Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Focus group removable, Characteristics of removable prosthodontics,…
Focus group removable
Threshold
RPD design
Troublesome
-
Conceptual difficulty
ปี 4 ศรันย์ เข้าใจว่าต้องวางแบบนี้แต่มันจะมีรายละเอียดบางจุดที่ไม่ค่อยเก็ท ไม่รู้จะเชื่อมกันตรงไหนดี
ปี 5 ข้าวสาร มันไม่ได้มีสิ่งที่ถูกที่สุด มันจะมีคำตอบที่ถูกเต็มไปหมด ไม่รู้อันไหนถูกกว่ากัน lecture มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ แต่มีสิ่งที่เราไม่รู้เหมือนกันเพราะว่ายังไงเลคก็สอนเราได้ไม่หมด ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองว่าอันไหนมันดีกว่า
จบใหม่ ไกด์ คิดว่า rpd design ยาก เพราะ แต่ละ component ก็มีหน้าที่ของมันแล้วก็ indication ข้อจำกัดของแต่ละตัวที่เราต้องเลือกให้เหมาะกับเคสของเรา แต่ทีนี้พอเราเลือกไปแล้ว อจเค้ามีมุมมองที่มันต่างกัน บางทีมันไม่ใช่ contraindication ที่แบบห้ามเลย แต่ถ้าเป็นอย่างงี้จะดีกว่า อย่างเช่นทำเป็น i bar แต่อจชอบ modified t bar มันก็มาจากปสกของอจด้วยอะไรด้วยที่มาทำให้เค้าบอกว่าอันนี้ดีกว่า (RPD design is threshold, ประสบการณ์ของอาจารย์มีผลต่อการตัดสินใจออกแบบ)
Counterintuitive
ปี 5 ภาค เคสฟันน้อยๆเป็นกระจุก มันยากตรงที่มันขัดกับสิ่งที่เราเรียนมาไงว่า rest direct/indirect retainer ควรจะวาง 4 ตัว หรือ 3 ตัว แล้วมันทำไม่ได้ มันจะขัดในใจแล้วกลัวว่าทำออกมาแล้วมันใช้ได้ไม่ดี
(ปี 6 หนูดี) theory ที่เรียนมาก design อย่างงี้ แต่พอ discuss จากปสก อจ.ไม่เห็นด้วยก็ต้องทำตามนั้นอยู่ดี
How to overcome :
Internal
Revision
-
-
ปี 5 ปาย เวลาแพลนก็แพลนตามเลคเชอร์ที่อ่านมาว่าอันนี้มันน่าจะเข้ากับอันไหนมากที่สุด อย่าง ตะขอ rpd เราก็ไปอ่านเลคเชอร์
-
-
-
Practicing
(ปี 6 แพตตี้) ส่วนตัวเป็นคนมองภาพไม่ค่อยออก สุดท้ายจะเข้าใจเพราะว่าใช้เวลากับตัวเอง คิดตามมากหน่อย อันไหนไม่เข้าใจสุดท้ายจะจบด้วยความจำ
External
Discuss with others
-
-
ปี 5 จี้พลอย ปรึกษาอาจารย์อย่างเดียวเลย เพราะเราไม่ชัวร์ และอาจารย์ดูมีประสบการณ์มากกว่า พอที่จะดูได้ว่าถ้าเจอแบบนี้มาถอนเถอะ หรือเจอแบบนี้มาพอเก็บได้ ส่งต่อได้
ปี 5 เป็ด เราก้จะเชื่อคนที่ปสกเยอะกว่าเราถึงแม้เราไปหาเปเปอร์มาเอง แต่ถ้าเราไปถามคนที่มี
ปสกมากกว่า ก็มีแนวโน้มที่จะฟังคำแนะนำของเค้าแล้วล้มล้างสิ่งที่เราคิดมาตั้งแต่แรก
-
-
Irreversible
(ปี 6 หมาก) "เรียนไปปุ๊บมันก็เข้าใจ ไม่ต้องกลับไปอ่านก็ออกแบบได้"
"การดีไซน์หลักๆมันไม่ต้องอ่าน มันเข้าใจเลย"
-
-
Lecturers
(ปี 6 ภัทร) "อจ.แต่ละท่านสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่วางแผนออกมาไม่เหมือนกัน ก็เลยทำให้ได้ความรู้ในการพูดคุยไม่เท่ากัน"
-
Transformative
-
ปี 5 เป็ด กว่ามันจะเป็นดีไซน์หนึ่งอันมันต้องเริ่มจากตัว rest แล้วก็ตะขอก่อน ก็เลยรู้สึกว่าอันนี้อ่ะสำคัญ
พอคลินิกได้มาเห็นฟันคนไข้ว่ามันต่างกัน มันก็มีล้มมีเอียงต่างๆ มันก็เลยทำให้มันมีดไซน์มากขนาดนี้อ่ะ มันก็เลยใช้เยอะ
ปี 5 ภาคย์ ทำไมถึงเลือกแบบนี้ ทำไมถึงวาดถึงตรงนี้ มันก็สำคัญอยู่ อย่างที่แต้มพูดมาเรื่อง cd คอนดิชั่นในปากคนไข้มันก็ไม่ได้ ideal ดีเทลต่างๆมันปรับได้ ซึ่งเลคเชอร์มันจะทำให้เราเข้าใจหลักการให้ปรับไปใช้ได้
Basic removable
How to overcome
External
-
-
Media
-
ปี 5 ภาคย์ slide อจรูปเยอะ เราก็จะถอดที่เค้าพูดออกมา เราก็จะ cope เข้ามาในหัว แต่ถ้ามี point ตัวหนังสือก็น่าจะสะดวกขึ้น
Social constructivism
(ปี 6 แพตตี้) ถ้าได้อ่านสรุปรุ่นพี่ เวลาข้อมูลที่เรียงเป็น step ในคลินิกจริงๆ รู้สึกเข้าใจมากกว่าย้อนไปค้นเลคเชอร์ทั้งหมด
-
Internal
-
Revision
(ปี 6 หมาก) "ได้มาเรียนซ้ำตอนอจ.กฤช อันนี้พอเห็นภาพมากขึ้น แต่พอมาใช้จริงก็ต้องรื้ออ่านใหม่เหมือนกัน"
Experiencial learning
ปี 5 จี้พลอย เรื่องที่งง ก็เช่น แบบอย่างวาง wax pattern คือเราแค่ทำตาม step ที่อจสอน ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไรในแล็บ แต่พอในคลินิกก็เข้าใจว่ามันต้องไปผ่านขั้นตอนนี้ๆๆ ก็เลยเข้าใจ เพราะได้ทำเอง
ปี 5 แทน ตอนเรียนแรกๆก็ไม่รู้เรื่องเลยครับ คิดไม่ออกว่า torque ยังไง แต่หลังๆเข้าใจแล้วหลังจากได้เจอของจริงครับ ตอนแรกคือไม่รุ้เลย ท่องๆจำๆแล้วไปสอบ แต่พอเจอคนไข้ ได้ลองดูในแคส ได้ลองใส่ตะขอจริงๆเออมันก็เห็นภาพมากขึ้นว่ามัน torque ฟันแบบนี้ๆ
Troublesome
-
Alien knowledge
ปี 4 วิ้น เวลาเรียนจะรู้สึกงง แล้วก็ไม่ค่อยเห็นภาพ ตอนที่เรียน cd ที่เป็นตัวแรกที่เรียน ก็คือไม่เห็นภาพอะไรเลย เรียนไปตามบทแต่ไม่เข้าใจอะไรเท่าไหร่
-
-
CD
CD1
how to overcome
External
Sequence and Relation
จบใหม่เซอ ขอเสริม เห้นด้วยมาก ๆ ยิ่ง prosth เรียนเยอะ ๆ ยิ่งเห็นภาพขึ้น เพราะว่าเราได้จับงานแลปมาแล้ว แต่พอ CD 1 เรียนก่อนเป็น lab แล้วเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับ lab เลยเหมือนแลปไปทาง lecture ไปทาง ทีนี้ก็ไม่เข้าใจอะไรเลย ถ้าไม่ได้อาจารย์ lab ที่พยายามที่ให้เราเข้าใจ demon อธิบายต่าง ๆ ให้เราเข้าใจ แต่ถ้าไม่ได้คือเละเลยนะ ปรับเชิงโครงสร้างจริง ๆ CD1 กับ lab 1 มันควรจะทำให้ดีทั้ง lecture แล้วก็ lab ด้วย พอเป็น cb lecture 8 โมง 9 โมง เรียนปุ้บ ใช้ปั๊ป เข้าหัวทันที skill มาทันที แตกต่างจาก CD มาก ๆ ซึ่ง CD ไม่รู้อะไรเลย (sequence และความเชื่อมโยงของแต่ละหัวข้อในการเรียนทั้ง lab และ lecture สำคัญต่อการเรียนรู้ในวิชานั้น ๆ)
จบใหม่ เซ่อ ผมว่ามันขึ้นกับการเรียงหัวข้อมากกว่า ถ้าขึ้นมาด้วยนิยามจ๋า ๆ แต่ถ้าเราลองให้มารุ้จักก่อนว่าคืออะไร หน้าตาเป็นไง พอได้ไปเล่นใน lab ค่อย ๆ เสริมใน lecture ค่อย ๆ เป้น ค่อย ๆ ไป เพราะบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าขั้นแรกทำ tray นะ ไม่ใช่ base plate บางคนอาจจะเข้าใจว่าขั้นที่ 2 ทำ base plate นะไม่ใช่ tray (sequence ของหัวข้อสำคัญต่อการเรียนรู้)
Supplementary
จบใหม่ ปอป้อ รู้สึกว่าเอกสารคำสอนอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาพก็ค่อนข้างน้อย ถ้ามีให้เห้นภาพมากขึ้นก็อาจจะดี พอเป็นอย่างอื่นที่แบบการสบฟันนู่นนี่ มีภาพว่าเอ้อดูเข้าใจ (เอกสารคำสอนที่มีภาพและอ่านรู้เรื่องส่งผลให้การเรียนรู้ดีขึ้น)
Dental materials
How to overcome
Internal
Revision
-
จบใหม่ ย้ง แบบตอนนี้มันเข้าใจมากขึ้นจากการได้ทวนอีกรอบ แต่ตอนที่เรียนครั้งแรกอ่ะ ไม่เข้าใจ ยาก จำไม่ได้ด้วย (revision is the key to overcome threshold)
Experiential learning
ปี 5 ภาค เรื่องที่พิมพ์ปาก ที่ได้เอามาใช้ก็ alginate อะไรงี้ ห้ามเปลี่ยนอัตราส่วนอะไรงี้ใช่มั้ย ก็แบบว่าคือ เจอจริง ๆ ไง อุ้ยหนืดจังใส่น้ำเพิ่มนิดนึง
ปี 5 ภาค เข้าใจมากขึ้นก็ตอนเรียนพวก cd lab แต่ว่าถ้าเกตจริงๆ ก็คือก่อนขึ้นคลินิกนี้แหละ เราขึ้นคลินิก เห็นพี่เดินผ่านไปผ่านมา เห็นถัง alginate ตั้งอยู่ก็เห็นประมาณนี้ พอได้เห้นของจริง
External
Sequence of learning
(ปี 6 หมาก) สำหรับ intro จริงๆต้องการแค่ เนื้อหาสิ่งต่างๆที่เราใช้ มันเป็นแบบนี้ (intro สำคัญ แต่เนื้อหาควรมีความเหมาะสมกับผู้เรียน)
-
(ปี 6 พลอย) มันต้องเห็นภาพรวมของการทำงานนั้น พอเห็นแล้วเราก็จะไปเรียงลำดับการเรียน ว่าอันไหนมาก่อน มาหลัง
พี่พิณ อันนี้หมายถึง dm ของทั้ง prosth, oper dent mat จะรวมกันหมดแล้ว ของ prosth กับ oper ถ้าไล่ลำดับ ก่อน หลังขึ้น clinic เราควรจะเรียงอะไรก่อน หลัง จัด sequence ยังไงดี ให้ทำ clinic ให้ดีมากขี้น คืออันนี้อยากให้มองแบบทั้ง oper และ prsoth
Media
จบใหม่ ย้ง crown bridge 4 ตอนเรียนกับอจนิยม มันมีรูป ก้างปลา MDP gamma MPF (Media is the key to overcome threshold)
-
Lecturer
จบใหม่ เปา คิดว่าอยู่ที่ตัวคนสอนด้วยว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีแค่ไหน (Lecturer is the key to overcome threshold)
-
Experential learning
จบใหม่ ปอป้อ the last gen แต่พอเป็น dent mat ของปีท้าย ๆ พอได้จับข้าวจับของ เจอ cement หลาย ๆ อย่าง มันก็จะอินขึ้น ก็จะจอยกับ adhesive แต่พอนั้นมัน
(ประสบการณ์จาก clinic related to lecture มากขึ้น)
จบใหม่ เซ่อ ได้ครับ ความรู้ไม่เหลือแล้ว เอาความรู้ dentmat ได้เต็ม ๆ คือตอนปี 6 ที่อจนิยม อจพี่ไอซ์มาช่วย อันนั้นคือแบบเข้าใจ dent mat จริง ๆ เข้าใจ cement จริง ๆ ว่า mechanism ในวิชา dent mat เลย รู้สึกว่าตอนเรียนปี 2 คือความรู้แทบไม่เหลือแล้ว หรือไม่ก็ไม่เหลือแล้ว
Slides
จบใหม่ ย้ง slide อ่านยากด้วย สีน้ำเงิน ๆ อะไรก็ไม่รู้ เป็นอะไรที่ไม่น่าเรียนในตอนนั้น เหมือนวิชากายวิภาค ภาค gross ก็เยอะอยู่แล้ว ในมุมมองของเราใน ปี2
(การตกแต่ง slide เรียน)
Learning period
จบใหม่ ปอป้อ แล้วก็เป็นวิชาตอนเช้าด้วยง่วงมาก! บางวันฉันก็ไม่ได้เข้านะ แต่พอเป็นมันแบบกลาง ๆ อะ เสร็จแล้ว เหมือนมันผสมอะไรก็ไม่รู้ มี composite ด้วย amalgam ด้วย อาจารย์ที่ถ่ายทอดด้วยมั้ง รุ่นเราไม่ใช่อาจารย์คนเดียวกันด้วยมั้ง (ช่วงเวลาเรียนและอาจารย์สำคัญต่อการเรียนรู้ในวิชานั้น ๆ)
Troublesome
-
-
-
-
-
-
conceptually difficult
จบใหม่ ย้ง resin cement ค่ะ แบบว่า มันมีขวดนี้และมันต้องใช้กับขวดนู้นขวดนั้น แล้วมันงงไปหมด สรุปว่าอันนี้ใช้กับอะไร แล้วถ้าจะ fix crown อันนี้ต้องใช้อันไหน แล้วมันมีชื่อยี่ห้อ ชื่อสารอะไรงี้ ก็เลยรู้สึกยาก เพราะมันมีหลายอย่าง มีทั้งชื่อยี่ห้อแล้วก็สารต่างๆมันเยอะ ตอนนี้เข้าใจมากขึ้น แต่ตอนที่เรียนครั้งแรกมันจำไม่ได้ ไม่เข้าใจด้วย (dent mat is threshold)
จบใหม่ ปอป้อ ขออีกวิชาได้ปะ Dent Mat รู้สึกว่าปี 2 การที่มาเจอ Dentmat ต้องมารู้จักโครงสร้างเคมี รู้สึกว่าเป้นอะไรที่เกตได้ยากอะ มาก ๆ
Occlusion
Intregative
(ปี 6 เกียร์) "ใช้ shim stock เช็คทุกซี่เพื่อดูว่าเยื้องยังไง centric, working, non-working เป็นยังไง ตอนพิมพ์และ mount ออกมาก็ควรจะเป็นอย่างนั้น รวมถึง occlusal plane ก็สำคัญ เพราะมีผลกับการ design, tooth alteration หรือเรียงฟัน"
(ปี 6 แพตตี้) "ต้องเอามาใช้ในการออกแบบด้วยระดับนึง ซึ่งมันก็ต้องขึ้นกับคนไข้แต่ละคนว่าตั้งต้นมันเป็นยังไง"
-
ปี 5 เป็ด เรา plan case ไปวางตะข้อตรงนู่นนี้ พอไปให้อาจารย์ดูก็อาจจะโดนบอกว่า วางตรงนี้เยื้องมามันโดนนะ รู้สึกว่าสำคัญแต่ว่าเราก็ฝึกจาก lab ฟันมาก็ ideal มาแล้วไม่มี deep bite cross bite แต่พอมาของจริงมันก็มีผลเยอะ ก้จะรู้ว่ามันใช้เยอะ
Troublesome
Conceptually difficult
ปี 4 เตยหอม รู้สึกว่าต้องใช้แบบ เวลาในการทำความเข้าใจด้วย มันต้องแบบนึกภาพ แล้วใช้เวลาทำความเข้าใจพร้อมนึกภาพตามไปด้วย
-
-
Inert
-
-
(ปี 6 แพตตี้) เด็กไม่มีประสบการณ์ในการ finalize ทำให้เราไป focus ที่ทฤษฎีตายตัวว่าถ้าคุณมี ABCD ต้องเลือกอันนี้
(ปี 6 เกียร์) การ setting occlusal plane มันมองยาก มันไม่ได้มีหัวข้อที่ชัด ไม่ได้มีการฟันธงว่า setting occlusal plane ใหม่จะทำอะไรได้ดีกว่า
-
-
How to overcome :
Internal
Revision
ปี 4 กีวี่ ก็ต้องไปอ่านเพิ่มเอง เอาจริงอาจารย์ก็อธิบายงงๆนิดนึง แต่ว่าแบบพอนั่งอ่านดีๆ คิดดีๆ มันต้องค่อยๆคิดตาม พอไปเสิรชดูเพิ่มก็พอเข้าใจได้ค่ะ
-
-
External
lecturer
ปี 5 ภาคย์ เจอ case ไหนมา ถ่ายรูปมาแล้วก็สอน น่าจะเป็นไปได้จริงที่สุดอะ active learning ก็ดูเกินไป lab ทุกแบบ ก้เกินไป สอนตามหลักสูตรจบแล้วก็เพิ่ม slide มา interesting case เป้น ref ที่ช่วยในสิ่งที่แปลกประหลาด
Feedback
-
(ปี 6 พลอย) ถ้าเราเช็ค centric แต่ไม่เช็ค eccentric คนไข้กลับมาด้วย CC ที่เกี่ยวกับงานเรา
ถ้าอจ. พูดให้แก้ตั้งแต่แรกแล้วให้แก้ไขเลย มันจะไม่เกิดปัญหาขึ้น
(ปี 6 เกียร์) ถ้า feedback ทีหลังจากทำงาน เรารู้สึกว่าได้ความรู้เต็มๆ เพราะมันไม่มีอะไร distract เรา
-
Oral examination
How to overcome
Experience
(ปี 6 แพตตี้) "ด้วยความที่เรายังไม่มีความรู้มากพอที่จะมองปราดเดียวแล้วรู้หมด บางทีเราก็ตรวจผ่านๆ ไม่ละเอียด แต่พอระหว่างทำๆไป มันก็พึ่งจะนึกได้ตอนระหว่างทำๆไป ทั้งๆที่บางอย่างเราควรจะตรวจให้รู้ได้ตั้งแต่ตอนแรก"
-
Tacit
Border mold + impression
-
-
How to overcome
-
Observe / Demonstration
-
-
-
-
-
-
ปี 5 จี้พลอย ตอนแรกที่ทำก็เป็นกะหย่อมกะใหญ่ เค้าก้เลยเอาออกหมด แล้วทำใหม่ สอนว่ามันต้องเป็นเนื้อเดียวกัน เค้าก็ทำให้แถบนึง ละปล่อยให้ทำอีกแถบนึง
Experience
(ปี 6 พลอย) แม้อาจารย์บอกว่าได้ก็ไม่รู้ว่าดูยังไงว่าได้หรือไม่ได้ จนถึงขั้นตอนเรียงฟันและได้ลอง แล้วถึงรู้ว่า border mold ต้องถึงตรงไหน ยังขาดอะไรไป
-
-
(ปี 6 หมาก) ตอนปี 5 อ่านเยอะ กังวลเพราะยังไม่เคยทำ แต่ทำได้ทำแล้วรู้ว่ามันก็จะประมาณนี้ ครั้งต่อไปจะง่ายขึ้น
-
-
-
ปี 5 ปาย ตรงพิมพ์ rubber base มันจะไม่ผ่านในครั้งแรกเลย เพราะตอนทำต้องจัดการหลายอย่าง เช่น ความชื้นในปาก น้ำลาย วัสดุ การโหลดวัสดุให้หนาสม่ำเสมอ แม้ตอนโหลดจะคิดว่าเสมอแล้ว แต่พอพิมพ์มันก็จะเห็นว่าไม่ คงต้องใช้ประสบการณ์ในการดูว่าตรงไหนต้องเติมเยอะกว่าปกติ
ปี 5 ปาย ช่วงแรกๆmanage compound ยากมากเลย ไม่รู้ว่าลนไฟเท่าไหร่ถึงจะพอดี นานไปก็เหลว การmoldปากคนไข้ด้วยถึงหน้างานจริงๆก้ไม่รู้ว่าควรทำท่าไหน ที่ทำก็แค่อ้าปาก หุบปาก ดึงแก้มๆ ก้อาจจะไม่ตามทฤษฎีเป๊ะๆ
ปี 5 จี้พลอย ตอนแรกก็ manage ยาก บางทีกลิ้งๆแล้วมันก็หยดอะไรงี้ แล้วก็แบบไม่รู้ว่าก่อนจะเอาเข้าปากมันต้องร้อนหรือเหลวระดับไหน บางทีแบบเอาเข้าแล้วคนไข้ร้องจ๊ากเพราะว่ามันร้อน
จบใหม่ ย้ง คือตอนแรกทำเสร็จหมดแล้ว บนล่าง แต่ทีนี้โดนย้ายไปอยู่กับอจ.ณฤดี ต้องทำอันล่างใหม่ เพราะมันหลวม คิดว่าเป็นตั้งแต่ตอน border mold ก่อนจะทำใหม่ก็ลองกรอแก้ขอบแล้ว มันก็ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ดีอยู่ดี หลังเคสนี้ก็ไม่ได้ทำเลย (พอจะระบุปัญหาได้ แต่อาจจะแก้ไม่ถูกจุด)
จบใหม่ ปอป้อ มีที่เคยทำ CD แล้วคนไข้ยังไม่ชิน ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลาสักนิด แบบฟันปลอมเก่าเขาเป็น CD บนมาสองรอบแล้วมันไม่โอเค เขาก็เลยเขวี้ยงทิ้ง แล้วมาเจอเรา แต่สุดท้ายเราทำออกมาเขาก็โอเคไม่เขวี้ยงทิ้ง ใช้น้ำลายหมอนิดนึง คือตอนใส่ ไม่ได้แน่นมาก ก็มีล็อคบางจุด หลุดบางจุดบ้าง เพราะด้วย support ของเขาที่มี และก็ border mold ที่เราทำด้วย แต่ก็พยายามที่สุดแล้ว พอตอนใส่อาจจะกัดไม่ลงล็อค เขาก็อาจจะรำคาญนิดนึงๆ ก็ต้องใช้เวลาให้เขาปรับกล้ามเนื้อไป
-
CO, CR
-
(ปี 6 ไททัน) กัด bite กับ raise VD ยากเพราะว่ามันไม่มีอะไรเป็นref มันไม่มี guideline ที่ชัดเจนมั้ง กัดbiteยากเพราะว่าถ้าทำผิดมันก็ส่งผลต่อทั้งขากรรไกรเลย กัด+เข้าCR สำคัญและ technique sensitive
พิจารณาด้วยตัวเอง รู้ว่ามันควรต้องประมาณไหน แต่การที่จะให้คนไข้หยุดที่ตำแหน่งที่ต้องการให้หยุด มันก้ไม่ได้ขึ้นกับเราอย่างเดียว
(ปี 6 แพรวมะ) รู้สึกว่ามีปัญหาการเข้า cr ไม่รู้เพราะคนไข้กัดไม่เหมือนเดิม หรือเราจับเข้าไม่ได้ที่เดิม
-
การใช้หัวกรอ
-
ปี 5 เป็ด คิดได้แต่ทำไม่ได้ คือย่าง tooth alter จะทำแบบนี้ ก็ต้องใส่หัวกรอตั้งหัวกรอตรงนี้ไรงี้ ก็คือพยายามนึกแต่ สุดท้ายมันก็จะไม่ชัวร์อยู่ดีว่ามันตรงมั้ย ในแคสกับในปากไม่รู้จะเหมือนกันเปล่า
ดัดลวด
-
(ปี 6 หนูดี) แบบทำยังไงให้ได้… เทียบกับฟันมี4-5ด้าน ลวดมันมีทุกด้าน ต้องใช้การมอง การจินตนาการ การใช้แรง เรามองภาพไม่ออก
-
-
VD and การเช็คฟันหน้า
How to overcome
Experience
(ปี 6 พลอย) เพราะว่าผ่านครั้งแรก การทำเคสแรกมันจะ set standard ตอนแรกจะรู้แค่ว่าต้องทำ แต่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่ควรเป็น เป็นยังไง
-
เรียงฟัน
-
ปี 6 เกียร์ เป็น individual อย่างเช่นทฤษฎีการเรียงมันเป็นแบบนึง แต่มันมีเรื่องความชอบส่วนบุคคล รสนิยมด้วย
Occlusion
Troublesome
จบใหม่ เซ่อ คือเรามองว่าคนที่เข้าใจ occlusion อาจจะ good แต่ไม่ถึง great คือมันเป็นตัวตัดงี้เลย เช่นอุด cl I ไม่ติดสีแหละ ok แต่ที่จริงเป็นจุดสบแล้ว underocclusion แล้วอาจารย์ oper ว่าไงครับ มันควรจะได้ occlusion ที่ดีหรือป่าว ไม่ควร under บางคนแบบไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ตอนขึ้นคลินิก ok ไม่ติดสี ไปผ่าน จบ occlusion ยากคือเช็คสบ
-
จบใหม่ ย้ง ถ้าเป็นเช็คสบจากชิ้นงานของเราอันนี้ทำได้ เช็คได้ครบ แต่ถ้าเป็นเช็คสบจากฟันที่คนไข้มาด้วยปัญหา occlusion อันนี้เราจะไม่กล้าแก้ จะส่งไปที่อื่น
จบใหม่ ไกด์ คือส่วนตัวไม่แน่ใจว่าสำหรับ occlusion มันต้องใช้เวลาในการทำงานนานรึเปล่ากว่าจะเจอปัญหา คือตอนนี้ restoration ที่เราทำไปมันอาจจะยังไม่เห็นปัญหาตอนนี้ แต่พอนานๆไปก็อาจจะเริ่มมีบ้าง ส่วน restoration ที่มันมีปัญหาให้เราเห็นเลยในตอนนั้นเราก็แก้อยู่แล้ว ก็เลยไม่แน่ใจเหมือนกัน
จบใหม่ เจมส์ ของพี่ก็ไม่เคยเจอนะ แต่ถ้าจะตอบคำถามเราต้องแยกก่อน เพราะอย่างเคส CD occlusion ในความคิดหมอพรอสก็น่าจะเป็นการสร้างใหม่หมด แต่ถ้าเป็น restoration ซี่สองซี่ เราก็สร้างให้มันตรงกับ ideal occlusion ของมัน พวก tripodization ไรแบบนี้อะ แต่พอมาทำงานจริงถามว่าเราทำให้มันได้ถึงขนาดนั้นมั้ย ทุกวันนี้พี่ก็ยังทำไม่ได้นะ เอาเป็นว่า occlusion ในทางคลินิกก็คือทำออกมาให้คนไข้ function ไ้ด้ แต่ถ้าเคส CD ที่มันมี occlusion หลายแบบอะ อันนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับการมองเคสอะว่าเคสไหนควรใช้อะไร (Occlusion for CD is really important because it newly made, but in the other hand restoration we create to relate to ideal occlusion, occlusion for CD is tacit due to clinical judgment and other factors)
-
Crown/Bridge
how to overcome
Experience
จบใหม่ เซ่อ ตามที่น้องบอกเลยครับ คือพอมันรู้ว่ามันเกิดจากอะไร แล้วมีประสบการณ์แล้วเราก็จะระวังมากขึ้นครับ (Able to generate Knowledge of results(KR), Feedback, and Error information
จบใหม่ เซ่อ เอาเคสที่เป็นแผลในใจละกัน คือ drill canal แล้ว gouging ไม่ถึงขั้น perforated แต่เหลือ dentin wall บางๆละ ถ้าถามตอนนี้คือกล้าทำมั้ย ก็กล้าทำ แต่ก็จะใจเย็นมากขึ้น (Learning from mistakes)
ADVISOR
จบใหม่ เซ่อ ตอนแรกอะเราเอะใจก่อน และก็… “อาจารย์ครับ” แน่นอนอจ.มีส่วนช่วยอยู่แล้ว เราก็ไปตามพี่วัชชี่ ณัฐภูมิ กมลพร มารวมที่ยูนิต วัชชี่บอก observe ก่อน ก็ตามนั้น แต่มันก็ต้องเริ่มจากเราเอะใจไป x-ray ก่อน (Requires expert advices.)
-
-
Discussion
จบใหม่ พจ พี่ว่าอยู่ที่จำนวนซี่ ตอนปี 3 prep ทุเรศมาก ขนาดสอบขึ้นพรอสยัง prep ไม่ดีเลยนะ บางคนในรุ่นเราจะ prep สวยมากอย่างกับหลุดมาจาก text พี่ก็จะเดินไปหาคนๆนั้นแหล่ะ และถามวิธีการ เพราะถ้าเราใช้ชุดความคิดเดิมอะ เราก็จะ prep ได้แบบเดิม ตอนหลังที่ prep อาจปรับ position ได้ดีขึ้นด้วยมั้งเมื่อเทียบกับตอนปี 4 อะที่หน้าแทบจะจ่อกับ cavity แล้วอะ ก็คุ้นชินตำแหน่งกับอุปกรณ์มากขึ้นแหล่ะ เทียบกับ remove แล้ว fix มันก็แบบเออ ซี่ตรงนั้นอะ manage อะไรได้ง่ายกว่า ถ้าแบบ TP อะยากนะ ยากสุด (Discuss with คนเก่ง ๆ จะช่วยมาก)
Troublesome
จบใหม่ ไกด์ Prep ยังไม่สวยคือ มัน “หลิม” อะ คือถ้าฟอลไอจีที่เขาทำ crown จะเห็นเลยมันแบบวิบวับ คือมันสวยเลยอะ คือเราดูแล้วรู้อะว่ามันสวย สุดท้ายมาดูงานเราแล้วเห็นเลยว่าแบบ margin มันยังไม่สวย wall ไม่เรียบ (Observing experts’s working process and final results help with student visualization and provide exemplary skill.) (Observing an expert's work can influence the student’s self-standard.)
จบใหม่ พจ พี่ว่าตอน drill canal คือกลัว perorate นี่ละ เอียงผิดนิดเดียวก้ทะลุแล้ว แต่ทักษะมันเหมือนได้จากตอนขึ้นคลินิก endo กับ lab endo ถ้าทำ pcc ตอนปี 5 ก็คงดริลแบบไม่มั่นใจปะ ตอนพี่ดริลมันก้ได้แหล่ะ ไม่ eror ก้คงถูกมั้ง
OPER
Troublesome
จบใหม่ พจ ถ้า oper ส่วนตัวรู้สึกว่า class ที่ไม่มั่นใจอะคือ II ยากมาก ไม่มั่นใจเลยตอนจบเป็น GP อะ พี่เคส selection นะคือถ้าไม่มั่นใจก็ส่งหา Oper นั่นล่ะ ClassII แบบอุดยากๆ หรืออุดใหญ่ๆหลาย surf อะ (Class II restoration is hard)
-
how to overcome
จบใหม่ พจ ก็เชคตอนนอน ตอนนั่ง ให้ลองกัดๆเอง ละให้กัดๆมีน้ำหนักหน่อย งานอะไรที่ทำเร็วเกินไปบางทีคนไข้ไม่เชื่อนะ แบบเสร็จเร็ว บางทีคนไข้ไม่มั่นใจว่าใช้ได้ มีคุณภาพรึเปล่านะ ทั้งๆที่มันอาจจะ accept แล้วก็ได้นึกออกปะ (time consuming per visit related to quality)
PBL
-
troublesome
จบใหม่ ไกด์ ไม่ค่อยชอบ pbl เพราะแต่ละห้องได้ความรู้ไม่เท่ากัน
(การ set สิ่งที่ได้เรียนรู้จากวิชา pbl)
จบใหม่ พจ ส่วน attitude ปี5/6ไม่ต่างกันเพราะจะชอบมั้ยมันเริ่มตั้งแต่ปี2-3ที่ทำแลปเลยด้วยซ้ำ คือถ้ามันรู้สึกว่ายากตั้งแต่พรีคลินิก การที่จะเปลีั่ยนตอนคลินิกมันยากมาก ถ้าจะเปลี่ยน ชั้นคลินิกจะผูกโยงก้อาจารที่ปรึกษาเป็นหลักเพราะฉะนั้นปัจจัยเดียวที่พี่คิดว่าเปลี่ยนได้คืออจที่ปรึกษาพรอส (first impressionและอาจารย์ที่ปรึกษาส่งผลต่อattitudeของผู้เรียน)
-
-
(ปี 6 ไททัน) ความรู้ที่มีก่อนขึ้นคลินิกอย่างเดียวมันไม่พอ เราหาความรู้เพิ่ม ได้แนวทางในการทำงานเพิ่ม ได้ประสบการณ์เพิ่ม เห็นเคสเพิ่มเลยเก่งขึ้น
-
(ปี 6 ไททัน) ลำดับอะสำคัญ บางอย่างมันต้องเห็นภาพรวมก่อน แล้วค่อยลงรายละเอียด
ปัจจุบันเหมือนเอาเรื่องละเอียดไปไว้ตอนแรก ท่องจำ แต่ไม่เห็นภาพเลยว่ามันคืออะไร
-
-
-
-