แนวคิดทฤษฏีเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (KM)
KM ModeI: สคส.
โมเดลปลาทู
ทฤษฎีการจัดการความรู้ของมาควอส (Marquardt)
ภูเขาน้ำแข็งแห่งความรู้
SECI model
ทฤษฎีการจัดการความรู้ของปีเตอร์เซงเก้ (Peter M.Senge's)
KM-Process : กพร.
ทฤษฎีการ์วิน (Garvin)
เป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของความรู้ว่าคืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร
ขั้นตอน
ทฤษฎีของกาวินจะเป็นเน้นที่องค์กร
ความหมาย
มีการสร้างและการถ่ายโอนความรู้ตลอดถึงมีการนําไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสะท้อนให้เกิดความรู้และความเข้าใจใหม่ที่ใช้กับองค์กร
กระบวนการจัดการความรู้ 7 กระบวนการ
การทดลองใช้วิธีการใหม่ๆ
การเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนและเรื่องในอดีต
การแก้ปัญหาอย่างมีระบบ
การเรียนรู้จากประสบการณ์และวิธีการที่ดีที่สุดของผู้อื่น
การถ่ายทอดความรู้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การจัดความรู้ให้เป็นระบบ
ประเภท
การสร้างและแสวงหาความรู้
- ส่วนยอด มองเห็นได้ชัดเจน คือความรู้แจ้งชัด
ความหมาย
องค์ประกอบ
มองเห็นถึงความสําคัญของเทคโนโลยีโดยนําเอามาเป็นสื่อกลางในการเรียนร
องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นองค์กรเชิงระบบที่มีการเรียนรู้อย่างเต็มสมรรถนะสั่งสมการเรียนรู้และปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างต่อเนื่องด้วยการแก้ไขจัดการและใช้ความรู้เพื่อความสําเร็จขององค์กร
ความหมาย
การประมวลและกลั่นกรองความรู้
องค์กร (organization)
บุคคล (people)
การเรียนรู้ (learning)
ความรู้ (knowledge)
เทคโนโลยี (technology)
- ส่วนที่จมอยู่ใต้น้ำ ไม่สามารถมองเห็นได้ คือความรู้สึกฝังลึกที่อยู่ในตัวคน
การเข้าถึงความรู้
การบ่งชี้ความรู้
การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้
คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ
ความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผล หรือเชิงทฤษฎี
ความรู้ประสบการณ์ในลักษณะของความชำนาญ หรือความเชี่ยวชาญ ความสามรถเฉพาะบุคคล พรสวรรค์
การเรียนรู้
องค์ประกอบสำคัญ
เป้าหมาย
”เน้นคน” มีการแลกเปลี่ยนจากคนและขยายความรู้ขึ้นไปเรื่อยๆซึ่งมีปฏิสัมพันธ์ผ่านกระบวนการกลุ่มผ่านทางสังคม
เป็นความรู้ที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยากต่อการบริหารจัดการ
เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือให้คนสามารถค้นหา จัดเก็บแลกนำเปลี่ยนความรู้ไปใช้ได้ง่ายและรวดเร็ว
กระบวนการความรู้ เป็นการบริหารจัดการความรู้จากแหล่งความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพื่อให้เกิดการปรับปรุงและสร้างนวัตกรรมขึ้นมา
คน เพราะเป็นแหล่งความรู้
Explicit Knowledge
Tacit Knowledge
ปัญหาของการจัดการความรู้
ถูกบังคับเพราะหวงวิชา และภาษาเป็นอุปสรรคในการถ่ายทอดความรู้ ทำให้องค์กรขาดความสมบูรณ์ ทำให้นักวิชาการต้องหาวิธีแก้ไข เช่น การเล่าเรื่องความสำเร็จ
ส่วนที่ 1 หัว
ส่วนที่ 2 ลำตัว
ส่วนที่ 3 หาง
เป้าหมาย เช่น วิสัยทัศน์
กิจกรรม การแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดและยากที่สุด
คลังความรู้ การจดบันทึก การเก็บกักความรู้ นับว่าเป็นฐานความรู้ขององค์กร
ได้เสนอแนวความคิดของการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ ที่เรียกว่า วินัย 5 ประการ ซึ่งเป็นแนวทาง 5 ประการที่จะผลักดันและสนับสนุนให้เกิดองค์กรแห่งการเรียนรู้
จะเน้นไปที่ คน เพราะ ปีเตอร์เซงเก้ มีความคิดว่าการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้จะต้องเริ่มพัฒนาที่คนก่อน
องค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ วินัย 5 ประการ
- ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษของบุคคล
- แบบแผนทางจิตใจที่มองโลกตามความเป็นจริง
- การมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน
- การเรียนรุ้ร่วมกันเป็นทีม
- การคิดเชิงระบบ
รูปแบบ
เป้าหมายอยู่ที่ งาน คน และองค์กร เป็นเงื่อนไขสำคัญ
2.ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวคชน ZTacit Knowlwdge)
1.ความรู้ที่ชัดจ้ง (Explicit Knowledge)
เป็นความรู้ที่รวบรวม ถ่ายทอดได้ โดยผ่านวิธีการต่างๆ เช่น บันทึกลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือ เอกสาร กฎระเบียบ วิธีการ ปฏิบัติงาน สื่อต่างๆ
มีความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์ หรือสัญชาตญาณ ของแต่ละบุคคล ในการทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้ หรือเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรโดยง่าย
ฐานความรู้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
เช่น การคิดวิเคราะห์ปัญหาเพื่อแก้ไขตามแนวคิดของ Deming Cycle (PDCA) การบริหารจัดการด้วยข้อเท็จจริง (Fact-based Management) และการใช้เครื่องมือทางสถิติในการวิเคราะห์กระบวนการ (Statistical Process Control) เป็นต้น
องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization: LO) คือ องค์กรที่เรียรรู้อยู่ตลอดเวลา เรียนรู้ทั่วองค์กร เรียนรู้ในกิจกรรมทุกอย่างเป็นองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอกเวลา มีความเป็นพลวัตรอยู่ตลอดเวลา
เอกสาร
รบบทีมข้ามสายงาน
ระบบพี่เลี้ยง
เวทีแลกเปลี่ยนความรู้
แยกออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ การทดลองที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และการทดลองใหม่ๆ
ยกคำพูดของนักปราชญ์ชื่อดังคือ George Santayana ที่ว่า ผู้ที่ไม่จำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต มักทำผิดพลาดแบบเดิมอยู่เสมอ มาใช้
ชุมชนแห่งการเรียนรู้
การทดลองอย่างต่อเนื่อง จะมีการทดลองย่อยๆ เพื่อให้เกิดความรู้ใหม่ทีละน้อย
การทดลองใหม่ๆเป็นการทดลองเพื่อพัฒนาความสามารถใหม่ขององค์กร
เช่น ความรู้ที่ได้มาจากการเรียนในห้องเรียน การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ความรู้ที่อยู่ในตำรา เช่น พวกหลักวิชา หรือทฤษฎีทั้งหลายอันได้จากการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ผ่านกระบวนการพิสูจน์ กระบวนการวิจัย จึง เรียกว่า ความรู้ชัดแจ้ง
ได้มาจากการมองออกไปนอกสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย เพื่อให้ได้มุมมองที่แปลกใหม่
กลไกที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเผยแพร่ความคิดได้นั้น รวมถึงการจัดทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร การสื่อสารด้วยคำพูดและภาพประกอบ การเยี่ยมชมสถานที่ การหมุนเวียนงานของบุคลากร การให้ความรู้และจัดโครงการฝึกอบรม และกิจกรรมการสร้างมาตรฐานเดียวกันภายในองค์กร
วิสัยทัศน์(Vision) กลยุทธ์ (Strategy) โครงสร้างองค์การ (Structure) วัฒนธรรมองค์การ (Organization Culture)
ผู้บริหารต้องมีภาวะผู้นำและมี
ทักษะทางด้านการบริหาร พนักงานระดับปฏิบัติต้องมีนิสัยไฝ่รู้ และพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ
เทคโนโลยีสำหรับการบริหารจัดการความรู้(Manage knowledge)
เทคโนโลยีที่ใช้ในการเพิ่มพูนความรู้ (Enhance learning)
ต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบทั้งนี้เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์การ
จำแนกการเรียนรู้ได้ 3-ระดับคือ-ระดับบุคคล-ระดับกลุ่ม-และระดับองค์การ
นางสาววรดา กาวิลเครือ 62104010070
นางสาวศุภาพิชญ์ วิชัยวงษ์ 62104010072
นายชลชลิต สุภานิช 62104010270
นางสาวปาริตา สาพันธ์ 62104010377
นางสาวพิมพ์ชนก ไชยวิเชียร 62104010378
นางสาววราภรณ์ เสนาจันทร์ 62104010381
นางสาวนัจยมีร์ โต๊ะเจ 62104010468
นางสาววิมลสิริ แร่เพ็ชร์ 62104010469
ปิรามิดแห่งความรู้
ที่มา
Yamasaki ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า ความรู้คล้ายปิรามิด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ความรู้แต่ละประเภทจะมีลักษณะแตกต่างกันแต่มีความสัมพันธ์กัน และเรียงจากฐานไปสู้ยอดดังนี้
สารสนเทศ
ภูมิปัญญา
ข้อมูล
ความรู้
ข้อเท็จจริงเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ได้จากการสังเกต โดยยังไม่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์จึงเรียกว่าข้อมูลดิบ
ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการวิเคราะห์แล้วเพื่อนำมาใช้ประโยชน์จะได้นำไปพัฒนางานต่อไป
สารสนเทศที่ผ่านกระบวนการคิดเปรียบเทียบเชื่อมโยงกับความรู้อื่นจนเกิดความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องอื่นได้
การประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน