Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ - Coggle Diagram
เวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์
พระเวสสันดรทรงลาผนวช ทรงสั่งลาพระอาศรม รับเครื่องทรงกษัตริย์ แล้วเสด็จกลับไปครองเมืองสีพี พระเวสสันดรเสด็จขึ้นครองราชย์ครองแผ่นดิน
ทำให้ไพร่ฟ้าเสนาอำมาตย์มีสุขสงบกันทั่วทั้งแคว้น ชาวเมืองยึดมั่นในศีล บำเพ็ญกุศลตามสัตย์อธิษฐานของพระเวสสันดร
กษัตริย์เมืองกลิงคราฐ ก็นำช้างปัจจัยนาเคนทร์มาถวายคืน เพราะบ้านเมืองมีฝนตกต้องตามฤดูกาลแล้ว พระเวสสันดรทรงอยู่ในทศพิธราชธรรม
และยังคงทรงบริจาคทาน จนพระชนมายุได้ ๑๒๐ พรรษาจึงสวรรคต แล้วจุติอุบัติเป็นท้าวสันดุสิตเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นดุสิต
-
เริ่มตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แล้วเสด็จไปเทศนาโปรดพระเจ้าพิมพิสาร ต่อจากนั้นเสด็จไปโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์
เกิดฝนโบกขรพรรษ พระสงฆ์สาวกกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงเรื่องมหาเวสสันดรชาดก เริ่มตั้งแต่เมื่อกัปที่ 98 นับแต่ปัจจุบัน
-
-
ชูชกทูลขอสองกุมาร พระเวสสันดรก็ได้มอบให้ แต่ขอให้ชูชกรอมัทรีให้แม่ลูกได้ร่ำลากันก่อน ชูชกไม่ยอม ด้วยเกรงว่านางมัทรีจะไม่ยกสองกุมารให้ตน ก่อนชูชกจะพาสองกุมารจากไป
พระเวสสันดรได้ตั้งราคาค่าตัวสองกุมารว่า ถ้าใครจะไถ่ตัวกัณหาชาลีไป ต้องให้ ทาส ทาสี ช้าง ม้า โคนม ทองคำ สิ่งละ 100 จากนั้น
ชูชกได้ใช้เถาวัลย์มัดข้อมือสองกุมาร ลากจูงพาออกไป สองกุมารขัดขืน ก็ใช้ไม้โบยตี สองกุมารได้รับความลำบากเป็นอันมาก
-
พระเจ้ากรุงสญชัย พระนางผุสดี พระชาลี พระกัณหา เสด็จไปทูลเชิญพระเวสสันดร พระนางมัทรีกลับพระนคร เมื่อกษัตริย์ทั้งหกพระองค์ทรงพบกัน
-
ต่อมาพระอินทร์บันดาลให้ฝนโบกขรพรรษตกลงมา ทุกคนจึงฟื้นคืนสติ และขอให้พระเวสสันดรลาผนวช กลับไปครองราชสมบัติสืบไป
ได้พระราชทานช้างปัจจัยนาเคนทร์แก่กษัตริย์แคว้นกลิงคราชฎร์ ประชาชนไม่พอใจ พระเวสสันดรจึงถูกพระราชบิดาเนรเทศไปอยู่ป่าหิมพานต์
เวสสันดรทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าสัญชัยกับพระนางผุสดี แห่งแคว้นสีวีราษฎร์ ประสูติที่ตรอกพ่อค้า ยินดีในการบริจาคทาน เมื่อพระเวสสันดรได้รับราชสมบัติจากพระบิดา
ก่อนเสด็จไปอยู่ป่า พระเวสสันดรได้พระราชทานสัตตสตกมหาทาน คือช้าง ม้า รถม้า ทาสชาย ทาสหญิง โคนม นางสนม และอาภรณ์ อย่างละ 700
ขณะนั่งรถเดินทางเข้าป่า ก็ได้พระราชทานรถ ม้า แก่ผู้มาขอจนหมดสิ้น สุดท้ายพระเวสสันดร พระนางมัทรี ชาลี กัณหา ต้องเดินเท้าเข้าป่า
ชูชก พราหมณ์ผู้มีอาชีพขอทาน ได้นางอมิตตาบุตรสาวของเพื่อนเป็นภรรยา นางใช้ให้ชูชกไปขอสองกุมาร ชูชกเดินทางไปสืบข่าวในแคว้นสีวีราษฎร์
สามารถหลบหลีกการทำร้ายของชาวเมือง เดินทางไปเขาวงกตจนพบสุนัขของพรานเจตบุตรผู้คอยเฝ้าอารักขาอยู่ปากทางเข้าป่าหิมะพานต์ ฝูงสุนัขไล่กัดชูชก จนชูชกหนีขึ้นไปหลบบนต้นไม้
อานิสงส์
พรานเจตบุตร เห็นท่าไม่ดี เกรงพราหมณ์เฒ่าจะเข้าไปรบกวนพระเวสสันดร จึงยกหน้าไม้จะยิงชูชกให้ตาย แต่ชูชกหลอกลวงพรานเจตบุตรให้บอกทางไปเขาวงกต
ว่าตนเป็นราชทูตของพระเจ้ากรุงสญชัย กำลังจะเข้าไปเชิญพระเวสสันดรกลับเมือง เพราะพระเจ้ากรุงสญชัยทรงอภัยโทษแล้ว พรานเจตบุตรหลงเชื่อ จึงบอกทางและมอบเสบียงทางให้อีกด้วย
เฒ่าชูชกเดินทางไปตามคำบอกของพรานเจตบุตร พบฤาษีอัตจุตก็เล่าความเท็จอีก ฤาษีจึงชี้ทางไปอาศรมของพระเวสสันดร เมื่อไปถึงเป็นเวลาพลบค่ำ
เฒ่าชูชกก็ซ่อนตัวบนชะง่อนเขาด้วยคิดว่า ต้องรอรุ่งเช้าให้พระนางมัทรีออกไปหาผลไม้ เพราะนางคงไม่ยอมยกลูกให้ใครแน่
พระอินทร์เกรงว่าหากมีผู้มาขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็จะบริจาคเป็นทาน พระอินทร์ไม่อยากให้พระนางมัทรีตกไปเป็นภรรยาของผู้อื่น จึงแปลงเป็นพราหมณ์ชรามาทูลขอพระนางมัทรี
เมื่อพระเวสสันดรมอบให้ตนแล้ว ก็ไม่เอาไป ได้ถวายคืนแก่พระเวสสันดร โดยห้ามพระองค์ประทานนางแก่ผู้ใดอีก ก่อนจากไปพระอินทร์ได้ประทานพรให้พระเวสสันดร 8 ประการ
- ขอให้พระบิดามีพระเมตตาเสด็จออกมารับพระองค์กลับเข้าไปครองราชย์สมบัติในพระนครสีพี
- ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษจากเรือนจำทั้งมวล
- ขอให้ได้อนุเคราะห์คนยากจนในแว่นแคว้นให้บริบูรณ์ด้วยสรรพโภคสมบัติ
- ขออย่าให้ลุอำนาจสตรี ล่วงภรรยาผู้อื่น ให้พอใจเฉพาะในชายาของพระองค์เท่านั้น
- ขอให้พระโอรสทั้งสอง คือพระชาลีกุมารและกัณหากุมารี มีชนมายุยืน และได้เป็นพระมหากษัตริย์สืบราชสมบัติต่อไป
- ขอให้ฝนแก้ว ๗ ประการ ตกลงในเมืองสีพี ขณะเมื่อพระองค์ไปถึงพระนคร
- ขอให้สมบัติในท้องพระคลังอย่ารู้หมดสิ้นในเวลาบริจาคแก่ยาจกทั่วเมือง
- เมื่อทิวงคตแล้ว ขอให้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อจุติลงมาเป็นมนุษย์ ให้ได้บรรลุพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ
ชูชกโบยตี ลากจูงชาลี กัณหาเดินทางออกจากป่าหิมพานต์ จนไปถึงทางสองแพร่ง ซึ่งเป็นทางไปเมืองกลิงคราฐและเมืองสีพี ชูชกหลงเลือกทางไปเมืองสีพี เดินทางไปถึงในตัวเมือง
พวกข้าหลวงจำชาลี กัณหาได้ จึงจับชูชกพาไปเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสญชัย พระเจ้ากรุงสญชัยได้ไถ่สองกุมาร และพระราชทานอาหารเลี้ยงชูชกมากมาย ชูชกกินมากเกินไป อาหารไม่ย่อยและถึงแก่กรรม
พระเวสสันดรทรงพระนางมัทรีและพระชาลี ( โอรส ) พระกัณหา (ธิดา ) เสด็จจากเมืองผ่านแคว้นเจตราษฎร์ จนเสด็จถึงเขาวงกตในป่าหิมพานต์ และพักอาศัยอยู่ที่นั่น ในอาศรมซึ่งพระอินทร์มาเนรมิตไว้ให้
พระนางมัทรีเสด็จกลับจากหาผลไม้ในป่า ไม่เห็นสองกุมาร ได้ร้องเรียกติดตามหาก็ไม่พบ พระนางถึงกับสลบ ต่อพระพักตร์พระเวสสันดร เมื่อทรงฟื้นแล้วพระเวสสันดรตรัสเล่าความจริงเกี่ยวกับสองพระกุมาร พระนางทรงอนุโมททนาปุตตทานด้วย