Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เคสกรณีศึกษา LGIH (Lower gastrointestinal hemorrhage), นางสาวชลธิชา ตุมร …
เคสกรณีศึกษา
LGIH (Lower gastrointestinal hemorrhage)
ความหมาย
การที่มีเลือดออกจาก lesion ที่อยู่ในทางเดินอาหารตั้งแต่ ligament of Treitz ลงไป
ได้แก่ jejunum, ileum, colon, rectumและ anus
อาการและอาการแสดง
อุจจาระเป็นเลือดหรือเป็นสีดำปนแดง (maroon stool) หากสาเหตุของเลือดที่อยู่ใน left sided colon จะทำให้เลือดมีสีแดงสด
ถ้าออกมาจาก right sided colon จะมีสีคล้ำปนสีดำ ถ้ามากกว่าภาวะ LGIH อาจทำให้มี Melina
รวมทั้งมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือดหรือสีดำคล้ายกากกาแฟ หากมีเลือดออกปริมาณมากอาจมีอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หน้ามืด เป็นลม เหนื่อยง่าย
กรณีศึกษา
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 66 ปี มาด้วยอาการถ่ายอุจจาระสีแดง ไม่สามารถบอกปริมาณไม่ได้
ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเป็นเลือด ไม่มีอาการหน้ามืด ไม่ตาลาย ไม่ใจสั่น ไม่วิงเวียนศีรษะ
การรักษา
1.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและเลือด
เพื่อทดแทนสารน้ำที่สูญเสียไป
ใส่ทาง NG และล้างกระเพาะอาหารเพื่อดูว่ามีเลือดออกทางเดินอาหารส่วนต้นหรือไม่
ติดตามค่าHematocrit, Hemoglobin
ดูแลช่วยเหลือในการตรวจวินิจฉัย
โดยการส่งผู้ป่วยทำ gastroscopy, colonoscopy ตามการรักษาของแพทย์
จากกรณีศึกษา
1.ผู้ป่วยได้รับสารน้ำ Acetar 1,000 ml IV 120 ml/hr
2.แรกรับ Hematocrit, Hemoglobin (15/1/66)
Hct : 22.1%, Hb : 7.1 g/dL
ได้รับ PRC 2 u IV drip in 4 hr
พยาธิสภาพ
เกิดจากการยื่นของชั้นmucosaและsubmucosaออกผ่านชั้น muscularis propria โดยยื่นออกจากตำแหน่งvasa ractaแทงทะลุผ่านเกิดbleeding diverticulumที่เกิดจากvasa racta ที่บริเวณdiverticulumได้รับบาดเจ็บทำให้เกิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือดดังกล่าง คือintima hyperplasia ร่วมกับmedia thinning เกิดการอ่อนแอผนังเส้นเลือดทำให้เกิดภาวะเลือดออกเข้าไปที่lumen ของdiverticulum
สาเหตุ
สาเหตุอื่น
การรับประทานยาแก้ปวด การรับประทานอาหาร ความเครียด และการดื่มแอลกอฮอล์
ริดสีดวงทวารหรือการโป่งพองของเส้นเลือด
เกิดเส้นเลือดดำที่ปลายสุดลำไส้และทวารหนักโปร่งพองมีการยื่นออก เกิดจากการฉีดขาด แตกออก มีเลือดทำให้มีอาการถ่ายเป็นเลือด
เนื้องอก(Neoplasm)
ทำให้เยื่อบุในระบบทางเดินอาหารบางลงและมีเลือดออกได้
โรคที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร
ประกอบไปด้วยโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง(ulcerative colitis) ซึ่งเป็นการอักเสบที่เยื่อบุผิวบริเวณลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง และโรคโครห์นที่เป็นการอักเสบของเยื่อบุในระบบทางเดินอาหาร
โรคถุงผนังลำไส้อักเสบ (Diverticulitis)
เป็นการอักเสบหรือติดเชื้อของกระเปาะที่โปร่งออกผิดปกติของเยื่อบุลำไส้ใหญ่ จึงอาจส่งผลให้มีเลือดออก
กรณีศึกษา
ผู้ป่วยมีการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด
แผลรอยแยกขอบทวารหนัก (Anal Fissure)
มีการฉีกขาดที่กล้ามเนื้อบริเวณหูรูดมักเกิดจากการท้องผูกหรืออุจจาระแข็ง
การวินิจฉัย
1. การซักประวัติ
สุขภาพและโรคประจำตัว ภาวะเลือดออกง่ายประวัติการใช้ยาที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น aspirin และ NSAID, anticoagulant, antiplatelet, anticoagulant, antiplatelet
ลักษณะของเลือดในอุจจาระจำนวนที่ออกแต่ละครั้งจำนวนครั้ง มีหรือไม่มีมูกหรือมีหนองปน เลือดติดอยู่บนผิวอุจจาระ การถ่ายอุจจาระ ท้องผูกท้องเสีย ถ่ายเละหรือถ่ายแข็ง จำนวนครั้งต่อวัน อาการร่วม ท้องอืด ปวดมวนท้อง ปวดแสบที่ขอบทวาร
กรณีศึกษา
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 66 ปี มาด้วยอาการถ่ายอุจจาระสีแดง ไม่สามารถบอกปริมาณได้ ไม่มีคลื่นไส้
ไม่อาเจียนเป็นเลือด ไม่มีอาการหน้ามืด ไม่ตาลาย ไม่ใจสั่น ไม่วิงเวียนศีรษะ
U/D : HT, DM, DLP รักษาต่อเนื่องที่ รพ.พระปกเกล้า
แพ้ยา : Amlodipine มีอาการข้อเท้าบวม
2. การตรวจร่างกายทั่วไป
ตรวจภาวะการมีเลือดออกง่ายและโลหิตจาง มีไข้ ภาวะตับหรือไตวาย และตรวจความผิดปกติที่ช่องท้อง
เช่น อาการท้องอืด มีก้อนในท้อง ท้องกดเจ็บหรือเกร็งแข็ง
การตรวจลำไส้ใหญ่ทวารหนัก โดยการใช้มือสอดตรวจในทวารหนัก (PR)
กรณีศึกษา
ตรวจ PR พบ Brown feces
ตรวจร่างกายผู้ป่วยไม่มีอาการหน้ามืด ใจสั่น ริมฝีปากซีด หรือเยื่อบุตาซีด
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ**
เพื่อประเมินการทำงานของไตและความเข้มข้นของเลือด
กรณีศึกษา
ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (15/1/66)
BUN 24 mg/dL
Cr 0.81 mg/dL
WBC 16.40 10^3/uL
RBC 2.26 10^6/uL
Hb 7.1 g/dL
Hct 22.1%
NE 83.0%
LY 10.9%
MO 5.7%
EO 1%
การตรวจพิเศษ
ใส่ nasogastric tube และล้างกระเพาะด้วยน้ำเกลือ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่อาจมีอยู่
ในกระเพาะหรือลำไส้ส่วนต้น
Visceral angiography ช่วยให้เห็นความผิดปกติที่ทำให้เลือดออกและเห็นตำแหน่งที่เลือดออก Proctoscopy, sigmoidoscopy, Colonoscopy
นางสาวชลธิชา ตุมร
รหัส 6214991007