Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Septic semia, UTI, ผลLab + ตรวจพิเศษ, คนไข้ มีไข้ 38 องศาเซลเซียสก่อนมาโรง…

- - - - UA WBC 30-50 cell/HPF
      - Urine culture พบ Escherichia coli(CRE,MDR)
      - ปัสสาวะสีเหลือง ตกตะกอน
      - เคยปัสสาวะกระปิบกระปอยและแสบขัดก่อนใส่ forley
    - - ผู้ป่วยไม่มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
    - - ผลUrine cultureไม่พบเชื้อescherichia coli
      - UA WBC 0-5
      - ปัสสาวะสีเหลืองใส
      - สามารถขับถ่ายปัสสาวะไหลสะดวกและไม่แสบขัด
    - - ดูแลให้สายสวนปัสสาวะจัดตรึงสายไม่ให้พับงอเพื่อให้น้า ปัสสาวะไหลสะดวก
      - ทำความสะอาดสายสวนปัสสาวะทุกคร้ังหลังการขับถ่าย
      - ให้การพยาบาลโดยใช้เทคนิคปลอดเชื้อเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
      - ติดตามผลการตรวจปัสสาวะ เพื่อประเมินการติดเชื้อหลังได้รับยาปฏิชีวนะOmegacin 300 MG. INJ ให้ 300 mg IV drip in 2 hr q 12hr และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา เช่น ท้องเสีย จนทำให้เสีย potaasium จำนวนมาก
      - ประเมิน Vital signs
      - เก็บสิ่งส่งตรวจ Urine culture ตามแผนการรักษา
      - ติดตามดูผล UA WBC
      - REcoed I/O ประเมิน สี การตกตะกอน หรือสิ่งผิดปกติจากurine
      - กระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆดูแลการให้ให้ร่างกายขับปัสสาวะออกมากๆเพื่อ
        เป็นการระบายเอาเชื้อโรคออกจากร่างกายอีกทางหนึ่ง
  - - - Hemo culture พบ Escherichia coli(CRE,MDR)
      - Neutrphill 71.4% (สูงกว่าปกติ) ค่าปกติ 48.2-71.2%
      - ผู้ป่วยเคยมีไข้ 38 องศาเซลเซียส
    - - ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
    - - ผลเจาะHemocultureไม่พบเชื้อescherichia coli
      - Neutrophill อยู่ในค่าปกติ 48.2-71.2%
      - keepอุณหภูมิ 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
    - - ล้างมือก่อนและหลังให้การพยาบาลทุกครั้งเพื่อลดการปนเปื้อนและติดเชื้อในร่างกาย
      - สังเกตุอาการและอาการแสดงของการติดเชื้อ เช่น อ่อนเพลีย
      - ให้ยาปฏิชีวนะ Omegacin 300 MG. INJ ให้ 300 mg IV drip in 2 hr q 12hr จนกว่าจะครบ 14 วัน(วันที่3/2/66)ตามแผนการรักษา และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา เช่น ท้องเสีย จนทำให้เสีย potaasium จำนวนมาก
      - เก็บสิ่งส่งตรวจHemopcultureตามแผนการรักษา
      - ให้การพยาบาลโดยใช้เทคนิคปลอดเชื้อเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
      - ติดตามผลโลหิตวิทยาโดยดูจากเม็ดโลหิตขาว (WBC)
      - ประเมิน Vital signs
  - - - BUN 23.4 mg/dL สูงกว่าปกติ ค่าปกติ 8.9-20.6%
      - Cretinine 1.92 mg/dL สูงกว่าปกติ
      - eGFR ได้ 31.71mL/min/1.73m2 และ Albumin(UA) ได้ผลnegative
    - - ป้องกันภาวะแทรกซ้อนของของเสียคั่งในไต
    - - BUN อยู่ในค่าปกติ8.9-20.6%
      - Cretinine อยู่ในค่าปกติ 0.73-1.18 mg/dL
      - I/O balance
    - - ดูแลให้ได้รับสารอาหาร ลดอาหารเค็มและลดโปรตีน
      - ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการค่า BUN CR eGFr
      - สังเกตอาการของภาวะของเสียคั่งในร่างกาย เช่น
        ปัสสาวะออกน้อย อุณหภูมิสูง ความดันโลหิตสูง
      - วัดและประเมิน vital signs ทุก4ชม.เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
      - Record I/O ทุก8 ชม.เพื่อประเมินการทำงานของไต
  - - - ได้รับยาปฏิชีวนะOmegacin 300 MG. INJ ให้ 300 mg IV drip in 2 hr q 12hr และเฝ้าระวังผลข้างเคียงของยา เช่น ท้องเสีย จนทำให้เสีย potaasium จำนวนมาก
      - Potassium K 3.23 mmol/L (ต่ำกว่าปกติ) ค่าปกติ 3.5-5.1 mmol/L
      - ท้องผูกตั้งแต่อยู่บ้านจนถึงโรงพยาบาล
    - - ค่า Potassium K 3.5-5.1 mmol/L
      - ผู้ป่วยไม่อาการของภาวะhypokalcemia คือ ท้องผูก อ่อนล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรงและหัวใจเต้นผิดปกติ
    - - ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจาก hypokalemia
    - - Record I/O ทุก 8 ชม.เพื่อติดตามการสูญเสียโพแทสเซียม
      - ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับสารอาหารโพแทสเซียมสูง เช่น ส้ม กล้วย
      - วัดและติดตามvital signs
      - ประเมินอาการของภาวะhypokalemia
      - ดูแลให้ได้รับยาPotassium chloride 3 % SOLN 180 MLรับประทานครั้งละ 50 cc ทุก4 ชม.จำนวน 3 ครั้ง ตามแผนการรักษา
      - ติดและประเมินอาการท้องผูก
  - - - Potassium K 3.23 mmol/L (ต่ำกว่าปกติ) ค่าปกติ 3.5-5.1 mmol/L
      - ผู้ป่วยได้รับยาISOSORBIDE 5-MONONITRATE 20 MG TAB
        
        อมใต้ลิ้น 1 เม็ดเมื่อมีอาการ อมซ้ำได้ทุก5-10 นาที ถ้าอมเม็ดที่3แล้วยังไม่ดีใหห้รีบไปพบแพทย์
        
        ตัวยาจะออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปสู่หัวใจง่ายขึ้น
      - ผู้ป่วยได้รับยา Potassium chloride 3 % SOLN 180 ML รับประทานครั้งละ 50 cc ทุก4 ชม.จำนวน 3 ครั้งและเพื่อป้องกันและรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
      - ผู้ป่วยนอนท่าfowler position ตลอดเวลา
      - ผู้ป่วยได้รับยา B-ASIRIN EC 81 MG. TAB ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหาร เช้า เพื่อสลายลิ่มเลือดที่อุดตันในเส้นเลือดแดง
    - - ผู้ป่วยไม่มีอาการเสี่ยงต่อภาวะหัวใจขาดเลือด
    - - Potassium K ค่าปกติ 3.5-5.1 mmol/L
      - ผู้ป่วยนอนราบได้
      - O2 sat 95-100 %
    - - จัดท่านอน fowler position
      - ดูแลให้ได้รับยาPotassium chloride 3 % SOLN 180 ML และPotassium chloride 500 MG TAB ตามแผนการรักษา
      - ติดตามค่า electrolyte (potassium)
      - เฝ้าระวังผลข้างเคียงของยาISOSORBIDE 5-MONONITRATE 20 MG TAB คือหัวใจเต้นเร็วหรือช้าเกินไป
      - วัดและติดตามVital signs
      - keep o2 sat 95-100%
      - ดูแลให้ได้รับยาผู้ป่วยได้รับยา**ISOSORBIDE 5-MONONITRATE 20 MG TAB ,Potassium chloride 3 % SOLN 180 ML, B-ASIRIN EC 81 MG. TAB ตามแผนการรักษา
- - - - โรคต่อมลูกหมากโต(BPH)
      - CA prostate(มะเร็งต่อมลูกหมาก)
      - Sip sx(ผ่าตัดซิฟิลิส) + orchidectomy(ผ่าตัดอัณฑะออก)
    - - ไข้2วันก่อนมา รพ.
    - - 2 วัน ก่นอมารพ.ญาติให้ประวัติว่ามาตรวจตามนัดและให้ยาเคมีบำบัด ตรวจเลือดได้ผลว่าติดเชื้อดื้อยา มีไข้จึงนัด Pt. มาฟังผลวันนี้ แล้วadmit รพ.
  - - - pt. รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ หายใจ room air ไม่เหนื่อย on forley ปัสสาวะสีเหลือง
    - - CA prostate ได้ผ่าตัดorchidectomy ประมาณ1ปีที่แล้ว
      - ช่วยเหลือตนเองได้
- - - - ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - การสวนทวาร สวนสายปัสสาวะ และใช้สายสวนหลอดเลือด
      - ให้ยาเคมีบำบัด
      - ร่างกายอ่อนแอลงเนื่องจากยาเคมีที่ให้ไปกดภูมิ
      - บริเวณเตียงไม่สะอาด มีอุจจาระปนเปื้อนแถวสายน้ำเกลือ
      - ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส หรือพยาธิ
      - ล้างอาหาร เเละอุปกรณ์ไม่สะอาดก่อนรับประทาน
      - Personal hygiene ของคนไข้ไม่สะอาดพอ
      - การทำหัถการต่างๆที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน
    - - Hemo culture:positive
        Escherichia coli(cre,mdr)
      - Gram Stain:Gram negative bacilli
    - - มีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย
    - - การติดเชื้อในกระแสเลือดส่งผลกระทบให้ความดันต่ำลง เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ลดลง รวมถึงอาจมีภาวะลิ่มเลือดขนาดเล็กอุดตันในเส้นเลือดฝอย ทำให้เกิดอวัยวะล้มเหลว
        ภาวะเลือดเป็นกรดที่รุนแรงจากกรดแลกติกในเลือดคั่ง
  - - - ดูแลสุขอนามัยของคนไข้ไม่ดีพอ
      - Personal hygiene ของคนไข้ไม่ดี
      - ทำความสะอาดบริเวณสายสวนไม่ดีพอ
    - - การอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนล่างที่พบบ่อย
      - ปัสสาวะคั่งค้างในกระเพาะปัสสาวะ
        
        แบคทีเรียสะสมเพิ่มมากขึ้น
        
        ความดันเพิ่มมากขึ้น ปัสสาวะจึงดันขึ้นไปยังส่วนบนของ
        ทางเดินปัสสาวะ
        
        มีการอักเสบของทางเดินปัสสาวะส่วนบน คือ กรวยไต
        (pyelonehritis)
    - - เชื้อแกรมลบ E. coli,klebsiella, proteus
      - เชื้อแกรมบวก Staphylococcus
        saprophyticus
    - - การติดเชื้อย้อนกลับขึ้นไปจากท่อปัสสาวะ ส่วนใหญ่มาจาก
        ทวารหนัก
      - เชื้อโรคกระจายตัวมาทางกระแสเลือด ผ่านมากรองที่ไต
    - - ปัสสาวะแสบขัด
      - ปัสสาวะกระปริบกระปอย
    - - กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
      - ท่อปัสสาวะอักเสบ
      - ติดเชื้อซ้ำ
      - ท่อปัสสาวะตีบแคบ
      - เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย