Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เปิดเรื่องจนถึงจาน่าพบชายในหีบ, ซานโดนแกล้งเกี่ยวกับหูของเธอโดยบาร์มี่(อยา…
-
-
-
-
-
-
-
-
จาน่าถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีม 7 และให้ไปเลือกลูกทีม เธอใด้รับสร้อยเขี้ยวสัตว์มาจากลุงที่สอนวิชาขุดแร่ให้เธอ
-
-
-
-
-
-
ระหว่างที่คาราวานมา เด็กสาวโลลิคนนึงเอาแร่ไปแลก(มือที่เป็นแผลเต็มไปหมด) แล้วพ่อค้าบอก 1ต่อ2 ถ้วนๆ ทั้งๆที่แร่ของเด็กนั้นมีค่ามากกว่านั้น เลบามก็ไปหยิบแร่นั้นออกแล้วทวงความยุติธรรมให้เด็กคนนั้น
เด็กน้อยเดินเข้าไปในเหมือง ใช้มือคุ้ยแคะแกะเกาผนังหิน เธอใช้หินทุบกับหิน เด็กบางกลุ่มไปขอยืมพลั่วจากคนงาน
-
มีตัวละครนึงในทีมอื่น ที่ชอบซ้อมคนอื่นชอบมีเรื่องกับคนอื่นเล่นแรงดูเป็นโรคจิต เปิดตัวให้ดูว่าก้าวร้าว เล่เหลี่ยมเยอะ มันต้องเจ๋งที่สุดในหมู่บ้านนี้ ไปซ้อมคนงานทีมอื่น จนคนอื่นกลัวมันไปทั่ว
จาน่าไปเอาเรื่องไปด่ามัน บาร์มี่ยื้อจาน่าใว้แต่ไม่สำเร็จบาร์มี่กลัวจนหัวหด แล้วจาน่าก็บอกว่าเธอทนไม่ใด้ บาร์มี่เลยทำฟึดฟัดๆ แล้วโทษจาน่าว่าเพราะจาน่าเอาแต่ใจ จาน่าไปด่ามันเลยตบหน้าจาน่าทีนึง
จาน่าบอกว่า ฉันไม่กลัวหรอกน่ะความเจ็บปวดแค่นี้น่ะ มันเทียบกับสิ่งที่ฉันเจอไม่ใด้เลย ทำไมฉันต้องกลัวการทำอะไรเพื่อคนอื่นด้วยล่ะ!!
พวกคนงานที่ดูถูกเธอตอนที่เธอใด้รับเลือกให้ตั้งทีม 7 และถูกไอ้คนนี้กระทำเอาใว้พอฟังที่จาน่าพูดแล้วก็ฮึดสู้ พวกเรามีตั้งกี่คน เราจะปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล้กๆมาปกป้องพวกเราทุกคนใด้ยังไงวะ ลุยย คนงานเข้าตะลุมบอล คนร้ายมันก็ขู่ว่าถ้าพวกแกเข้ามาฉันจะฆ่าพวกแก แล้วคนงานก็เอาจอบฟันลงไปที่ขาของมันจนมันโกรธมาก อีกคนก็ช่วยกันฟัน
-
บาร์มี่เคยโดนยืมแล้วเด็กก็ขุดใแ้ร่แล้วดีใจยกใหญ่แล้ววิ่งกลับบ้านโดยลืมเสียมใว้ที่เดิม บาร์มี่เลยฝังใจกับเด็กทุกคน พอเด็กสาวคนนึงมายืมจาน่าบาร์มี่เลยไม่พอใจ
-
จาน่าเข้าข้างบาร์มี่และเชื่อใจในสิ่งที่บาร์มี่พูด เลยไปด่าเพื่อนบาร์มี่ให้ แล้วสุดท้ายก็รู้ความจริงจากปากเพื่อนบาร์มี่ว่า บาร์มี่โกหก
-
-
ระหว่างทางจาน่าลืมเอาอาหารมากิน บาร์มี่เลยเอาอาหารตัวเองให้จาน่า จาน่าขอบคุณ และเธอผ่านไปเห็นชายที่มีหนวดเคราเฟริ้มเหมือนขอทาน จาน่าเลยเอาอาหารให้กับเขา
บาร์มี่โวยวายว่า จานาเอาอาหารไปให้ขอทานทำไม key ของบาร์มี่คือ ทุกคนก็ลำบากเท่าๆกันหมด ทำไมต้องเอาของตัวเองไปให้คนอื่นด้วย จาน่าสวนว่า งั้นกลับบ้านไปฉันจะคืนอาหารให้นายจบใหม นั้นเป็นของๆฉัน ราวกับไม่ขอรับความหวังดีจากบาร์มี่ บาร์มี่ก็ใด้แต่กำหมัด
จาน่าอธิบายว่า ที่ฉันทำแบบนี้ มันมีความสุขมากกว่าที่ฉันใด้กินอะไรดีๆอีกนะบาร์มี่ (พวกเขาเห็นขอทานนั่งอยู่โดยไม่มีอะไรกินตั้งแต่เช้า พอขากลับก็ยังไม่มีอะไรกิน เป็นข้อพิสูจน์ว่า ไม่มีใครเลยที่ให้อาหารกับเขา) เพราะไม่มีใครคิดจะให้เขาเลยยังไงละ นายไม่คิดว่ามันมีคุณค่าบ้างหรอที่อาหารเล็กๆน้อยๆแค่นั้นจะมีคุณค่าใด้มากมายกว่าเพรชหรือทองคำ
-
หมู่บ้านมีความเชื่อว่าคนในหมู่บ้านต้องอย่าแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเพราะมันเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวและน่าสมเพศและสมควรถูกประนามอย่างไม่ใช่มนุษย์
ทหารยามเฝ้าโกดังสินค้าบอกกับเทลว่า นี่คือทำเนียมของที่นี่ เข็มแข็งเข้าใว้ เจ็บก็ต้องบอกว่าไม่เจ็บ ไม่ใหวแล้วก็ต้องบอกว่าใหว ซ่อนความอ่อนแอมันใว้ในใจซะ และเมื่อถึงเวลานั้น ใครซักคนที่มองเห็นความเจ็บปวดในใจของเธอ จะก้าวเข้ามาหาเธอ และมอบความช่วยเหลือให้กับเธอเอง เมื่อถึงเวลานั้นจงรับความช่วยเหลืออย่างภาคภูมิใจซะ นั่นคือเวลาที่เธอจะสามารถขอบคุณออกมาใด้อย่างสุดหัวใจ ซึ่งมันมีค่ามากกว่าการใช้ความสงสารไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
วิธีคิดแบบนี้สามารถเห็นได้ในแนวคิดที่ว่า คนที่ยื่นมือเข้ามาหาคุณเพราะมองเห็นความเจ็บปวดที่แท้จริงของคุณในตอนที่คุณอ่อนแอที่สุดนั้นมันจะมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด
หมู่บ้านต้องมีแนวคิดแบบนี้เพราะต้องการให้ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่และผู้ที่มองเห็นความพยายามเหล่านั้นภายใต้ความเจ็บปวดจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือเอง
ความช่วยเหลือมีความหมายมากขึ้นเมื่อให้ด้วยความสมัครใจและเข้าใจอย่างแท้จริง แทนที่จะร้องขอด้วยความสงสาร
มีฉากพวกสายขอมาขอโน่นนี่อาหารจากยามเฝ้าโกดังแล้วยามดูแคลนใส่แล้วเตะโด่งไป พอเทลเอาแร่มาแลก ยามก็เลยบอกว่า มูลค่ามันไม่พอ แลกกับข้าวห่อนึงไม่ใด้หรือก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในภูเขา หมู่บ้านนี้เป็นที่รู้จักจากผู้คนที่เข้มแข็งและเป็นอิสระ พวกเขาเชื่อว่าการแสดงความอ่อนแอเป็นสัญญาณของความเห็นแก่ตัว และใครก็ตามที่ทำเช่นนั้นก็ไม่ใช่มนุษย์อย่างแท้จริง พวกเขาต้องซ่อนความเจ็บปวดและการดิ้นรน และต้องแสดงสีหน้าที่กล้าหาญอยู่เสมอ
วันหนึ่ง มีขอทานมาที่หมู่บ้าน เขานอนอยู่บนก้อนหิน หนาวเหน็บและหิวโหย ไม่มีใครช่วยเขา ทุกคนในหมู่บ้านเดินผ่านเขาโดยไม่สนใจเขาราวกับว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ผู้หญิงคนหนึ่ง Jana เห็นเขาและรู้สึกสงสาร เธอเคยตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันมาก่อน เย็นชาและอ้างว้างไม่มีใครให้เหลียวแล เธอรู้ถึงความเจ็บปวดของการมองไม่เห็นและถูกลืม
จานาเข้าไปหาขอทานและยื่นอาหารให้เขา ตอนแรกเขาลังเล คิดว่าเธอจะตัดสินเขาเพราะความอ่อนแอของเขา แต่จานาเล่าเรื่องของเธอให้เขาฟังและวิธีที่เธอได้เรียนรู้ว่ามือของคนที่ยืนเคียงข้างคุณในช่วงเวลาที่คุณอ่อนแอที่สุดนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด เธอสนับสนุนให้เขายอมรับความช่วยเหลือและไม่ต้องละอายใจกับการดิ้นรนของเขา
ขอทานประทับใจกับคำพูดของ Jana และยอมรับความช่วยเหลือของเธออย่างสุดซึ้ง เขาเริ่มรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ เขาตระหนักดีว่าการแสดงความอ่อนแอของเขาเป็นเรื่องปกติและนั่นไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนด้อยค่าลง
-
เทลเอาแร่มาแลกกับยาม ยามบอกว่า มูลค่ามันไม่พอแลก (ให้คนดูรู้สึกว่ายามยิ่งไร้น้ำใจขึ้นไปอีก) แล้วยามก็เล่าเรื่องราวให้เทลฟัง เรื่องความเข้มแข็ง เทลขอบคุณคุุณยาม เธอกลับไปหาน้องแล้วก็เปิดซองพบว่ายามให้เกินมา 1ซอง
ฉากจาน่าเจอขอทานที่ไม่มีคนเหลียวแล แล้วเธอก็เลยยื่นมือเข้าไปช่วยโดยเอาอาหารของตัวเองที่บาร์มี่ให้มาเอาไปให้ขอทานสร้างความไม่พอใจให้บาร์มี่ ทั้งคู่ทะเลาะกัน หลังกลับบ้านจาน่าเอาอาหารคืนให้กับบาร์มี่ เพราะเธอเชื่อว่าบาร์มี่จะไม่มีวันเข้าใจเหตุผลของเธอ
-
-
-
ต้นไม้ที่พิเศษที่มีใบหวานและมีรสเมา โดนพวกย้ายมาใหม่เก็บไปจนหมดต้น คนในหมู่บ้านต้องการหมักเหล้าใช้ในเทศการกลับไม่มีใบให้เก็บ
มีพวกที่จะมาเป็นคนงานในหมู่บ้าน แต่ไม่ถูกเลือก(คนเลือกจะเลือกพวกที่โดนสาป ฯลฯ และคนที่มีทรงดี ส่วนคนอื่นต้องกลับไป) พวกนั้นเลยรวมตัวกันกับพวกโจรพวกไม่ดี ตั้งหมู่บ้านอยู่ข้างๆ และอ้างว่า งั้นเขตหมู่บ้านของพวกแกมันอยู่แค่ใหนกัน
-
-
ฉากเกร็นเอาขี้ค้างคาวไปแลกกับคนงานตัวร้าย ที่ตัวร้ายพยายามให้Aเอาสิ่งที่มีค่ามากกว่ามาชดใช้สิ่งที่เสียหาย เกร็นเลยเอาขี้ไปให้ แล้วก็ใช้ระเบิดระเบิดหินบอกว่าทำมาจากขี้ คนงานแห่ไปเก้บขี้กันทันที=ขี้มีค่า
-
-