร์ทั้งสิ้น 17 แห่ง
มีโรงพยาบาลและสถาบันจิตเวชที่ให้บริการเฉพาะเด็กและวัยรุ่น 4 แห่ง
การบูรณาการงานสุขภาพจิตเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขแต่ละระดับ
ปฏิบัติได้ดังนี้
1) การดูแลสุขภาพด้วยตนเองในระดับครอบครัว
เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ ดีโดยให้การดูแลรักษาผู้ป่วยจิตเวชอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
2) บริการสาธารณสุขมูลฐาน (Primary Health Care Service Level: PHC)
ให้สุขภาพจิตศึกษา คัดกรองปัญหา สุขภาพจิต
ให้การช่วยเหลือ ประคับประคองด้านจิตใจสนับสนุนให้มีการดูแลผู้ป่วยจิตเวชต่อเนื่องและส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วม ในกิจกรรมสุขภาพจิต
3) บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ(Primary Medical Care Level: PMC)
การคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต การให้การปรึกษา การผสมผสาน การดูแลสุขภาพจิตในงานอื่น เช่น การฝากครรภ์
4) บริการสุขภาพระดับทุติยภูมิ(Secondary Medical Care Level: SMC)
5) บริการสุขภาพระดับตติยภูมิ (Tertiary Medical Care Level: TMC)
เครือข่ายและบริการสุขภาพจิตชุมชน
การส่งเสริมสุขภาพจิต และการป้องกันปัญหานั้นดำเนินการผ่านทางโรงเรียน วัด และองค์กรท้องถิ่นต่างๆ
สนับสนุนให้ผู้ป่วย สามารถด าเนินชีวิตอยู่ในชุมชนได้
ลักษณะการจัดบริการสุขภาพจิตและจิตเวช
2) บริการผู้ป่วยนอก (Out-patient services)
ผู้ป่วยจิตเวชที่ไม่จำเป็นต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
3) บริการจิตเวชฉุกเฉิน (Emergency services)
ผู้ที่มีปัญหาทางจิตที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
ผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน หรือตกอยู่ใน ภาวะวิกฤต
ต้องการการช่วยเหลือโดยด่วน
บริการ 24 ชม
1) บริการผู้ป่วยใน (In-patient services)
ผู้ที่มี ปัญหาทางจิตที่เกิดขึ้นรุนแรงและจำเป็นต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล
4) บริการผู้ป่วยเฉพาะบางเวลา (Partial hospitalization services)
เป็นการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นแล้ว
ยังมีความจำเป็นและความต้องการที่รับการรักษาในโรงพยาบาลเฉพาะบางเวลา
บริการโรงพยาบาลกลางคืน (Night hospital)
บริการโรงพยาบาลกลางวัน (Day hospital)
5) บริการให้คำปรึกษาและการศึกษา (Consultation and education services)
โดยบริการให้การปรึกษา แนะแนว จัดฝึกอบรม เผยแพร่ความรู้แก่บุคลากรในหน่วยงาน ต่างๆ ในชุมชนให้มีความรู้ทางสุขภาพจิตและจิตเวช
บริการแบบอื่นๆ
1) บริการสุขภาพจิตเด็ก (Service of children)
2) บริการสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ (Service of elderly)
3) การตรวจคัดกรอง (Screening)
4) บริการติดตามผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการจำหน่าย (Follow up care for discharge client)
5) บริการบำบัดรักษาโรคพิษสุราเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ได้รับยาและสารเสพติด (Alcohol and drug abuse and dependence service)
6) บริการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ (Training program for health profession)
7) บริการศึกษาค้นคว้าวิจัยและการประเมินผล (Research and evaluation)
การดูแลผู้ป่วยจิตเวชที่บ้าน (Psychiatric home care)