Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่2 แรงจูงใจในการทำงาน🏆💰💵✨ - Coggle Diagram
บทที่2 แรงจูงใจในการทำงาน🏆💰💵✨
ความหมายของการจูงใจ
การจูงใจเป็นกระบวนการที่บุคคลถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้า โดยจงใจให้กระทำหรือดิ้นรนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ความสำคัญของการจูงใจในการทำงาน
การจูงใจช่วยเพิ่มพลังในการทำงานให้บุคคล
พลัง
เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อพฤติกรรมการทำงาน
การจูงใจช่วยเพิ่มความพยายามในการทำงานให้บุคคล
ความพยายาม
ทำให้บุคคลมีความมานะ อดทน
การจูงใจช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานของบุคคล
การเปลี่ยนแปลง
ก่อให้เกิดการค้นพบช่องทางดำเนินงานที่ดีกว่าหรือประสบผลสำเร็จมากกว่า
การจูงใจในการทำงานช่วยเสริมสร้างคุณค่าของความเป็นคนที่สมบูรณ์ให้บุคคล
จรรยาบรรณในการทำงาน
ผู้มีจรรยาบรรณในการทำงานจะเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบ
ลักษณะของแรงจูงใจ
แรงจูงใจภายใน (Intrinsic Motives)
่เป็นสิ่งที่ผลักดันจากภายในตัวบุคคล
เจตคติ
ความคิดเห็น
ความสนใจ ความตั้งใจ
แรงจูงใจภายนอก (Extrinsic Motives)
เป็นสิ่ิงที่ผลักดันภายนอกตัวบุคคลที่มากระตุ้นพฤติกรรม
การได้รับรางวัล
คำชม
ที่มาของแรงจูงใจ
ความต้องการ
แรงผลักดันแสดงพฤติกรรมเพื่อสร้างสมดุลให้ตัวเอง
ความต้องการทางกา่ย
ความต้องการทางสังคมหรือความต้องการทางจิตใจ
แรงขับ
แรงผลักดันที่เกิดจากความต้องการทางกาย ซึ่งความต้องการและแรงขับจะเกิดควบคู่กัน
สิ่งล่อใจ
สิ่งที่ชักนำบุคคลให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้
การตื่นตัว
สมองพร้อมที่จะคิด กล้ามเนื้อพร้อมที่จะเคลื่อนไหว
การคาดหวัง
การตั้งความปรารถนาหรือการพยากรณ์ล่วงหน้า
การตั้งเป้าหมาย
การกำหนดทิศทางและจุดมุ่งหมายปลายทางของการกระทำกิจกรรม
ทฤษฎีและการศึกษาเรื่องแรงจูงใจ
ทฤษฎีที่เกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการ
อับราฮัม มาสโลว์
1.ความต้องการทางสรีระ
2.ความต้องการความปลอดภัย
3.ความต้องการความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
4.ความต้องการนิยมนับถือตนเอง
5.ความต้องการพัฒนาศักยภาพของตนเอง
ทฤษฎีสองปัจจัย
เฮิร์สเบิร์ก
ปัจจัยที่ให้เกิดความพอใจมนการทำงาน
ปัจจุยจูงใจ (Motivator)
ปัจจัยทำให้เกิดความไม่พอใจในการทำงาน
ปัจจัยอนามัย (Hygiene)
ทฤษฎี ERG
เคลตัน แอลเดอร์เฟอร์
1.ความต้องการมีชีวิตอยู่ (Existence Needs)
2.ความต้องการที่จะมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น (Relatedness Needs)
3.ความต้องการที่จะเจริญงอกงาม (Growth Needs)
ทฤษฎีเกี่ยวกับแรงจูงใจใฝ่อำนาจ ใฝ่สัมฟทธิ์ ใฝ่สัมพันธ์
โมเดลที่นำเอามาเป็นพื้นฐานในการอธิบายแรงจูงใจทั้ง3
A=M x E x I
แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ (nAch) คือความต้องการความสำเร็จที่จะแข่งขันเอาชนะเกณฑ์มตรฐาน
แรงจูงใจใฝ่อำนาจ (nPow) คือความต้องการที่จะมีอิทธิพลเหนือผู้อื่น
แรงจูงใจใฝ่สัมพันธ์ คือความต้องการควบอบอุ่นจากการมีีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น
ทฤษฎีการเสริมแรง
กรณีแรก
ผลการกระทำจากอดีตมีผลทำให้บุคคลเกิดความพึงพอใจ
กรณีที่สอง
ผลกรรมที่ไม่พึงพอใจจากพฤติกรรมในอดีตทำให้บุคคลไม่อยากแสดงพฤติกรรมเช่นนี้
แบบกำหนดการให้แรงเสริม
1.แบบได้รับแรงเสริมทุกครั้งที่กระทำพฤติกรรม
2.แบบได้รับแรงเสริมบางครั้ง
แบบอัตราการให้แรงเสริมคงที่
แบบช่วงเวลาการให้แรงเสริมคงที่
แบบอัตราการให้แรงเสริมแปรเปลี่ยนได้
แบบช่วงเวลาการให้แรงเสริมแปรเปลี่ยนได้
ทฤษฎีแห่งการคาดหวัง
การคาดหวังว่าถ้าพยายามทำแล้วจะทำได้
การคาดหวังว่ากระทำแล้วจะได้ผลลัพธ์
ค่าของผลลัพธ์
การประยุกต์ทฤษฎีการคาดหวังในองค์กร
ทฤษฎียุติธรรม
เจ.สเตซี อดัมส์ ได้เขียนรูปฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์
ทฤษฎีการตั้งเป้าหมาย
ล็อคและคณะทำการวิจัยเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมาย
ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
ตั้งเป้าหมายที่ยากแก่การบรรลุ แต่มีความเป็นไปไ้
การให้ผู้ร่วมงานมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมาย
การให้ข้อมูลFeedback แก่การบรรลุเป้าหมาย
ทฤษฎีแรงจูงใจภายนอกปละภายใน
แรงจูงใจภายใน
เกิดขึ้นภายในตนเอง
แรงจูงใจภายนอก
เกิดขึ้นเนื่องจากได้รับสิ่งจูงใจจากภายนอกตัวเรา
แนวทางการประยุกต์ใช้ในชีวิต
แรงจูงใจเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของการทำงาน
เมื่อใช้รางวัลเป็นสิ่งจูงใจ อย่าลืมสื่อสารบอกข้อมูลให้เขารู้
ทฤษฎีความต้องการตามลำดับขั้นช่วยให้ได้ข้อคิดในการเลือกเป้าหมายในอาชีพ
ความพยายามทุ่มเททำงานจะทำให้ทำงานได้สำเร็จ
คนเรามีการรับรู้ความยุติธรรมในการทำงาน
ต้องตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน