Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความหมายและประโยชน์ของ "system thinking", สมาชิกในกลุ่ม …
ความหมายและประโยชน์ของ "system thinking"
ประโยชน์
ชีวิตประจำวัน
สามารถแก้ปัญหา ตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้เกิดความคิดเพื่อพัฒนาองค์กรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสานงานร่วมกับบุคคลอื่นให้เป็นไปตามกระบวนการ และระบบการบริหารงานภายใน
เพื่อให้มองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับระบบภายในองค์กร ซึ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบโดยการ เชื่อมโยงติดต่อกัน และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชีวิตทำงาน
ช่วยลดความผิดพลาด ประหยัดเวลาและต้นทุนในการทำงาน
เพื่อบรรลุเป้าหมายได้ดีกว่า ง่ายกว่า เร็วกว่า
สามารถวิเคราะห์เป้าหมาย-ปัญหา วางแผนงานและจัดการทรัพยากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมาย
คือ การคิดถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่มองภาพรวมอย่างเป็นระบบ มีส่วนประกอบย่อยๆ โดยอาศัยการคิดในรูปแบบโดยทางตรงและโดยทางอ้อม การคิดเชิงระบบจึงเป็นการคิดที่มีความเข้าใจเชื่อมโยง มีความเชื่อในทฤษฎีระบบเป็นพื้นฐาน คนปกติมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบในสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกที่สอดคล้องกับทฤษฎีระบบอยู่แล้ว เพียงแต่ความสามารถในการทำได้ดีในระดับที่แตกต่างกัน
โดยสรุปการคิดเชิงระบบ หมายถึง เป็นการคิดในภาพรวมที่เป็นระบบ และมีส่วนประกอบย่อย ๆ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงจากส่วนย่อยไปหาส่วนใหญ่ เป็นการคิดอย่างมีเหตุมีผล เน้นการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดเพื่อให้เกิดความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว
ความสำคัญของการคิดเชิงระบบ
การคิดเชิงระบบมีความสำคัญ ดังนี้
แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประสานงานร่วมกับบุคคลอื่นให้เป็นไปตามกระบวนการ และระบบการบริหารงานภายใน
เพื่อมองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับระบบภายในองค์กรอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงติดต่อกัน และสามารถแก้ไขสถานการณ์เอย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้เกิดความคิดเพื่อพัฒนาองค์กรในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถแก้ปัญหา ตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของการคิดเชิงระบบและการวิเคราะห์ปัญหาเชิงระบบ
ประเภทของการคิดเชิงระบบ
การคิดระบบโดยทางตรง
มุ่งกระทำโดยตรงมีเป้าหมายกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่จำแนก รูปแบบการคิดตามพื้นฐานของมนุษย์ แต่แยกรูปแบบการคิดโดยมุ่งที่เป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ โดยจำแนกออกเป็น 3 แบบ
2.การคิดเพื่อวิเคราะห์และประเมินหน่วยของระบบ
3.การคิดเพื่อออกแบบ และก่อตั้งหน่วยระบบ
1.การคิดเพื่อรู้เข้าใจหน่วยระบบ
การคิดระบบโดยทางอ้อม
คือ การคิดเชิงระบบโดยอาศัยพื้นฐานแห่งการคิด เช่น การวิเคราะห์ การอุปมา อุปมัย การคิดสังเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ การประเมินค่า ฯลฯ
การคิดเชิงระบบโดยทางอ้อม การคิดเป็นพฤติกรรมทางสมองที่สมองกระทำกับวัตถุความคิด (Object of thinking) ซึ่งเรียกว่า มโนมติ (Concept) มโนมติของคนเราอาจมีหลายมติ ซึ่งเกิดขึ้นจากประสบการณ์ และการคิดขึ้นเองจากโลกแห่งความ เป็นจริง หรือจินตนาการจากโลกมายาก็ได้
การวิเคราะห์ปัญหาเชิงระบบ(การแก้ปัญหาด้วยวิธีการเชิงระบบ)
หลักคิดการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนนั้นบางครั้งเราเรียกว่า การแก้ไขปัญหาเชิงระบบ ซึ่งเป็น กระบวนการในการแก้ปัญหาอย่างมีขั้นตอนที่สามารถใช้เป็นหลักการ ได้กับปัญหา ทุกปัญหาเราสามารถแยกเป็นขั้นตอนต่างๆ
การพัฒนาวิธีการแก้ปัญหา
ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่เลือกใช้
เลือกวิธีการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
นำวิธีการที่ออกแบบไปใช้ในการแก้ปัญหาและประเมินถึงผลที่ได้
การแยกแยะและทำความเข้าใจในปัญหา
สมาชิกในกลุ่ม
น.ส.สินิสทรา พัชนีย์ ปวส.1 บัญชี
น.ส.ธันยาพร เหล๊าะโต๊ะหมัน ปวส.1บัญชี