Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

กระดอส์ซิ่ง, โรคปอดบวมมักพบในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีภูมิต้านทานต่ำ…

- - - - โรคหัวใจและหลอดเลือด
      - สารพิษในบุหรี่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ และทำให้เส้นเลือดแดงตีบแคบ รวมถึงเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจหยุดพัก และขณะออกกำลังกาย
      - แม้สูบบุหรี่เพียงไม่กี่มวนต่อวัน ก็ส่งผลให้หัวใจและหลอดเลือดเสียหาย จากการศึกษาพบว่าผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจประมาณ 20% มีความเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่โดยตรง โดยเฉพาะผู้ที่ทานยาคุมกำเนิดหรือเป็นโรคเบาหวาน หากสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
    - - โรคเบาหวาน
      - จากงานวิจัยของศูนย์การแพทย์ทางทหารเบอร์มิ่งแฮม (Birmingham) รัฐอลาบามา พบว่าอาสาสมัคร 22% ของกลุ่มคนที่สูบบุหรี่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดโรคเบาหวาน และ 17% ของกลุ่มอาสาสมัครที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย แต่ได้รับควันบุหรี่เสมอๆ เริ่มจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่เคยสูบบุหรี่ และเลิกสูบไปแล้วกลับมีแค่เพียง 14% ส่วนกลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่และไม่ได้รับควันสูบบุหรี่เลย มีเพียง 11.5%
      - จากผลการวิจัยนี้เองทำให้เห็นว่าบุหรี่และควันบุหรี่มีผลต่อน้ำตาลในเลือดและโรคเบาหวาน เนื่องจากสารพิษในบุหรี่ สามารถเข้าไปสะสมอยู่ที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนทำงานได้น้อยลง จนเกิดเป็นโรคเบาหวาน
      - นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่สูบบุหรี่มีแนวโน้มควบคุมโรคได้ยากและเกิดปัญหากับการใช้อินซูลินมากกว่าผู้ป่วยที่ไม่สูบบุหรี่ รวมถึงเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคไต ปลายประสาทอักเสบ และเบาหวานขึ้นตา แพทย์จึงมักแนะนำให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่ รับประทานอาหารไขมันต่ำ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงรับประทานยาและพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
      - นอกจากโรค ที่เกิดจากการสูบบุหรี่แล้ว โทษของบุหรี่ยังมีอีกมากมาย ส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางร่างกายต่างๆ เช่น ฟันผุ ฟันมีคราบดำ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว เล็บเหลือง ทำให้ผิวหยาบกร้าน ผมหงอก และแก่ก่อนวัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตประจำวัน จนอาจต้องประสบกับภาวะซึมเศร้า หรือประสบกับโรคที่อาจคร่าชีวิตได้ในที่สุด
- - - - 2.ช่วงการเรียนรู้
      - บางทีอันตรายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าของมือใหม่ คือ การซื้อสินค้าที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง บ่อยครั้งมือใหม่มักจะเกิดความสับสน หงุดหงิด เสียใจที่พยายามจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลิกบุหรี่แต่ไม่สามารถทำได้
      - เพราะสูบแล้วไม่อิ่ม หรือ ใช้งานแล้วไม่ถูกใจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดเยอะ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ยอดนิยม หรือ ขายดี
      - 3.ความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้น
        
        เป็นความจริงที่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องใหม่เกินไปที่เราจะเข้าใจทุกความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าคุณใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกสูบบุหรี่มวน แน่นอนว่าอย่างน้อยๆก็จะมีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนอย่างมากแน่นอน
        
        ทั้งนี้ทั้งนั้นบุหรี่ไฟฟ้าก็ยังมีสารนิโคตินอยู่ ถ้าหากเราใช้มากเกินไปก็อาจจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพได้
      - 4.ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจจะถูกมองว่าเป็นผู้ใช้สูบบุหรี่มวน
        
        เป็นเวลาเกือบ 60 ปี ที่การควบคุมการใช้ยาสูบมุ่งเน้นไปที่การทำให้ดูเหมือนเป็นปกติ ซึ่งนั่นเป็นเพียงแค่คำพูดที่ทำให้ดูดีสำหรับการตีตราผู้สูบบุหรี่
        
        และการสูบบุหรี่ไฟฟ้าบางครั้งก็ถูกมองว่าเป็นอันตราย เช่นกัน เพราะว่าบุหรี่ไฟฟ้านั้นดูเหมือนกับการสูบบุหรี่มวน
        
        5.การสูบบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นปัญหาของเยาวชน
        เนื่องจากข่าวของการ ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่น ผู้สูบอาจจะมีอายุไม่ถึงเกณฑ์ตามกฏหมาย คือ 21 ปี และบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ยังไม่ถูกกฏหมาย จึงทำให้ตรงนี้เป็นช่องโหว่และยากต่อการตรวจสอบผู้มาสั่งซื้อสินค้า
        
        6.ข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับนิโคติน
        
        นิโคตินอาจถูกเข้าใจผิดพอๆกับยาชนิดอื่นๆในโลก นิโคตินนั้นเป็นเพียงสารกระตุ้นที่ไม่รุนแรง ซึ่งมีผลคล้ายกับคาเฟอีน แต่เนื่องจากประวัติของมันถูกเชื่อมโยงกับบุหรี่มวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
        
        นั่นจึงทำให้นิโคตินมีชื่อเสียงในทางที่แย่มาก ซึ่งความจริงแล้ว นิโคตินไม่ก่อให้เกิดมะเร็งหรือโรคหัวใจ