Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ image - Coggle Diagram

- - - -  ปัจจัยด้านประชำกร : เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา
      -  ปัจจัยด้านสังคมจิตวิทยา : เช่น บุคลิกภาพ กลุ่มเพื่อน ค่านิยม วัฒนธรรม
      -  ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน : ระบบบริการสุขภาพ
    - - การรับรู้ต่อโอกาสเสี่ยงของการเป็นโรค
      - การรับรู้ความรุนแรงของโรค
      - การรับรู้ประโยชน์ที่จะได้รับและค่าใช้จ่าย
      - แรงจูงใจด้านสุขภาพ
      - ปัจจัยร่วม
    - - การนำเอาแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพมาใช้ในการจัดกิจกรรม
- - - - 1. การสนับสนุนด้านอารมณ์ (Emotional support) พฤติกรรมซึ่งแสดงออกด้วยการรับฟังอย่างสนใจ แสดงความยกย่อง แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ
        
        2. การสนับสนุนด้านการประเมิน (Appraisal support) ได้แก่ การได้รับข้อมูลย้อนกลับ การได้
        รับคำรับรองซึ่งจะทำให้ผู้รับเกิดความพอใจ นำไปประเมินตนเอง และเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
        
        3. การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร (Information support) เป็นการได้รับ คำแนะนำ คำเตือน คำปรึกษา
        
        4. การสนับสนุนด้านการเงิน แรงงานและสิ่งของ (Instrumental support) ซึ่งเป็นพฤติกรรมการช่วยเหลือโดยตรงต่อความจำเป็นพื้นฐาน
      - ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม
        
        ➢แนวคิดนี้มีประโยชน์มากในการสร้างเครือข่ายเพื่อกาส่งเสริมสุขภาพ และการดูแลรักษาโรคเรื้อรัง
        
        กลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์
        
        กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน
        
        กลุ่มผู้สูงอายุ
        
        กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ
        
        สรุป
        
        แนวคิดนี้มีประโยชน์มากในการสร้างเครือข่ายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ และการดูแลรักษาโรคเรื้อรัง ปัจจุบันมีการรวมกลุ่มของผู้ที่มีปัญหาเหมือนกันขึ้นในชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ให้กำลังใจ ร่วมตัดสินใจหรือดูแลช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
- - - - ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ทางสังคม
        (Phase1 : Social Assessment)
        
        เป็นการพิจารณา และวิเคราะห์ “คุณภาพชีวิต”
        จุดประสงค์ของการประเมินในระยะนี้เพื่อค้นหาข้อมูล และประเมินปัญหาด้านสังคมที่ส่งผล
        กระทบต่อคุณภาพชีวิต (Quality of Life: QOL) ของประชากร เป้าหมาย
        
        ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์ทางระบาดวิทยา
        (Phase 2 : Epidemiological
        Assessment)
        
        การวิเคราะห์ทางระบาดวิทยาจะช่วยให้สามารถจัดเรียงลำดับความสำคัญของปัญหา เพื่อประโยชน์ในการวางแผน การดำเนินงานสุขศึกษาได้อย่างเหมาะสมต่อไป
        
        ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ด้านพฤติกรรม
        (Phase 3 : Behavioral Assessment)
        
        จะนำมาวิเคราะห์ต่อเพื่อหาสาเหตุที่
        เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเป็นสาเหตุอันเนื่องมาจากพฤติกรรมของบุคคลและสาเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
        พฤติกรรม เช่น สาเหตุจากพันธุกรรม หรือสภาวะเศรษฐกิจ เป็นต้น
        
        ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ทางการศึกษา
        (Phase 4 : Educational Assessment)
        
        ปัจจัยนำ (Predisposing Factors)
        เช่น ความรู้ ความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติ เป็นต้น
        
        ปัจจัยเอื้อ (Enabling Factors) คุณลักษณะของสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านกายภาพและสังคมวัฒนธรรม
        
        ปัจจัยเสริม (Reinforcing Factors) สิ่งที่บุคคลจะได้รับ หรือคาดว่าจะได้รับจากบุคคลอื่น อันเป็นผลจากการกระทำของตน
        
        1 more item...
- - - - 1.1 พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง
      - 1.2 ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ ปัจจัยด้านชีววิทยา ปัจจัยด้านจิตวิทยา ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม
      - 2. ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม
        (Behavior-Specific Cognition and Affect)
        
        การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม
        
        การรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรม
        
        การรับรู้ความสามารถของตนเอง
        
        ความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรม
        
        อิทธิพลระหว่างบุคคล
        
        อิทธิพลจากสถานการณ์
        
        3. พฤติกรรมผลลัพธ์ (Behavioral Outcome)
        
        ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพฤติกรรม
        
        ความจำเป็นอื่นและทางเลือกอื่นที่เกิดขึ้น
        
        พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ
- - - - สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
        
        เข้าถึงข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่เอื้อในการตัดสินใจได้อย่งเหมาะสม
        
        มีทางเลือกอย่างกว้างขวาง
        
        มีความสามรถในการคิดเชิงรุกเพื่อประกอบในการตัดสินใจ
        
        มีความคิดทางบวกและความสำมารถที่จะเปลี่ยนแปลง
        
        มีความสามารถในทักษะการเรียนรู้ที่จะพัฒนาพลัง
        อำนาจแห่งตนและของกลุ่ม
        
        1 more item...
      - ประเภทของการสร้างเสริมพลังอำนาจ
        
        1. การสร้างเสริมพลังอนาจเชิงจิตใจ
        
        ความหมาย สมรรถนะ ตัดสินใจด้วยตัวเอง
        ผลกระทบ
        
        2. การสร้างเสริมพลังอำนาจเชิงโครงสร้าง
        
        สรุป
        การสร้างเสริมพลังอำนาจเป็นกลไกที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจของแนวทางซึ่งหมายถึง “สร้าง” นำ “ซ่อม”
        การให้ความสำคัญกับการสร้งความแข็งแกร่งทางด้านสุขภาพองค์รวมา เพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บหรือปัญหาด้านสุขภาพองค์รวมที่ร้ยแรง
- - - - การใคร่ครวญผลต่อสังคมรอบข้าง เช่น นึกต่อไปว่ำถ้าตนเองดื่มแอลกอฮอล์จัดอยู่ ต่อไปลูกๆจะเป็นอย่างไร
        
        การปลดปล่อยตนเอง คือการพยายามให้มีทางเลือกในการเปลี่ยนแปลง เช่น ถ้าจะเลิกบุหรี่ ก็ให้เลือกได้สามทาง จะเลิกแบบหักดิบก็ได้ แบบกินนิโคตินทดแทนก็ได้ หรือเลิกแบบค่อยๆลดลงก็ได้ เป็นต้น
        
        ให้เรียนรู้สิ่งตรงกันข้าม เช่นให้เรียนรู้การ
        สนองตอบแบบผ่อนคลายเพื่อแก้ปัญหาเครียด
        
        จงใจใช้แผนกระตุ้น เช่น การตกรางวัลถ้า
        ทำสิ่งที่ดีกว่าการชื่นชมผลงาน
    - - การใคร่ครวญผลต่อตนเอง เช่นจินตนาการว่าถ้าเอาแต่นอนโซฟาดูทีวี ภาพของตนเองต่อไปจะเป็นอย่างไร
        
        การปลดปล่อยสังคม คืออาศัยควมารู้สึกว่าเป็นการปลดปล่อยจากการถูกกดขี่เอาเปรียบทางสังคมมา เป็นตัวสร้างความมุ่งมั่นในการ
        เปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
        
        บังคับให้ทำสิ่งที่ดีกว่าทางอ้อม เช่นสร้างที่จอดรถให้ห่างที่ทำงาน เพื่อบังคับให้ต้องเดิน
        
        กัลยาณมิตร เช่นการเป็นที่ปรึกษาทางโทรศัพท์ให้การมีบัดดี้คอยสนับสนุน