Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
5.องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดี - Coggle Diagram
5.องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดี
Accessibility:ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล
ขนาดของหน้าจอ
คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่จะมีความละเอียดของหน้าจอสูงขึ้น รวมถึง “พฤติกรรม” ของผู้บริโภคที่ “เปลี่ยนไป” ด้วยการบริโภคข่าวสารแบบ Real Time ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์ทั้ง Tablet และ Smartphone จนกลายเป็น Multi-Screen Trend ดังนั้น เว็บไซต์ที่ดีต้องสามารถแสดงผลได้พอดีกับทุกหน้าขนาดของหน้าจอและอุปกรณ์หลากหลายประเภทด้วย
Web Browser
Web Browser หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ โปรแกรมที่ใช้ในการเปิดดูเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมาย เช่น Google Chrome, Mozilla Firefox, Internet Explorer, Safari เป็นต้น โดยเว็บไซต์ต้องสามารถแสดงผลบนทุก Browser ได้อย่างถูกต้อง เพราะหากเข้าไม่ได้ในบาง Browser นั่นหมายถึง คุณอาจจะสูญเสีย Traffic จากผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เข้ามาแล้วไม่สามารถอ่านข้อมูลบนเว็บไซต์ได้
การ Tag รูปภาพ
ควรตั้งชื่อให้กับรูปภาพประกอบเว็บไซต์ทุกครั้ง (Alternative Text) เพราะหากไม่ตั้งชื่อรูปภาพ Search Engine ก็จะไม่ทราบว่ารูปภาพนั้นเป็นรูปภาพอะไร ทำให้ไม่สามารถเข้ามาเก็บข้อมูลได้
และสำหรับผู้พิการทางสายตาที่ใช้โปรแกรมอ่านหน้าเว็บไซต์ด้วยแล้ว Alternative Text นี้จะถูกแปลงเป็นเสียงอ่านเพื่อสื่อสารให้ผู้ที่ตาบอดรับรู้ได้อีกด้วย
Font ตัวอักษร
ควรใช้ Font หรือตัวอักษรแบบมาตรฐาน เช่น Arial, Verdana, Times New Roman, Tahoma เป็นต้น และหลีกเลี่ยงการใช้ Font ตัวอักษรพิเศษ เพราะหากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าชมเว็บไซต์ไม่มี Font พิเศษติดตั้งไว้ ก็จะทำให้การแสดงผลผิดไปจากปกติหรืออ่านข้อมูลไม่ได้
การใช้สี
ระมัดระวังเรื่องการเลือกใช้สีตัวอักษรและสีพื้นหลังที่ใกล้เคียงกันเกินไป รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้สีเพียงอย่างเดียวเพื่อสื่อความหมายหรือไฮไลท์ข้อมูลสำคัญ เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาแก่ผู้เข้าชมที่ตาบอดสี โดยควรใช้สัญลักษณ์ร่วมกับการใช้สี เช่น เครื่องหมาย * สำหรับช่องที่ต้องกรอกข้อมูล เป็นต้น
Speed:ความเร็วในการแสดงผลข้อมูล
ในการเปิดเว็บไซต์แต่ละหน้า เว็บไซต์ที่ดีไม่ควรมีองค์ประกอบที่ทำให้ผู้เข้าชมเว็บใช้เวลาในการโหลดนานเกินไป เพราะธรรมชาติของผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างหนึ่ง คือ ผู้ชมจะไม่มีความอดทนสูงมากนักในการค้นหาข้อมูลทาง Internet (อ่านเพิ่มเติมได้ใน รู้จักธรรมชาติของผู้เข้าชมเว็บไซต์/ลูกค้า Online ให้ดี..มีชัยไปกว่าครึ่ง นะคะ)
ถ้าการเข้าถึงเว็บไซต์ทำให้เขาต้องเสียเวลามากเกินไป ผู้ชมท่านนั้นก็อาจจะออกจากเว็บไปทันที! รีบป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ รีบปรับปรุงเว็บไซต์ให้แสดงผลข้อมูลได้เร็วขึ้น ตามวิธีง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
เลือกใช้ภาพขนาดไม่ใหญ่
ระมัดระวังเรื่องขนาดของรูปภาพและไฟล์ (มีผลต่อความเร็ว) หากภาพหรือไฟล์บนเว็บไซต์นั้นมีขนาดใหญ่ ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลได้ช้าลงการใส่ภาพลงบนเว็บไซต์
ควรจะเลือกวิธี “Save for Web” และบันทึกภาพให้มีนามสกุล .JPG หรือ .GIF
ตั้งค่าไม่ให้ Video เล่นอัตโนมัติ
ในการใส่ไฟล์จำพวก Video และ Audio (ภาพและเสียง) อย่าให้ไฟล์เหล่านี้เล่นอัตโนมัติโดยทันที แต่ให้มีปุ่ม “play” เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเลือกเล่นไฟล์นั้นได้ด้วยตัวเอง
ใช้บริการ Web Hosting ที่เร็ว
ในกรณีที่เลือกใช้บริการ Web Hosting ควรเลือก Server หรือ Web Hosting ที่เร็วและมี Bandwidth มากพอ
(Bandwidth คือ ความเร็วในการรับและส่งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต)
...
ระวังการใช้ Code ตกแต่งจากเว็บไซต์อื่น
การใส่ Code Banner, Counter หรือ การเขียน Code มาใส่บนเว็บไซต์นั้น ควรระวังเรื่องความเร็วและเสถียรภาพของระบบของ Server ของผู้ให้บริการ code ที่คุณนำมาติดตั้งด้วย
เช่น หาก server ของ code ที่นำมาติดล่มหรือโหลดช้า จะทำให้เว็บของคุณเปิดไม่ได้หรือโหลดช้าไปด้วย เป็นต้น
ตรวจสอบการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวแบบ Flash
การใช้ Flash Animation หรือ Code ภาพเคลื่อนไหวต่างก็มีผลทำให้ใช้เวลาโหลดนานและอาจไม่สามารถแสดงผลในอุปกรณ์บางประเภท
จึงควรจะทดสอบความเร็วของการแสดงผลของส่วนประกอบต่างๆ ก่อน รวมถึง preview ตรวจสอบการแสดงผลของเว็บไซต์ก่อนเสมอ ก่อนที่จะโปรโมทเว็บไซต์ของคุณออกไป
Attractiveness:เว็บไซต์ต้องน่าสนใจดึงดูดสายตา
เว็บไซต์ที่น่าสนใจและดึงดูด ต้องสามารถทำให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หยุดอยู่ที่เว็บไซต์ของคุณได้ทันทีเมื่อเข้ามาครั้งแรก โดยต้องคำนึงถึงวิธีการตาม หลักการ AIDA ดังต่อไปนี้
"Attention" ทำให้ผู้ชมเว็บหยุดเพื่อที่จะอ่านข้อมูล
วิธีการที่ดึงดูดดความสนใจที่ดี เช่น การใส่ภาพคนลงบนจุดกึ่งกลางของหน้าเว็บไซต์ เพื่อนำสายตาผู้เข้าชมไปที่ภาพนั้นๆ
"Interest" อธิบายเพื่อสร้างความสนใจในตัวสินค้าหรือบริการ
เมื่อใช้ภาพคนเพื่อดึงดูดให้ผู้ชมเว็บหยุดที่หน้าเว็บไซต์ได้แล้ว ก็ให้เขียนรายละเอียดเพื่อให้คนสนใจอ่านข้อมูลต่อไปทันที ดังนั้นหากกระบวนการแรก (Attention) ไม่สามารถทำให้ผู้ชมเว็บหยุดเพื่อที่จะอ่านข้อมูลได้ ก็จะไม่สามารถก่อให้เกิดกระบวนการที่สอง (Interest) ได้ เนื่องจากผู้เข้าชมจะไม่สนใจที่จะอ่านข้อความธรรมดา หากไม่มีสิ่งดึงดูดสายตาก่อน
"Desire" ทำให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อหรือใช้บริการ
เมื่อเกิด Interest แล้ว ก็ต้องกระตุ้นให้ผู้ที่กำลังอ่านข้อมูลสินค้าหรือบริการบนหน้าเว็บไซต์เกิดรู้สึกอยากซื้อหรือใช้บริการ โดยอาจจะแสดงรูปภาพที่โดดเด่นของสินค้าหรือบริการเสริมเข้าไปได้
"Action" ปิดการขาย หรือ ทำให้ตัดสินใจซื้อ
ต้องให้ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เกิดการกระทำบางอย่างบนเว็บไซต์ (Call to action) เช่น สมัครสมาชิก ส่งแบบสอบถามมาที่หน้าเว็บไซต์
Simplicity:ความง่ายในการใช้งาน
เว็บไซต์ที่ดีควรแสดงถึง "ความง่ายของการจัดเรียงข้อมูล" ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์นั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้โดยง่าย แต่หากเว็บไซต์มีการจัดเรียงข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบหรือไม่เป็นหมวดหมู่แล้ว ก็จะเพิ่มเวลาในการค้นหาของผู้เข้าชมเว็บไซต์ จนอาจมีผลให้เขาเหล่านั้นออกจากเว็บไซต์ของคุณไปเลยก็เป็นได้
สำหรับวิธีที่จะช่วยจัดเรียงโครงสร้างข้อมูลของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น มีดังนี้ค่ะ
• แสดง "เมนู" และ "ปุ่ม" สำหรับคลิกในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์อย่างชัดเจน และหลีกเลี่ยงการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ซับซ้อน เข้าใจยาก
• จัดทำหน้า Sitemap หรือ แผนผังเว็บไซต์ สำหรับผู้ใช้ เพื่อเป็นแผนที่บอกเส้นทาง พาผู้เข้าเยี่ยมชมไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้
• ใช้แบบฟอร์มสำหรับติดต่อหรือสั่งซื้อ เพื่อให้ง่ายต่อเจ้าของเว็บไซต์ ที่จะติดต่อกลับไปที่ลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลสินค้าและบริการเพิ่มเติมได้ โดยการสร้างแบบฟอร์ม แต่ต้องไม่บังคับให้ผู้กรอกฟอร์มใส่ข้อมูลเยอะเกินไป
• จัดกลุ่มข้อมูลต่างๆ ในรูปแบบ "Breadcrumb Navigation" ซึ่งจะเป็นเสมือนเครื่องมือนำทางแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในแต่ละหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกันได้อย่างเป็นลำดับขั้นโดยง่าย
• ควรสร้าง Link ไปหน้า Homepage จากทุกหน้า เพื่อให้ผู้เข้าชมนั้นสามารถคลิกกลับมาเริ่มต้นที่หน้าแรกของเว็บไซต์ได้ รวมถึงสร้าง ลิงก์เมนูลัดในพื้นที่ด้านล่างของเว็บไซต์ (Footer Link) เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ ให้สามารถไปยังเมนูอื่นๆ ที่ต้องการได้ แม้จะอยู่ด้านล่างของหน้า โดยไม่ต้อง Scroll กลับขึ้นไปด้านบน
Credibility:ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ทำให้การสร้างตัวตนของธุรกิจบนโลกออนไลน์กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ เริ่มตั้งแต่ การใช้ Social Network นำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ไปจนถึงการเปิดเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ขายสินค้าเป็นเรื่องเป็นราว ก็ทำได้อย่างง่ายและรวดเร็ว
และในมุมของผู้ซื้อ แม้ช่องทางออนไลน์จะทำให้การจับจ่ายเลือกซื้อเลือกใช้สินค้าเป็นไปได้อย่างง่าย สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปถึงที่ร้าน แต่ก็ยังมีผู้ชมเว็บไซต์อีกมากที่ไม่กล้าซื้อสินค้าออนไลน์ เนื่องจากยังไม่เห็นสินค้าจริง ก็ทำให้เกิดความสงสัย ไม่มั่นใจ และระแวงได้
ดังนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ท่านเจ้าของเว็บไซต์จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เกิดความมั่นใจและวางใจว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ใช่เว็บไซต์หลอกลวง โดยวิธีการที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณน่าเชื่อถือ มีดังนี้ค่ะ
ดีไซน์การออกแบบเว็บไซต์ ควรดูน่าเชื่อถือ เป็นมืออาชีพ (Professional Look) มีเนื้อหาอย่างครบถ้วน มีรูปภาพสินค้าหรือบริการประกอบเนื้อหาอย่างชัดเจน และจัดข้อมูลอย่างเป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกในการเข้าชม
แสดงที่อยู่ติดต่อชัดเจน พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ หรือกรณีที่มีหน้าร้านจริง สามารถแสดงแผนที่ตั้ง เพื่อยืนยันการมีตัวตน และรองรับการติดต่อเข้ามาของลูกค้าที่สนใจได้