Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฎหมายการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผ…
กฎหมายการแพทย์และสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
ขอบเขตการประกอบวิชาชีพของพยาบาลตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
1.ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ ชั้น 1(จบ ป.ตรี สอบผ่าน 8 P) และชั้น2 ( ไม่จบป.ตรี แต่สอบผ่าน 8 P)
ผู้ที่วุฒิประกาศนียบัตรพนักงานอนามัย ,ประกาศนียบัตรเจ้าพนักงานสาธารณสุข (พนักงานอนามัย) ,ประกาศนียบัตรสาธารณสุขศาสตร์ ,ประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาลและผดุงครรภ์ ,ประกาศนียบัตรพนักงานสุขภาพชุมชน
กิจกรรมที่ได้รับหมาบหมายให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
อายุรกรรม
การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
การรักษาพยาบาลอย่างอื่น
การให้น้ำเกลือในผู้ป่วยท้องเสียอย่างรุนแรง
การฉีดเซรุ่มแก้พิษงู
การสวนปัสสาวะ
การล้างกระเพาะอาหารโดยใช้สายยาง ในรายที่สงสัยว่ารับประทานสารพิษ
ศัลยกรรม
ผ่าฝี
เย็บบาดแผลที่ไม่สาหัส
ชะล้าง ทำแผล ตกแต่งบาดแผล
ผ่าเอาสิ่งแปลกปลอม ในตำแหน่งที่ไม่เป็นอันตรายต่ออวัยวะ
ฉีดยาระงับความรู้สึกทางผิวหนัง
สูติ - นรีเวชกรรม
และ
การวางแผนครอบครัว
ทำคลอดในรายปกติ
การช่วยเหลือเบื้องต้นในรายที่มีการคลอดผิดปกติ แท้ง หรือหลังแท้ง
การฉีดยาคุม การจ่ายเม็ดคุมกำเนิด และการอบรมกำรุมกำเนิด
ปัจจุบันพยาบาล
การปฐมพยาบาล
เหตุฉุกเฉินวิกฤต
การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค
การเจาะโลหิตปลายนิ้ว หรือหลอดเลือดดำ (ในสถานที่และเวลา ในราชการเท่านั้น)
การใช้ยาสลบเฉพาะชนิด General anesthesia
การใช้ยาเพื่อประกอบวิชาชีพ
ยาสามัญประจำบ้านตามกฎหมาย
รายการยาสถานนีอนามัย
ยาสมุนไพรสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน
กฎหมายสถานพยาบาลที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ประเภทของสถานพยาบาล
สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ห้ามทำคลอด)
สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน
ไม่เกิน 30 เตียง
ผดุงครรภ์
ให้การบริการมารดาและทารกก่อนและหลังคลอด
ผู้ป่วยเรื้อรัง
การพยาบาล กายภาพบำบัด เวชกรรมทั่วไป หรือการประกอบโรคศิลปะอื่นๆ
มากกว่า 30 เตียง
มีบริการด้านเวชกรรม ด้านการพยาบาล เภสัชกรรม และด้านเทคนิคการแพทย์ เรียกว่า โรงพยาบาล
ลักษณะสถานพยาบาล
ควบคุมอาคารให้ถูกสุขลักษณะ
จัดให้มีชื่อสถานพยาบาล
รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการ และสิทธิของผู้ป่วย
บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
คุณสมบัติ
อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
มีถิ่นอยู่ในไทย
ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย วิกลจริต ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
ไม่เคยได้รับโทษจำคุก ยกเว้น กระทำโดยประมาท หรือลหุโทษ
ไม่เป็นโรค พิษสุราเรื้อรัง ติดยาเสพติด โรคติดร้ายแรง และโรคอื่นๆในระยะรุนแรง
หน้าที่
แสดงใบอนุญาต ( มาตรา 31 )
ชื่อสถานพยาบาล
รายการเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล
อัตราค่ารักษา ค่าบริการ และสิทธิของผู้ป่วย
จัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ทำหน้าที่ควบคุม ดูแลและรับผิดชอบ
ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล
คุณสมบัติ
ไม่เป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว 2 แห่ง และต้องเป็นผู้ดำเนินการประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนได้เพียงแห่งเดียว
สามารถควบคุมกิจกรรมสถานพยาบาลได้อย่างใกล้ชิด
มีเวลาปฏิบัติงานในสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนในเวลาราชการ
ผุ้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ หรืออื่นๆ
หน้าที่
ควบคุมดูแลไม่ให้ประวิชาชีพผิดประเภท
มิให้ผู้อื่น ที่มิใช้ผู้ประกอบวิชาชีพ ทำการประกอบวิชาชีพ
ควบคุมและดูแลให้ผุ้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติตามกฎหมายการวิชาชีพ
ควบคุมและดูแลไม่ให้มีการค้างคืน ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน
ควบคุมและดูแลสถานพยาบาล ให้ถูกสุขลักษณะ
หน้าที่ร่วมของผุ้รับใบอณุญาตและผู้ดำเนินการ
จัดให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานบริการตลอดเวลาทำกการ
จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องใช้ ยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น
จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล โดยต้องเก็บรักษาไว้ให้อยู่ ในสถานที่ตรวจสอบได้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่จัดทำ
ควบคุมและดูแลการประกอบกิจการสถานพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ควบคุมและดูแล ให้มีการช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยฉุกเฉิน
ควบคุมดูแล มิให้มีการใช้ หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้สถานพยาบาลประกอบกิจการผิดประเภท
ห้ามมิให้โฆษณา อันเป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินความจริง
อายุ และการต่อใบอนุญาต
ต้องยื่นคำขอก่อนใบอนุญาตหมดอายุ
ใบประกอบกิจการ ใช้ได้ถึงวันสิ้นปีปฏิทินของปีที่ 10 นับตั้งแต่ปีที่ออกใบอนุญาต
ใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล ใช้ได้ถึงวันสิ้นปีปฏิทินของปีที่ 2 นับตั้งแต่ออกใบอนุญาต
บทกำหนดโทษ
โทษ พรบ. สถานพยาบาล
ตักเตือน (49) เมื่อปฏิบัติไม่ถูกต้อง
ปิดสถานพยาบาล (50) เมื่อ ทำให้เกิดอันตราย
เพิกถอนใบอนุญาต (51)
ขาดคุณสมบัติ
ดำเนินการไม่ถูกต้อง
โทษทางอาญา
กฎหมายยาที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ประเภทของยา
ยาแผนปัจจุบัน
ยาแผนโบราณ
ยาควบคุมพิเศษ
ยาอันตราย
ยาสามัญประจำบ้าน 70 รายการ
ยาบรรจุเสร็จ
ยาแก้ท้องเสีย
ยาแก้แพ้
ยาแก้ไอ
ยาคุมกำเนิด
ยาถ่ายพยาธิ
ยาบรรเทาหวัด
ยาบรรเทาหอบหืด
ยาป้องกันอาการเมารถ และเรือ
ยารักษาไข้มาลาเลีย
ยารักษาโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
ยาลดความดันโลหิต
ยาใช้ภายนอก
ยาใช้เฉพาะที่
ยาสมุนไพร
การขออนุญาตและออกใบอนุญาตเกี่ยวกับยา
ห้ามมิให้มีผู้ใดผลิต ขาย นำเข้า หรือสั่งยาแผนปัจจุบันเข้าประเทศ
ยกเว้น
ได้รับอนุญาต จากเลขาธิการ อย. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด (4)
การผลิต นำเข้า สั่งยา ขายยาโดยกระทรวง ทบวง กรม ในหน้าที่ป้องกันหรือบำบัดโรค สภาการชาด ไทย และองค์การเภสัชกรรม
การผลิตยาตามใบสั่งยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบโรคศฺลปะ ที่สั่งให้ผู้ป่วยเฉพาะราย
การขายยาสมุนไพรที่ใช่ยาอันตราย และยาสามัญ
การขายยา ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ขายเฉพาะสำหรับของผู้ป่วยของตน
การนำยาติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักร ไม่เกินใช้เฉพาะตนในสามสิบวัน
คุณสมบัติของผู้ขออนุญาตขายยา
เป็นผู้มีฐานะพอที่จะดำเนินการได้
อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
อยู่ในประเทศไทย
ไม่เคยรับโทษจำคุก
ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไร้ความสามารถ หรือเสมือไร้ความสามารถ
ไม่เป็นโรคตามรัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ในราชกิจจานุเบกษา
มีสถานที่ขาย ตามกฎกระทรวง
ใช้ชื่อไม่ซ้ำ หรือคล้ายคลึงกับชื่อที่ใช้ในการประกิบพาณิชย์ของผู้รับอนุญาต
มีผู้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของใบอนุญาตแต่ละประเภท
ใบอนุญาตขายยาของพยาบาลวิชาชีพ
ขายเฉพาะยาบรรจุเสร็จ ที่ใช่ยาอันตรายกรือควบคุมพิเศษ
สามารถคุ้มกันลูกจ้างหรือตัวแทน เสมือนผู้รับอนุญาตกระทำเอง เว้นแต่การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย (14)
ใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาของปีที่ออกอนุญาต และต้องต่อใบอนุญาตก่อนหมดอายุ (17 วรรค 1)
หน้าที่ของผู้รับอนุญาตขายยา
ห้ามขายยานอกสถานที่ที่ระบุไว้ (19 วรรค 1) ไม่ตรงตามประเภทของใบอนุญาต(19 ววรค 2)
มีพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ในเวลาเปิดทำการ (22)
จัดให้มีป้าย ณ ที่เปิดเผยหน้าสถานที่ขายยา
ควบคุมการปฏิบัติเกี่ยวกับฉลากยา (25) และมิให้มีการแบ่งขายยาบรรจุเสร็จต่างไปจากสภาพเดิม
ห้ามขายยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสื่อมคุณภาพ ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หรือถูกยกเลิกตำรับยา และยาที่ยกเลิกเกิน 6 เดือน(72)
โทษตาม พรบ. ยา
พรบ. ยา
การพักใช้ใบอนุญาต เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายยา (95)
เพิกถอนใบอนุญาต เนื่องจากขาดคุณสมบัติ (96)
โทษทางอาญา
ขายหรือสั่งยา ไม่มีอาณุญาต ( จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท)
ขายยานอกสถานที่ ไม่ตรงตามประเภทใบอนุญาต (ปรับตั้งแต่ 2,000 - 5,000 บาท)
ไม่มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานที่ขายยา (ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิย5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ )(103)
จำหน่ายยาไม่ติดป้ายชื่อ (ระวางโทษปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท)(105)
กฎหมายโรคติดต่อที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
ความหมาย
โรคของคนหรือสัตว์สาเหตุจากการติดเชื้อโรค ซึ่งอาจถ่ายทอดจากคนหรือสัตว์ไปสุ่คนปกติ มีผลต่อสุขภาพ
ประเภท
โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
โรคติดต่อต้องแจ้งความ
โรคติดต่ออันตราย
อหิวาตกโรค
กาฬโรค
โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงหรือโรคซาร์ส (2546)
ไข้ทรพิษ
ไข้เหลือง
โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง
ความหมายของศัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
พาหะ
คน or สัตว์ที่มีเชื้อ ที่อาจติดต่ไปยังผู้อื่นได้
ผู้สัมผัสโรค
คนที่ใกล้ชิด คน สัตวื และ สิ่งของที่ติดโรค จนอาจติดโรค
ระยะฟักตัวของโรค
เวลาตั้งแต่เชื้อดรคเข้าสู่ร่างกาย จนถึง แสดงอาการป่วย
ระยะติดต่อของโรค
เวลาที่แพร่เชื่อโรค
แยกกัก
แยกผู้สัมผัส or พาหะออกจากผู้อื่น จนกระทั่งพ้นระยะติดต่อ
กักกัน
แยกผู้สัมผัส or พาหะออกจากผู้อื่น จนกระทั่งพ้นระยะฟักตัว or พ้นเป็นพาหะ
คุมไว้สังเกต
ควบคุมดูแลผู้สัมผัส or พาหะ ไม่กักกัน
ที่เอกเทศ
พนักงานกำหนดที่แยกกักกัน
คำสั่งเกี่ยวกับโรคติดต่ออันตราย
ตรวจรักษา หรือคุมไว้สังเกตคนหรือสัตว์ ที่ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย เป็นผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ
ให้คนหรือสัตว์รับการป้องกันตามวัน เวลา และสถานที่ที่กำหนด
ดำเนินการให้เจ้าของสถานที่ทำลายสิ่งใดๆ ที่เชื่อว่าเป็นสิ่งติดโรค
ำเนินการให้มีการป้องกัน กำจัดสัตว์หรือแมลงที่เป็นเหตุแห่งโรค
จัดการศพ หรือซากสัตว์ เพื่อป้องกันมิให้แพร่กระจายโรค
ห้ามผู้ใดเข้าไปในเขตโรคติดต่อ เว้นแต่ได้รับอนุญาต
รื้อถอน ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงตามความจำเป็น ซึ่งสถานที่หรือสิ่งใดๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค
ห้ามผู้ป่วยหรือมีเหตุสงสัยว่าป่วย ประกอบอาชีพใดๆ หรือเข้าไปในสถานศึกษา
ชุมชน หรือสถานที่อื่นใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสาธารณสุข
พยาบาลกับการควบคุมโรคติดต่อ
แจ้งความต่อเจ้าพนักงานสาธารณสุข หรือพนักงานเจ้าหน้าที่
เจ้าพนักงานสาธารณสุขดำเนินการปราบปราม และควบคุมโรคตามที่
กฎหมายให้อำนาจและหน้าที่ไว้
ประกาศชื่อโรคว่าโรคใดเป็นโรคติดต่อ หรือโรคติดต่ออันตราย
บทกำหนดโทษ
ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ฝ่าฝืนไม่แจ้งความโรคติดต่อ
ำสั่งเจ้าพนักงานที่ให้กักกันหรือคุมไว้สังเกตผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ
รับภูมิคุ้มกันโรค
จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานในการกำจัดโรค
ปรับปรุงสุขภิบาล
นำซากศพหรือสัตว์ไปตรวจ
กฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพยาบาล
แนวคิด
สิทธิของประชาชนชาวไทย ที่จะได้รับบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานอย่างเสมอภาค
จนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพที่รัฐจัดให้ คิดเป็นร้อยละ
97.92 ส่วนใหญ่เป็นผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UC) ร้อยละ 73.75
รัฐมีหน้าที่จัดและส่งเสริมการสาธารณสุขแก่ประชาชน
แก้ปัญหาความซ้ำซ้อนของระบบหลักประกันสุขภาพในอดีต และลดค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ
ป้องกันการล้มละลายจากการเจ็บป่วย
หลักการขอรับสิทธิและรับบริการสาธารณสุข
การรับสิทธิ
สัญชาติไทย มีเลข 13 หลัก
ไม่มีสวัสดิการอื่นๆ
ต้องการใช้สิทธิยื่นคำขอลงทะเบียนทำบัตรต่อหน่วยกงานงานรัฐที่กำหนด (6)
กรุงเทพ สำนักเขตใกล้บ้าน or ศูนย์บริการหลักประกัยสุขภาพ
ต่างจังหวัด สถานีอนามัย รพ.รัฐใกล้บ้าน or สสจ.
การขอรับริการสาธารณสุข
ทั่วไป
หน่วยบริการของตน เครือข่าย or หน่วยบริการอื่นที่หน่วยบริการประจำส่งต่อ
ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ฉุกเฉิน
ทุกสถานพยาบาล
การแพทย์
คุ้มครอง
ส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการควบคุมโรค
ค่าตรวจวินิจฉัยโรคตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
ค่าตรวจและรับฝากครรภ์
คลอดบุตรไม่เกิน 2 ครั้ง
ค่าบำบัดและบริการทางการแพทย์ ครอบคลุมการรักษา และการฟื้นฟูสมรรถภาพ จนสิ้นการรักษา
การรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย
การบำบัดและการบริการทางทันตกรรม
ค่ายา เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม อาหาร ห้องผุ้ป่วยสามัญ บริบาลทารกแรกเกิด และค่ารถพยาบาลหรือพาหนะรับส่งผู้ป่วย
ไม่คุ้มครอง
รักษาภาวะมีบุตรยากและการผสมเทียม
เปลี่ยนเพศ
เสริมความงาม
ตรวจวินิจฉัยและรักษาเกินความจำเป็น
การรักษาที่อยู่ระหว่างการทดลอง
การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
บาดเจ็บจากการประสบภัยจากรถ
ปลูกถ่ายอวัยวะ
กฎหมายสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพการพบาล
สิทธิและหน้าที่ด้านสุขภาพ
มีสิทธิในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ และมีหน้าที่ร่วมกับหน่วยงาน
รัฐในการดำเนินการให้เกิดสิ่งแวดล้อม (5)
สตรีต้องได้รับการสร้างเสริมและคุ้มครองสุขภาพทางเพศ (6 วรรค 1)
ขภาพของเด็ก คนพิการ คนสูงอายุ คนด้อยโอกาสในสังคมและกลุ่มคนต่างๆ ต้อง
ได้รับการสร้างเสริมและคุ้มครองอย่างสอดคล้องและเหมาะสม (6 วรรค 2)
ใดนำข้อมูลสุขภาพของบุคคลอื่นไปปิดเผย อันจะทำให้บุคคลเสียหาย ย่อมมีความผิด เว้นแต่บุคคล
ยินยอม หรือมีกฎหมายบัญญัติให้เปิดเผย (7)
โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (49)
ต้องบอกข้อมูลด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการอย่างเพียงพอ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ (8)
ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขประสงค์ จะให้ผู้ใช้บริการเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยต้องแจ้งให้
ผู้ใช้บริการทราบ จึงจะดำเนินการได้ ผู้ใช้บริการยกเลิกได้ทุกเมื่อ (1)
โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (49)
เมื่อมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลและวิธีป้องกันผลกระทบต่อ
สุขภาพให้แก่ประชาชน (10)
บุคคลมีสิทธิร้องและร่วมในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพจากนโยบายสาธารณะ (11)
บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุข ที่เป็นไปเพื่อยืดการ
ตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย (12)
ข้อดีทำหนังสือแสดงความต้องการครั้งสุดท้ายของชีวิต
สามารถแสดงความประสงค์ไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับวิธีการรักษาที่ตนปรารถนา
ยังได้รับการดูแลจากแพทย์ พยาบาล เพื่อให้รู้สึกสบาย บรรเทาความทรมาน
ไม่ต้องทรมานจากการรักษาที่ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
ช่วยลดความขัดแย้งของญาติ เกี่ยวกับวิธีการรักษาผู้ป่วย
ลดความกังวลของแพทย์ และพยาบาลในการรักษาผู้ป่วยระยะท้าย
ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และการใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็น
เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขปฏิบัติตามเจตนาของบุคคล มิให้ถือว่าเป็นความผิด (12 วรรค 3)
หลักการทำหนังสือแสดงความต้องการครั้งสุดท้ายของชีวิต
หากมีสติสัมปชัญญะดี แพทย์ควรอธิบาย ให้ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาทราบภาวะ
และความเป็นไปของโรค เพื่อขอคำยืนยันหรือปฏิเสธ
หากไม่มีสติสัมปชัญญะดีพอที่จะสื่อสาร ให้แพทย์อธิบายแก่บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ตัดสินใจแทน (surrogate) หรือญาติ ก่อนที่จะปฏิบัติตามหนังสือแสดงเจตนา
กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนา แพทย์ควรปรึกษา กับบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ตัดสินใจแทนหรือญาติ โดยคำนึงถึงเจตนาของผู้ทำหนังสือแสดงเจตนา
กรณีที่ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ ให้ดำเนินการตาม
หนังสือแสดงเจตนาได้ เมื่อผู้นั้นพ้นจากสภาพการตั้งครรภ์
กรณีที่ผู้ที่จะทำหนังสือมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
หรือญาติที่ให้การเลี้ยงดู
การทำหนังสือแสดงเจตนาในสถานบริการสาธารณสุข ควรมีพยานรู้เห็นในขณะทำ
หนังสือแสดงเจตนาทั้งสองฝ่าย
ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาจัดเก็บต้นฉบับหนังสือแสดงเจตนา หรือมอบให้บุคคลที่ใกล้ชิดเก็บ และมอบสำเนาหนังสือให้แก่ญาติ พยาน ผู้ที่ทำหน้าที่อธิบายความ
ประสงค์ของผู้ทำหนังสือ หรือแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อให้ทราบความประสงค์
ระบุประเภทของบริการสาธารณสุขที่ไม่ต้องการจะรับ อาทิ "ข้าพเจ้าขอปฏิเสธการรักษาดังต่อไปนี้
(เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)
ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนา มิได้เขียนหนังสือแสดงเจตนาด้วยตนเอง ให้ระบุชื่อผู้เขียนหรือผู้พิมพ์หนังสือ
แสดงเจตนาด้วย
ลายมือชื่อหรือลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำหนังสือแสดงเจตนา ลายมือชื่อของพยาน และผู้เขียนหรือผู้พิมพ์
เปลี่ยนแปลงหนังสือแสดงเจตนาได้ตลอดเวลา ในกรณีมีหนังสือแสดงเจตนาหลายฉบับ ให้ถือฉบับที่ทำ
ครั้งสุดท้ายเป็นฉบับที่มีผลบังคับ
ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็ก แพทย์ พยาบาลต้องให้ข้อมูล อธิบายผลการตัดสินใจให้เด็ก & ผู้ปกครอง
เข้าใจ และให้ผู้ปกครอง หรือญาติมีส่วนร่วมในการปรึกษา หารือ และตัดสินใจร่วมกับแพทย์
สามารถระบุชื่อบุคคลใกล้ชิด เพื่อทำหน้าที่ตัดสินใจตามความประสงค์ของผู้ทำหนังสือแสดงเจตนา เช่น "ข้าพเจ้าขอมอบหมายให้ (ชื่อ นามสกุล ในฐานะบุคคลใกล้ชิด เป็นผู้แสดงเจตนาแทน เพื่อทำหน้าที่ตัดสินใจตามความประสงค์ของข้าพเจ้า"
หนังสือแสดงเจตนาอาจระบุรายละเอียดอื่นๆ เช่น "ข้าพเจ้ามีความประสงค์ที่จะได้รับการดูแลรักษา เพื่อบรรเทาอาการทุกข์ทรมาน โดยขอให้สถานพยาบาลอำนวยความสะดวกตามความเหมาะสม ได้แก่ เสียชีวิตที่บ้าน การเยียวยาทางจิตใจอื่นๆ (เช่น การสวดมนต์ การเทศนาของนักบวช)