Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ - Coggle Diagram
บทที่ 2 ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ
แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ
(Health Belief Model : HBM)
ปัจจัยร่วม (Modifying Factors)
ปัจจัยด้านประชากร
อายุ
เชื้อชาติ
เพศ
ศาสนา
ปัจจัยด้านสังคมจิตวิทยา
บุคคลิกภาพ
กลุ่มเพื่อน
เกี่ยวข้องกับบรรทัดฐานทำงสังคม
ค่านิยม วัฒนธรรม
ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน
ระบบบริการสุภาพ
องค์ประกอบของแบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพ
การรับรู้ต่อโอกาสเสี่ยงของการเป็นโรค
ความเชื่อ หรือการคาดคะเนว่า ตนมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรค หรือปัญหาสุขภาพนั้นมากน้อยเพียงใด
การรับรู้ความรุนแรงของโรค
ความเชื่อที่บุคคลเป็นผู้ประเมินเองในด้านความรุนแรงของโรคที่มีต่อร่างกาย การก่อให้เกิดพิการ เสียชีวิต ความยากลำบากและการต้องใช้ระยะเวลานานในการรักษา
การรับรู้ประโยชน์ที่จะได้รับและค่าใช้จ่าย
บุคคลจะต้องมีความเชื่อว่า ค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นข้อเสีย หรืออุปสรรคของการปฏิบัติในการป้องกัน และรักษาโรคจะต้องมีน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับ
แรงจูงใจด้านสุขภาพ
ระดับความสนใจและความห่วงใยเกี่ยวกับสุขภาพ และการ
หลีกเลี่ยงจากการเจ็บป่วย
ปัจจัยร่วม
ปัจจัยที่มีส่วนช่วยส่งเสริม หรือเป็นอุปสรรคต่อการที่บุคคลจะปฏิบัติเพื่อการป้องกันโรค หรือการปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาโรค
ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม
(Social Support Theory)
แหล่งที่มาของการสนับสนุนทางสังคม
ระบบการสนับสนุนตามธรรมชาติ
ระบบสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อน
ระบบสนับสนุนด้านศาสนาหรือแหล่งอุปถัมภ์ต่างๆ
ระบบการสนับสนุนจากกลุ่มวิชาชีพด้าน
สุขภาพ
ระบบการสนับสนุนจากกลุ่มวิชาชีพอื่นๆ
ประเภทของการสนับสนุนทางสังคม
การสนับสนุนด้านอารมณ์ (Emotional support)
การสนับสนุนด้านการประเมิน (Appraisal support)
การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร (Information support)
การสนับสนุนด้านนการเงิน แรงงานและสิ่งของ (Instrumental support)
ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม
แนวคิดนี้มีประโยชน์มากในการสร้างเครือข่ายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ และการดูแลรักษาโรคเรื้อรัง
กลุ่มผู้ติดเชื้อเอดส์
กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน
กลุ่มผู้สูงอายุ
กลุ่มส่งเสริมสุขภาพ
กลุ่มแอร์โรบิค
กลุ่มวิ่ง
กลุ่มปั่นจักรยาน
กลุ่มปฏิบัติธรรม
PRECEDE-PROCEED Model
หมายถึง นโยบาย กฎระเบียบ และโครงสร้างของ
การพัฒนาการศึกษาและสิ่งแวดล้อม
P: Predisposing (แรงจูงใจ)
R: Reinforcing (ทำให้แข็งแกร่งขึ้น)
E: Enabling (ทำให้เป็นไปได้)
C: Causes (ทำให้เกิด)
E: Educational (การศึกษา)
D: Diagnosis (การหาสาเหต) ุ
E: Evaluation (การประเมินผล)
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ทางสังคม (Phase1 : Social Assessment)
ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์ทางระบาดวิทยา (Phase 2 : Epidemiological
Assessment)
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ด้านพฤติกรรม (Phase 3 : Behavioral Assessment)
ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ทางการศึกษา (Phase 4 : Educational Assessment)
ปัจจัยนำ (Predisposing Factors)
ปัจจัยเอื้อ (Enabling Factors)
ปัจจัยเสริม (Reinforcing Factors)
ขั้นตอนที่ 5 การวิเคราะห์ทางการบริหาร (Phase 5 : Administrative and
Policy Assessment)
ขั้นตอนที่ 6 การปฏิบัติการ (Phase 6 : Implementation)
ขั้นตอนที่ 7 การประเมินกระบวนการ (Phase 7 : Process Evaluation)
ขั้นตอนที่ 8 การประเมินผลกระทบ (Phase 8 : Impact Evaluation)
ขั้นตอนที่ 9 การประเมินผลลัพธ์ (Phase 9 : Outcome Evaluation)
แบบจำลองการส่งเสริมสุขภาพ
(Health Promotion Model : HPM)
มโนทัศน์หลักของแบบจำลอง
ลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ของบุคคล (Individual Characteristics and Experiences)
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง (Prior related behavior)
ปัจจัยส่วนบุคคล (Personal Factors)
ปัจจัยด้านชีววิทยา
ปัจจัยด้านจิตวิทยา
ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม
ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม (Behavior-Specific Cognition and Affect)
การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม (Perceived Benefits of Action)
การรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรม (Perceived Barriers to Action)
การรับรู้ความสามารถของตนเอง (PerceivedSelf-Ef ficacy)
ความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรม (Activity-Related Affect)
อิทธิพลรหว่างบุคคล (Interpersonal Influences)
อิทธิพลจากสถานการณ์ (Situational Influences)
พฤติกรรมผลลัพธ์ (Behavioral Outcome) ประกอบด้วย 3 อย่าง
ความจำเป็นอื่นและทางเลือกอื่นที่เกิดขึ้น (Immediate Competing Demands
and Preferences)
ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพฤติกรรม (Commitment to a Plan of Actions)
พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ (Health-Promoting Behavior)
การสร้างเสริมพลังอำนาจ
(Empowerment)
กระบวนการเสริมสร้างพลังอำนาจ ทำให้บุคคลเปลี่ยนแปลง
1.สามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
เข้าถึงข้อมูลและแหล่งข้อมูลที่เอื้อในการตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
มีทางเลือกอย่างกว้างขวาง
มีความสามารถในการคิดเชิงรุกเพื่อประกอบในการตัดสินใจ
มีความคิดทางบวกและความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง
มีความสามารถในทักษะการเรียนรู้ที่จะพัฒนาพลังอำนาจแห่งตนและของกลุ่ม
มีความสามารถที่จะปรับเปลี่ยนการรับรู้ของผู้อื่นโดยวิธีประชาธิปไตย
มีส่วนร่วมในกระบวนการการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยสิ้นสุด และมีการเริ่มต้นอยู่เสมอ
เพิ่มอัตมโนทัศน์ทางบกและสามารถเอาชนะจุดด้อยของตนได้
เพิ่มความสามารถแห่งตนในการคิดอย่างมีเหตุผลเพื่อแยกแยะความถูกผิดได้
ประเภทของการสร้างเสริมพลังอำนาจ
การสร้างเสริมพลังอำนาจเชิงโครงสร้าง (Structural Empowerment)
การสร้างเสริมพลังอำนาจเชิงจิตใจ (Psychological Empowerment)
แหล่งที่มาของอำนาจ
อำนาจที่เกิดจากตำแหน่งหรือหน้าที่
อำนาจที่เกิดจากการควบคุมทรัพยากรต่างๆ
อำนาจที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางสังคม
อำนาจที่เกิดจากความเชี่ยวชาญ
อำนาจที่เกิดจากการมีข้อมูล
อำนาจที่เกิดจากคุณสมบัติ หรือบุคลิกลักษณะส่วนตัว
ขั้นตอนของการสร้างเสริมพลังอำนาจ
holding มั่นใจที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
Taking charge ดำเนินการตัดสินใจเลือกวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสม
discovering reality การค้นพบความจริง
critical reflection การพิจารณาไตร่ตรอง สะท้อนคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
Trans theoretical Model Stage of Change : TTM
หลักกระบวนการช่วยเปลี่ยนแปลง Process of Change
กัลยาณมิตร (helping relationship
จงใจใช้แผนกระตุ้น (contingency management)
บังคับให้ทำสิ่งที่ดีกว่าทางอ้อม (stimulus control)
ให้เรียนรู้สิ่งตรงกันข้าม (counterconditioning)
การปลดปล่อยสังคม (social liberation)
การปลดปล่อยตนเอง (self liberation)
การใคร่ครวญผลต่อตนเอง (self reevaluation)
การใคร่ครวญผลต่อสังคมรอบข้าง (social reevaluation)
การระบายความมรู้สึก (Dramatic relief)
การปลุกจิตสำนึก (consciousness raising)
มีทั้งหมด 6 ขั้นตอน
ขั้นก่อนชั่งใจ (Pre-contemplation stage)
ขั้นชั่งใจ (Contemplation stage)
ขั้นเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติ (Preparation stage / Determination)
ขั้นปฏิบัติ (Action stage)
ขั้นคงไü้ซึ่งพฤติกรรมที่ต้องการ (Maintenance)
ขั้นยุติพฤติกรรมเดิมอย่างถาüร (Termination)