Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ประวัติของความเป็นท้องถิ่นศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี - Coggle Diagram
ประวัติของความเป็นท้องถิ่นศึกษา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ประวัติสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี แปลว่า "เมืองของคนดี" ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดให้ย้ายที่ทำการมณฑลชุมพร มาตั้งที่บ้านดอน บริเวณศาลเมืองไชยา
โปรดให้เปลี่ยนชื่อ "มณฑลชุมพร" เป็น "มณฑลสุราษฎร์"
เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา เป็นเมือง สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558
สมัยก่อนประวัติศาสตร์ 3,500 ปี
เมืองสุราษฎร์ธานี
ในสมัยต่างๆ
กรมศิลปากร ได้พบโบราณสถานและโบราณวัตถุ สมัยก่อนประวัติศาสตร์แสดงถึง
ร่องรอยแหล่งที่มีชุมชนโบราณอาศัยอยู่ ตามถ้ำและเพิงผา ที่ดำรงชีพด้วยการเก็บผลผลิตจากป่า การล่าสัตว์ป่ามาเป็นอาหาร รู้จักใช้เครื่องมือหินประกอบอาชีพ มีการติดต่อกับสังคมภายนอก
ชนเผ่า ซึ่งอยู่ในพื้นราบและใกล้ทะเล แหล่งพำนักที่สำคัญมีหลายแห่ง
แหล่งโบราณสถาน
ก่อนประวัติศาสตร์ ที่อื่นๆ
ตามที่โครงการโบราณคดีเชี่ยวหลานและโครงการโบราณคดีของกรมศิลปากรได้สำรวจและระบุไว้ว่า
ถ้ำพาชี ถ้ำเขาทะเล ถ้ำพ่อตา ถ้ำมะพร้าว ถ้ำพริก ถ้ำสิงขร อยู่ในเขต อำเภอคีรีรัฐนิคม
ถ้ำผึ้ง วัดถ้ำวราราม อำเภอพนม และในเขตอำเภอไชยา อยู่ในเขต อำเภอบ้านตาขุน
แหล่งประวัติศาสตร์ทั้งหลายเหล่านี้ พบโบราณวัตถุคล้ายๆกัน เช่น กระดูกมนุษย์และกระดูกสัตว์
ชิ้นส่วนเศษภาชนะดินเผา หม้อสามขา เครื่องมือหินขัด เป็นต้น
สันนิษฐานได้ว่าในสถานที่เหล่านี้มนุษย์เคยอาศัยอยู่ ประมาณ 6,000 ปีมาแล้ว
ซึ่งตรงกับสมัยก่อนประวัติศาสตร์
ชุมชนโบราณรอบอ่าวบ้านดอน
ดินแดนประวัติศาสตร์รอบอ่าวบ้านดอน ถือเป็นศูนย์กลางอาณาจักรศรีวิชัยที่สะสมอารยธรรมที่สืบทอดมายาวนาน
ประกอบด้วยชุมชนเมืองสำคัญๆ ในอดีต
จากหลักฐานทางโบราณคดี สภาพภูมิศาสตร์มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต และการพัฒนาของเมืองเป็นอย่างยิ่ง
สุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลางที่ถูกจัดตั้งด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์รอบอ่าวบ้านดอน เป็นศูนย์กลางทางการค้าขายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เมืองสุราษฎร์ธานี
สมัยกรุงศรีอยุธยา
มีราชทินนามว่า“ออกพระวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม”
มาเป็นเจ้าเมืองไชยามีบรรดาศักดิ์เป็นออกพระ
เมืองพัทลุงเมืองไชยาและเมืองชุมพร นางนายทหาร
จากเมืองเพชรบุรีมาเมืองนครศรีธรรมราชส่งขุน
มาปกครองได้ส่ง “พระพนมวังและนางสะเดียงทอง”
เมืองนครศรีธรรมราชได้ส่งข้าหลวงจากส่วนกลาง
พ.ศ.1998 กล่าวถึงเมืองขึ้นของอยุธยามี 4 เมือง คือ
ตำแหน่งนายทหารหัวเมือง เป็นกฎหมายที่ตราไว้ปี
(พ.ศ.1998-2031) อยุธยาได้กำหนดพระไอยการ
มีความจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูเมือง นครศรีธรรมราชและเมืองบริวารโดยด่วน อยุธยาได้ส่งเจ้านายมาปกครองเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนเจ้านายรองลงมาให้มาปกครองเมืองไชยา และเมืองท่าทอง ตามพงศาวดารเมืองเหนือกล่าวว่า“ส่งเจ้าอ้ายพระยาไปเมืองนครศรีธรรมราช” เมืองไชยานั้นยังถือเป็น เมืองบริวารของเมืองนครศรีธรรมราช และ อยู่ภายใต้อยุธยา
เมืองสุราษฎร์ธานี
สมัยกรุงธนบุรี
เมื่ออยุธยาแตกในปี พ.ศ. 2310 เมืองต่างๆตั้งตนเป็นอิสระรวบรวมกำลังผู้คนต่อสู้กับศัตรูเจ้าเมืองต่างก็
ประกาศตน เป็นเจ้า” ไม่ขึ้นต่อผู้ใด ซึ่งภายหลังเรียกกันว่า “ชุมนุม” บ้าง “ก๊ก” บ้าง มีทั้งหมด 5 ชุมนุมคือ
ชุมนุมพระเจ้าตาก ตั้งมั่นอยู่ที่เมืองจันทบุรี
ชุมนุมเจ้านคร ตั้งมั่นอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช
ชุมนุมเจ้าพระฝาง ตั้งมั่นอยู่ที่เมืองสวางคบุรีหรือเมืองฝาง
ชุมนุมเจ้าพิมาย ตั้งมั่นอยู่ที่เมืองพิมาย
ชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลก ตั้งมั่นอยู่ที่เมืองพิษณุโลก
ก่อนเสียกรุงศรีในปี พ.ศ2310 หลวงสิทธิ์ (หนู) ได้ตั้งตนอิสระเป็นเจ้านครศรีธรรมราช พระเจ้าตากสิน
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้หลวงนายศักดิ์ไปรบ มีการรับสมัครพวกจากเมืองปะทิว เมืองไชยา หลวงปลัดไชยาได้รับการเเต่งตั้งเป็นพระยาวิชิตภักดีศรีพิชัยสงคราม มีการตั้งรับทัพจากเจ้านครศรีธรรมราช แต่ทัพหลวงนายศักดิ์ก็สู้ไม่ได้
เมื่อพระเจ้าตากสินปราบพม่าหมดแล้ว ได้มีการตั้งกรุงธนบุรีเป็นราชธานี พยายามเกลี้ยกล่อมชุมนุม ต่างๆ ให้มาสวามิภักดิ์ แต่หัวหน้าชุมนุมไม่ยอม พระเจ้าตากสินจึงได้ส่งกองทัพไปปราบชุมนุมต่าง ๆ จึงรวมกันเป็นธนบุรีในที่สุด :red_flag: :explode:
สะพานข้ามแม่น้ำ ตาปีถูกระเบิด
สะพานจุลจอมเกล้า เป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำตาปี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เปิดใช้เมื่อ พ.ศ. 2458 เป็น
เส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญทางภาคใต้ ทหารญี่ปุ่นได้ใช้บริเวณเชิงสะพานแห่งนี้ เป็นจุดตั้งฐานทัพและกักกัน
เชลยศึกสงครามและบริเวณนั้นยังเป็นเส้นทางลำ เลียงพลไปสู่มลายู สิงคโปร์ และพม่าอีกด้วย
พ.ศ. 2486 ทหารฝ่ายสัมพันธมิตร ขณะนั้นมีเครื่องบิน บี-24, บี- 29 และบี 52 ใช้ในการ ทำ สงครามได้นำเครื่องบิน บี-24 บรรทุกระเบิดมาทิ้งทำลายสะพานแห่งนี้ แต่ผิดเป้าหมาย ระเบิดตก ลงข้าง ๆ สะพานเพียงแต่ชำรุด
สุราษฎร์ธานี สมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา
สถานการณ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางการทหารไทยรัฐบาล (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ได้เห็นความจำ เป็นที่จะต้องมีกำลังทหารไว้ที่สุราษฎร์ธานี ซึ่งในขณะทางราชการได้มีงานฉลองรัฐธรรมนูญขึ้นบริเวณริมแม่น้ำตาปี เกิดการต่อสู้กันระหว่างชาวบ้านและทหารญี่ปุ่น ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสีย
ซึ่งวีรบุรุษผู้กล้านั้นก็คือ คุณครูลำยอง วิศุภกาญจน์ ครูโรงเรียนสุราษฎร์ธานีที่ต่อสู้จนเสียชีวิต จนกระทั่งทางการได้สั่งหยุดยิงและให้ญี่ปุ่นผ่านทัพได้