Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะโลหิตจางร่วมกับการตั้งครรภ์ (Pregnancy with Anemia), นางสาวพุธิตา…
ภาวะโลหิตจางร่วมกับการตั้งครรภ์
(Pregnancy with Anemia)
ความหมายและสาเหตุ
โลหิตจางระหว่างการตั้งครรภ์ ถือเอาที่ระดับ Hb ลดลงต่ำกว่า 10 กรัม/ดล. ปกติ
Physiologic anemia: ภาวะ hemodilution ของการตั้งครรภ์ ไม่ใช่ ภาวะโลหิตจางที่แท้จริง เกิดจากการเพิ่มพลาสมาระหว่างการตั้ง ครรภ์มากกว่าการเพิ่มของเม็ดเลือดแดง และ Hb มักไม่ต่ำกว่า 10 กรัม/ดล.
ผลกระทบของโลหิตจางต่อสตรีตั้งครรภ์
เพิ่มอัตราการตายปริกำเนิด ซึ่งสัมพันธ์กับการความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด และทารกโตช้าในครรภ์ ออกซิเจนต่ำในทารก
เพิ่มการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจล้มเหลวได้ง่ายขึ้น
ซ้ำเติมต่อมารดาโดยตรงเมื่อมีการเสียเลือดจากการคลอดหรือการตั้งครรภ์ ทำให้ช็อค หรือไตล้มเหลวได้ง่าย เป็นต้น
ปัญหาจากสาเหตุของโลหิตจาง เช่น ธาลัสซีเมียมีผลเพิ่มความเสี่ยงต่อการถ่ายทอดไปยังบุตร หรือ SLE มีความเสี่ยงต่อการเกิด PIH เป็นต้น
สาเหตุของโลหิตจางที่พบบ่อยในสตรีตั้งครรภ์ได้แก่
สาเหตุจากการสร้างไม่พอ
การขาดธาตุเหล็ก การเสียเลือดจากพยาธิปากขอ
การขาดโฟเลต
Aplastic anemia และอื่น ๆ
สาเหตุจากการทำลายเม็ดเลือดมาก
Hb H disease
autoimmune hemolytic anemia, beta-thal / Hb E disease
sickle cell anemia
การตกเลือดก่อนคลอดดว้ยสาเหตุต่างๆ
ความต้องการธาตุเหล็กขณะตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์เพิ่มปริมาณเลือดราว 45% เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น 33% (450 มล.)
ต้องการเหล็กสำหรับการสร้างรกและทารก
เตรียมไว้สำหรับการเสียเลือดขณะคลอด (เสียเลือดประมาณ 600 มล. ในการคลอดปกติและประมาณ1,000มล.สำหรับการผ่าตัดทำคลอด)
ความต้องการเหล็กขณะตั้งครรภ์ประมาณ 1 กรัม ใช้สำหรับการสร้างเม็ดเลือด ในมารดา 500 มก. สาหรับรก่และทารก 300 มก. และขับถ่ายออกจากร่างกาย 200 มก.
โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
เป็นโรคโลหิตจางชนิดที่พบบ่อยที่สุดในสตรีตั้งครรภ์ (่เกือบ 80%) เกิดจากการรับประทานธาตุเหล็กไม่เพียงพอ หรือธาตุเหล็กที่สะสมไว้ก่อนตั้งครรภ์มีน้อย หรืออาจเกิดจากการเสียเลือดเรื้อรัง
แบ่งได้ 3 ระยะ
ระยะที่ขาดเหล็กสะสม (depletion of iron stores)
ระยะที่มีการบกพร่องของ erythropoiesis แต่ระดับ Hb ปกติอยู่
ระยะที่มีโลหิตจางชัดเจน
การป้องกัน
สตรีตั้งครรภ์ต้องการธาตุเหล็กที่ดูดซึมแล้วประมาณวันละ 6-7 มก.
เกลือ ferrous sulfate 300 มก. มีธาตุเหล็ก 60 มก.
เกลือ ferrous gluconate 320 มก. มีธาตุเหล็ก 36 มก.
เกลือ fumurate 200 มก. มีธาตุเหล็ก 67 มก.
ธาลัสซีเมีย
เป็นโรคที่มีการสร้าง globin chain ลดลงหรือไม่สร้างเลย ถ่ายทอด แบบ autosomal recessive อาจจะมีความรุนแรงมากจนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตตั้งแต่อย่ในครรภ์ หรือตายตั้งแต่อายุยังน้อยๆ มีชีวิตรอดแตซีดและต้องเติมเลือดบ่อยๆ
คนที่เป็นพาหะจะมีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เมื่อตั้งครรภ์อาจมี ความเสี่ยงต่อการมีลูกเป็นโรค
Alpha-Thalassemia
ปกติ + + / + +
ไม่ซีด ลักษณะแสดงออกปกติ - + / + + : thal-2 trait
ไม่ซีด อาจซีดได้ในภาวะร่างกายอ่อนแอ่ - / + + : thal-1 trait
สร้าง a-globin chain ได้ในปริมาณน้อย - - / - +
สร้าง a-globin chains ไม่ได้เลย ทำให้มีการรวมตัวกันของ r เป็น Hb Bart's (r4) แทนที่จะเป็น Hb F (a2r2) อย่างปกติ - - / - -
Beta-Thalassemia
beta-globin gene อยู่บนตำแหน่งแขนสั้นของโครโมโซมคู่ที่ 11 มีอยู่ 2 ยีน ถ้ามีความผิดปกติ การสร้างb-globin ลดลงทำให้เกิดเป็น b-thalassemia มิวเตชั่นของยีนมีหลากหลายรูปแบบ
b-thal major (cooley's anemia)
เริ่มมีปัญหาการเจริญเติบโต ซีดมาก ตับ ม้ามโตขึ้น
b-thal minor
Hb E
โรค b-thalassemia ในสตรีตั้งครรภ์ที่อาจพบได้บ้าง
การป้องกัน
ให้การศึกษาความรู้เกี่ยวกับธาลัสซีเมียในชุมชน
2.คัดกรองหาผู้เป็นพาหะของยีนธาลัสซีเมีย (heterozygote)
ให้คำปรึกษาด้านพันธุศาสตร์แก่รายที่มีความเสี่ยงต่อการมีบุตรเป็นธาลัสซีเมีย
วินิจฉัยก่อนคลอด และให้ทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ในรายที่ลูกเป็นโรคชนิดรุนแรง
การวินิจฉัยก่อนคลอด
เก็บตัวอย่างเซลล์ทารก ที่กระทำกันคือเจาะน้ำคร่ำตรวจเซลล์ fibroblast หรือตัดชิ้นเนื้อรก (chorionic villi sampling) ตรวจเซลล์ trophoblast
2.เก็บตัวอย่างเลือดจากสายสะดือทารกมาตรวจ ซึ่งส่วนมากนิยมเจาะเลือดสายสะดือ โดยตรงโดยการใช้คลื่นเสียงความถี่สงชี้นำ
ตรวจอัลตราซาวด์ว่าเป็นทารกบวมน้ำหรือไม่ แต่ตรวจได้เฉพาะ Hb Bart
นางสาวพุธิตา พันธุ์เกตุ 63106010100