Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บาร์มี่คนในหมอก กับความจริงนั้นมันทำงานอย่างไร, เมื่อหมอกลงหนาชายหนุ่มคนนึ…
-
เมื่อหมอกลงหนาชายหนุ่มคนนึงมองเห็นเด็กๆวิ่งเล่นอยู่ในหมอกที่หนาทึบเขาคิดว่าพวกเด็กๆต้องบ้าแน่ๆ ทั้งๆที่มองไม่เห็นก็ยังเล่นกันใด้ ด้วยความเหงาและว่างเปล่าเขาพยามตะโกนเรียกเด็กๆเหล่านั้นมาเล่นใกล้ๆเขา และอ้างเหตุผลว่า ตรงที่เขายืนอยู่มันไม่มีหมอกน่ะ พวกนายจะใด้เล่นกันอย่างสนุกยังไงละ
บาร์ยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยความกลัวและเชื่อว่า สิ่งที่ตนเองรู้สึกและสิ่งที่ตนเองเห็นนั้น มันคือความจริง
-
เด็กมองมาที่บาร์มี่และตอบปฏิเสธ(เพราะเด็กมองเห็นบาร์มี่ที่ยืนอยู่ในหมอกทึบแต่มองเห็นเพื่อนตัวเองใด้อย่างชัดเจน)
-
-
หากนายไม่เข้าใจละก็ ก้าวเดินออกไปสิ ก้าวเดินไปสู่ม่านหมอกนั้นและค้นหามันด้วยความรู้สึกตนเองดู(เหมือนทิ่มแทงคนอ่านด้วย คนที่ไม่เข้าใจหมอก)
-
จนเด็กๆวิ่งเข้ามาใกล้บาร์มี่และพวกเขาเริ่มเล่นกันอีกครั้ง เด็กๆหนึ่งคนพูดขึ้นมาว่า บาร์มี่นั้นเชื่อใจไม่ใด้เขาเป็นคนโกหก ใหนบอกว่าตรงนี้ไม่มีหมอก ตรงนี้หรือตรงนั้นก็ไม่ต่างกันหรอก
ผ่านไปสองวัน บาร์มี่เจอผู้หญิงคนนึงเข้ามาจับมือของเขาใว้ บาร์มี่รู้สึกดีใจมากที่ใด้เจอกับคนอื่นที่พอจะฉลาดอยู่บ้างที่มายืนใกล้ๆเขาที่ปราศจากหมอก สาวคนนั้นถามว่า นายเป็นอะไรมีอะไรให้ฉันช่วยใหม บาร์มี่บอกฉันหิว ผู้หญิงคนนั้นเดินหายเข้าไปในหมอกและเอาอาหารมาให้บาร์มี่ ผู้หญิงคนนั้นถามบาร์มี่ว่า มีอะไรให้เธอช่วยอีกใหม บาร์มี่บอกฉันหนาว สาวคนนั้นก็เลยกอดบาร์มี่ หญิงสาวบอกว่าฉันมอบสิ่งมีค่าให้กับเธอแล้ว ต่อไปเธอก็ต้องมอบสิ่งมีค่าที่เท่าเทียมให้กับฉันบ้าง ตามฉันมาสิ บาร์มี่บอก ไม่ ฉันจะไม่เข้าไปในหมอกที่น่ากลัวนั้น เธอมาทำดีกับฉันและพยายามจะหลอกฉันให้เข้าไปในหมอกที่น่ากลัวนั้นใช่ใหม มีแค่ตรงที่ฉันยืนอยู่เท่านั้นที่ไม่มีหมอกทำไมฉันต้องไปที่อื่น หญิงสาวทำหน้าเสียใจและบอกว่า นายมันโง่เง่า ก่อนที่จะเดินจากไป
เขาพบว่าเผื่อเขาเดินต่อไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มมองเห็นวัตถุต่างๆที่แตกต่างกันออกไปมากขึ้นเรื่อยๆเพราะในระยะสาวตาของเขามันราวกับว่าหมอกนั้นจากลง เขาคิดใด้ทันทีว่า ใช่แล้ว ตัวเขามีพลังที่ทำให้หมอกรอบตัวเขาจางลงนี่เอง เข้าเชื่ออย่างสนิดใจว่าเขานั้นไม่เหมือนใคร และสูงส่งกว่าคนอื่น
เขาเริ่มตามหาผู้หญิงคนเดิมนั้นที่มอบความอบอุ่นแรกให้กับเขาเขายิ้มให้กับพลังที่เขามีและคุณค่าในตัวของเขา
หญิงสาวกลับมาอีกครั้งเธอ อธิบายกับเขาว่าสิ่งที่ตัวนายมองเห็นน่ะมันไม่ใช่ความจริง บาร์มี่ตะหวาดใส่สาวคนนั้นทันทีแล้วบอกว่า ความจริงมันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกและสัมผัสใด้ หากฉันสัมผัสและรับรู้มันไม่ใด้มันก็ไม่ใช่ความจริง
-
บาร์มี่เศร้าใจและรู้สึกสิ้นหวัง และเริ่มดูถูกผู้อื่นว่าพวกเขานั้นไม่ฉลาดเลย ทั้งๆที่ตรงที่เขายืนอยู่เป็นที่เดียวที่ไม่มีหมอก แต่กลับไม่มีใครอยากมายืนใกล้ๆเขา หลังจากนั้นเขาไม่พบคนอื่นอีกแล้วในหมอกแห่งนี้
จนเขาใด้พบกับหญิงสาวคนนั้น หญิงสาวคนนั้นตกใจและทักเขาว่า นี่นายไม่กลัวหมอกแล้วรึ นายเดินออกมาตามหาฉันใด้อย่างไร บาร์มี่บอกว่า เขานั้นใด้เปลี่ยนแปลงตนเองแล้ว
บาร์มี่ขอหญิงสาวคนนั้นคบเป็นคู่ชีวิต และหญิงสาวคนั้นก็ขอให้บาร์มี่สัญญาว่าจะไม่ไปจากเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ความจริงเริ่มเปิดเผยว่าบาร์มี่ไม่ใด้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเลย เขาแค่หลอกตัวเองจนหาทางกลับสู่ความจริงไม่ใด้อีกแล้ว
ฝ่ายหญิงบอกว่า
ฉันคิดผิดจริงๆที่เชื่อว่านายนั้นเปลี่ยนตัวเองใด้แล้วฉันเกลียดนายที่คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า นายไม่ใช่พระเจ้าบาร์มี่ นายไม่ใด้พิเศษกว่าคนอื่นเลย
บาร์มี่รู้สึกถึงคุณค่าของตนเองและรู้สึกใด้เลยว่าหญิงสาวที่กำลังมีความสุขนั้นมันเป็นเพราะพลังของเขานั่นเอง
เมื่อทั้งคู่เริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน สีหน้าของบาร์มี่ฟ้องออกมา เขารู้สึกมีความสุขและมีคุณค่าที่เขามีพลัง จึงทำให้ฝ่ายหญิงมีความสุข ฝ่ายหญิงต้องสำนึกในบุญคุณของเขา พวกเขาเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นเรื่อยๆเพราะมุมมองหลงผิดของบาร์มี่ที่ไม่อาจจะเข้าใจความจริงของผู้อื่นและตนเองใด้ เมื่อบาร์มี่เริ่มทวงบุญคุณ ตัวตนที่แท้จริงของบาร์มี่ก็เริ่มเปิดเผย
ฝ่ายหญิงที่เพิ่งรู้ว่าบาร์มี่มีตัวตนที่แท้จริงเช่นไร เธอจึงรู้สึกเหมือนถูกโกหก เธอคิดว่าเบืองหน้าเธอคือบาร์มี่ที่ยอมรับความจริงและก้าวเดินออกมาแล้วเธอจึงขอให้สัญญากับเขา
ฝ่ายหญิงพยายามหนีเพราะพูดไปเท่าไรบาร์มี่ก็ไม่อาจจะกลับมาเป็นมนุษย์ใด้อีกแล้ว เขาคิดว่าเขาเป็นพระเจ้าไปแล้ว