Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎี หลักการพยาบาลครอบครัวแบบองค์รวม - Coggle Diagram
บทที่ 1 แนวคิด ทฤษฎี
หลักการพยาบาลครอบครัวแบบองค์รวม
ครอบครัว หมายถึง
สรุป ความหมายของ “ครอบครัว”
คือ หน่วยสังคมที่เล็กที่สุด และเป็นสถาบันสังคมที่มีความสำคัญ ที่เป็นการอยู่ร่วมกันของบุคคลตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป มีความสัมพันธ์กันโดยสายเลือด หรือโดยกฎหมาย ซึ่งสมาชิก ในครอบครัวทุกคนมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบซึ่งกันและกัน
ความหมายในเชิง
สหสาขาวิทยาการ
ทางเศรษฐศาสตร์
มองว่าครอบครัวเป็นกลุ่มบุคคลที่ใช้จ่ายเงินจากงบประมาณเดียวกันถึงแม้ จะอาศัยอยู่ต่างที่กัน
ทางสังคมศาสตร์
มองว่าครอบครัวเป็นกลุ่มคนที่อยู่ร่วมเคหะสถานเดียวกัน มีปฏิสัมพันธ์ และสนใจต่อทุกข์สุขซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีความปรารถนาดีต่อกันโดยมีจำเป็นต้องสืบสายโลหิตเดียวกัน
ทางชีวะวิทยา
มองครอบครัวเป็นกลุ่มชนที่มีความผูกพันกันทางสายโลหิต
ทางนิติศาสตร์
หมายถึง ครอบครัวที่ชายหญิงจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง ครอบคลุมถึงบุตรและบุตรบุญธรรม
ความสำคัญของครอบครัว
ครอบครัวมีความสำคัญยิ่งต่ออนาคตของสังคม
ครอบครัวเป็นแหล่งฟูมฟักอนุชนรุ่นหลังดังนั้นครอบครัวที่มีพลังและความสามารถการสร้างสรรค์ มีความสำคัญยิ่งต่ออนาคตโลก
ครอบครัว คือ ตาข่ายแห่งความปลอดภัยทางสังคมที่สำคัญอันหนึ่งสำหรับการปรับปรุงสวัสดิภาพ ของสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว
ครอบครัวเป็นทั้งผู้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและผู้รับผลของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
ครอบครัวเป็นจักรกลของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและเป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงเมื่อมีการ กำหนดนโยบาย และการจัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม
ครอบครัวเป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรที่จะต้องใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ
ครอบครัวสามารถเป็นได้ทั้งสื่อและอุปสรรคในการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา
วัตถุประสงค์ของการสร้างครอบครัว
เพื่อการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์
เพื่อความอยู่รอดของบุคคล โดยครอบครัวมีหน้าที่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานในการดำรงชีวิต
เพื่อการพัฒนาบุคลในด้านต่างๆครอบครัวมีหน้าที่ให้การศึกษาอบรมแก่สมาชิกถ่ายทอดวัฒนธรรม ประเพณีและค่านิยมของสังคมและช่วยให้สมาชิกพัฒนาไปได้อย่างเหมาะสมในด้านต่างๆ
เพื่อวัตถุประสงค์ทางเศรษฐกิจ โดยทำหน้าที่ในการผลิต
รูปแบบของครอบครัวไทย
รูปแบบครอบครัวเดิม
ครอบครัวคู่สามีภรรยา (Nuclear Dyad)
เป็นครอบครัวที่มีคู่สามีภรรยาอยู่ร่วมกันแต่ไม่มีบุตร
ครอบครัวที่มีบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว (Single-parent Family)
เป็นครอบครัวที่ต้อง เลี้ยงลูกตามลำพังทั้งนี้เนื่องจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต หย่า หรือแยกทาง หรือเพราะไม่ได้แต่งงาน
ครอบครัวขยาย (Extended Family)
เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยเครือญาติตั้งแต่ ๓ ชั่วคน ขึ้นไป ที่มีความสัมพันธ์กันโดยการเกิดหรือการแต่งงาน
คนโสดอยู่คนเดียว (Single Adult Living Alone)
เป็นคนโสดที่ไม่ได้แต่งงานและแยกจาก ครอบครัวเดิมอยู่เพียงลำพัง
ครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Family)
เป็นครอบครัวที่คู่สามี-ภรรยาและบุตรอยู่ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกัน
ครอบครัวคู่ชรา (Elderly or middle-aged couple)
เป็นครอบครัวที่เหลือเพียงคู่สามี ภรรยาเท่านั้น บุตรได้แยกออกไปจากครอบครัวหมดแล้ว
ครอบครัวเครือญาติ (Kin network)
เป็นครอบครัวที่สมาชิกที่ยังไม่แต่งงานอยู่ร่วมกัน หรือใน บริเวณไม่ห่างไกลกันและมีการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
รูปแบบครอบครัวที่แตกต่าง
ไปจากรูปแบบครอบครัวเดิม
ครอบครัวคอมมูน (Commune family)
เป็นครอบครัวที่อยู่ร่วมกันหลายๆครอบครัวใน ครัวเรือนเดียวกัน
ครอบครัวที่บิดามารดาไม่ได้สมรส (Unmarried parent(s) and child family)
เป็นครอบครัวที่บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยเหตุใดก็ตาม
คู่อยู่ร่วมกัน (Cohabiting couple)
เป็นการที่ชายหญิงอยู่ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะครองคู่ต่อไปในอนาคต และยังไม่ได้สมรส
คู่รักร่วมเพศ (Homosexual unions)
เป็นบุคคลเพศเดียวกัน อยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา ปัจจุบันมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
รูปแบบครอบครัวตาม
Friedman, Bowen & Jones
ครอบครัวขยาย (Extended Family)
อาจแบ่งเป็น ๒ แบบย่อย คือ เป็นครอบครัวที่คน หลายรุ่นอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เช่นปู่ย่า พ่อแม่ และหลาน หรือเป็นครอบครัวที่ประกอบไปด้วยครอบครัว เดี่ยวของญาติพี่น้องของฝ่ายพ่อ หรือแม่สองครอบครัวขึ้นไปอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน
ครอบครัวบุญธรรม (adoptive Family)
เป็นครอบครัวพ่อแม่รับบุตรมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญ ธรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่แรกเกิด
ครอบครัวเดี่ยว (Nuclear Family)
เป็นครอบครัวที่ประกอบไปด้วยคู่สามี ภรรยา ไม่มีบุตร หรือ คู่บิดา มารดา บุตร อยู่ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกัน
ครอบครัวรับเลี้ยงเด็ก (Foster Family)
สถานรับเลี้ยงเด็กเป็นสวัสดิการทางสังคมของเด็ก
ครอบครัวที่มีบิดา หรือมารดาเลี้ยงเดี่ยว (adoptive Family)
เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วย บุตร และบิดา หรือมารดาที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูบุตรคนเดียว
คนโสดอยู่คนเดียว (Single Adult Living Alone)
เป็นครอบครัวที่คนโสดไม่ได้แต่งงาน แต่ แยกออกจากครอบครัวเดิมมาอยู่คนเดียว
ครอบครัวผสม (Blended Family or Binuclear family)
เป็นครอบครัวที่เกิดขึ้นจากการ หย่าร้างของสองครอบครัวเดี่ยว แล้วสามีหรือภรรยามาแต่งงานใหม่ และมีบุตรแต่ละฝ่ายมาอยู่ด้วยกันทั้งสอง
ครอบครัวที่มีพ่อ หรือ แม่เลี้ยง (Stepparent Family)
อาจเป็นไปได้ทั้งพ่อและแม่หย่าร้าง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหย่าร้างมาแต่งงานใหม่ และมีบุตรอยู่ด้วย
ครอบครัวที่ชายรักชาย หรือ หญิงรักหญิง (Gay and lesbian Family)
เป็นครอบครัวที่อาจ ประกอบด้วยชายกับชาย หญิงกับหญิง อยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา
ลักษณะครอบครัว
ครอบครัวที่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีความผูกพันกันทางกฎหมาย
ครอบครัวที่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีความผูกพันกันทางสายโลหิต
ครอบครัวที่ประกอบด้วยกลุ่มคนที่มีการใช้จ่ายร่วมกันจากเงินงบประมาณเดียวกัน
บทบาทของสถาบันครอบครัว
สร้างสมาชิกใหม่ที่มีคุณภาพ เพื่อสืบต่อ และรับช่วงวงจรชีวิตครอบครัว ทำให้สังคมสามารถดำรงอยู่ได้
อบรมเลี้ยงดูบุตร และดูแลสมาชิกของครอบครัวด้วยความรัก และความอบอุ่นอย่างเหมาะสม ตามพัฒนาการของช่วงวัยต่าง ๆ รวมถึงการดูแลเกื้อกูลและปกป้องคุ้มภัยลูกหลานและญาติพี่น้อง
ส่งเสริมการเรียนรู้ วิถีชีวิต ค่านิยม หลักคิด และระเบียบแบบแผน วิธีปฏิบัติของสังคมรวมทั้ง ถ่ายทอดประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามให้แก่สมาชิกของครอบครัว การดำเนินชีวิตตามหลักศีลธรรมจรรยาที่ดี การ รู้จักพิจารณาว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด
เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวกับครอบครัว และระหว่าง ครอบครัว ชุมชน และสังคมภายนอก
หน้าที่และโครงสร้างของครอบครัว
หน้าที่ด้านความรักความเอาใจใส่
หน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดู
หน้าที่ในการผลิตสมาชิกใหม่
หน้าที่ในการเผชิญปัญหาของครอบครัว
การเผชิญปัญหาภายในครอบครัว
การเผชิญปัญหาภายนอกครอบครัว
หน้าที่ในการจัดการทรัพยากรทางเศรษฐกิจ
หน้าที่ในการจัดหาสิ่งจำเป็นพื้นฐานทางกายภาพสำหรับสมาชิก
ทฤษฎีการพยาบาลครอบครัว
ทฤษฎีระบบครอบครัว
(Family system theory)
ระบบครอบครัวเป็นหน่วยที่มีเป้าหมายชัดเจน ประกอบด้วยระบบย่อยที่เกี่ยวพันกัน และ ปฏิสัมพันธ์กันตลอดเวลา ระบบ ครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของระบบใหญ่ และประกอบด้วยหลายระบบย่อย เช่น ระบบย่อยสามี-ภรรยา พี่-น้อง บิดา-บุตรชาย บิดา-มารดา-บุตร เป็นต้น ระบบย่อยเหล่านี้ยังประกอบด้วยหน่วยย่อยบุคคล และครอบครัวยัง มีปฏิสัมพันธ์กับระบบใหญ่ภายนอก
ทฤษฎีโครงสร้างและหน้าที่
(Structural-functional theory)
เป็นกรอบแนวคิดที่ศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของระบบครอบครัว โดย ปราชญ์ทางด้านสังคมวิทยา จิตวิทยา มานุษยวิทยา และชีววิทยา ระบบทุกระบบเกิดขึ้นและดำรงอยู่โดยมี จุดมุ่งหมายเฉพาะของระบบ และมีลักษณะโครงสร้างของระบบที่แตกต่างกัน ทั้งโครงสร้าง บทบาท หน้าที่ การสื่อสาร อ่านาจ ค่านิยม ประเพณีวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ
ทฤษฎีพัฒนาการของครอบครัว
(Family Development Theory)
ระบบครอบครัวมีการ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ใช่สิ่งที่ตายตัว มีลักษณะที่เป็นพลวัตร (Dynamic) พลวัตร (Dynamic) คือ ชีวิต ครอบครัวมักเริ่มต้นที่การแต่งงานของคู่หญิงและชาย และจะสิ้นสุดลงจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ในช่วงของ การดำาเนินชีวิตครอบครัว ครอบครัวจะมีกิจกรรมตามวิถีชีวิตเป็นระยะ ๆ ซึ่งครอบครัวส่วนใหญ่จะผ่านระยะ ต่าง ๆ ในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่จะมีความแตกต่างกันหากลักษณะโครงสร้างของสมาชิกในครอบครัว | ๆ แตกต่างกันส่วนใหญ่ทฤษฎีครอบครัวพัฒนามาจากครอบครัวเดี่ยว ชนชั้นกลางในสังคมตะวันตก
ทฤษฎีความผูกพัน
ความผูกพันของมารดาที่มีต่อบุตร เริ่มตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ กระบวนการ ความผูกพันพัฒนาอย่างต่อเนื่องกระทั่งคลอดลูก และยังปรากฏต่อเนื่องจนลูกโตแม้เป็นวัยผู้ใหญ่
ทฤษฎีวิกฤต
ภาวะวิกฤตเป็นภาวะสูญเสียความสมดุลทางอารมณ์ เมื่อบุคคลต้องเผชิญปัญหาหรือ สถานการณ์ที่เป็นอันตรายก่อให้เกิดปัญหารุนแรง ที่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สาเหตุ การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การสูญเสียอวัยวะ สิ่งแวดล้อม/ไฟไหม้บ้าน น้ำท่วม (ภัยพิบัติ) ภาวะจิตใจและสังคม/การสูญเสียสมาชิก ครอบครัว การหย่าร้าง การติดคุก ถูกออกจากงาน
ทฤษฎีปฏิสัมพันธ์ในครอบครัว
(Family Interaction Theory)
ประกอบด้วย ๓ แนวคิดพื้นฐาน
คือ
การตอบสนองของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมอื่น เช่น บุคคล ความคิด และสิ่งอื่นในชีวิตประจำวัน
ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
กระบวนการแปลความหมายของแต่ละบุคคล
แนวคิดสำคัญ 6 ประการ
คือ
การตอบสนองที่สอดคล้องกัน (Contingency
การจัดท่า (Positioning)
การพูด (Verbal)
ความไวต่อพฤติกรรมการแสดงออกของทารก (Sensitivity)
การแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึก (Affect)
ความต้องการ ไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ (Engagement/Disengagement)