Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ข้าวสาลี(wheat), ใช้ทำเค้ก คุกกี้ ขนมปังชนิดแบน, 1.ใช้ตัวอย่างที่เตรียมไว้…

- - - - พิจารณาจากปัจจัยในการแบ่งเกรด
        
        ใช้
        
        จำนวนเมล็ดลีบ&แตกหัก
        
        เทตัวอย่างลงบนตะแกรงที่มีขนาดรู 1.626 x 9.545 mm
        
        ขนาดเมล็ดข้าวอยู่ที่ ยาว 5-8mm กว้าง 2.5-4.5mm
        
        วัตถุแปลกปลอม
        
        ใช้ภาพอ้างอิงตัวอย่างพร้อมคำบรรยายเพื่อเช็ค เช่นดูว่าเป็นรอยเปื้อนหรือเชื้อรา
        
        นน.ที่ทดสอบ/หน่วยปอนด์ต่อวินเชสเตอร์ บุเชล
        
        ถ้าสูงแสดงว่าโม่แป้งสาลีได้ในปริมาณที่สูง
        
        เมล็ดที่เสียหาย
        
        ดูจากสัดส่วนเมล็ดที่เสียจากความร้อนกับที่เสียหายจากสาเหตุอื่นที่ 50:15 g
        
        ไม่ใช้
        
        การตกตะกอน
        
        บอกคุณภาพโปรตีน
        
        ตกตะกอนได้ดี จะมีโปรตีนสูง กลูเตนแข็งแรง
        
        ตกตะกอนได้น้อย จะมีโปรตีนต่ำ กลูเตนไม่แข็งแรง
        
        ปริมาณเถ้า
        
        ตรวจสอบเพื่อให้ทราบปริมาณแร่ธาตุทั้งหมดของข้าวสาลีเพื่อปรับระดับเถ้าในแป้งให้ตรงตามมาตรฐาน
        
        Deoxynivalenol (DON)
        
        เป็นสารพิษที่ผลิตขึ้นจากเชื้อราชนิดฟูราเซียน
        
        ถ้ามีจะเป็นอันตรายต่อผู็บริโภค และสัตว์เลี่ยงเจ็บป่วย
        
        ปริมาณโปรตีน
        
        มีความสำคัญในเรื่องเช็คความแข็งแรงของกลูเตนและความสามารถในการดูดซับน้ำ
        
        การหาน้ำหนักเนื้อในเมล็ด 1,000 เมล็ด
        
        เป็นวิธีการวัดมวลของเนื้อในเมล็ดข้าวสาลี เพื่อใช้อธิบายส่วนประกอบของเนื้อในเมล็ดและศักยภาพในการสกัดแป้ง
        
        ปริมาณความชื้น
        
        ขั้นแรกในการบอกสมบัติในการโม่
        
        สิ่งเจือปนที่ขนาดต่างจากข้าวสาลีมากๆ
        
        เช่น เมล็ดวัชพืช ส่วนหักของต้นพืช เมล็ดข้าวโพด
        
        การทดสอบโม่แป้งในระดับห้องปฏิบัติการ
        
        เพื่อประเมินสมบัติในการโม่ ได้แก่แป้งที่สกัดได้และปริมาณของส่วนที่ไม่ใช้แป้ง
        
        รายงานเป็นค่าร้อยละของแป้งเปรียบเทียบกับส่วนที่โม่ได้ทั้งหมด
    - - การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องฟาริโนกราฟ
        
        วิธีการ
        
        1.ใช้ตัวอย่างแป้งสาลีที่มีความชื้นร้อยละ 14 ใส่ลงในถ้วยใส่ตัวอย่างของเครื่อง
        
        ในระหว่างการวิเคราะห์จะเติมน้ำลงในแป้งและผสมให้เกิดโด ระหว่างนั้นเครื่องจะทำการวัดและแสดงผลในรูปแบบกราฟ ซึ่งปริมาณน้ำที่เติมจะส่งผลต่อตำแหน่งของเส้นกราฟ
        
        ความสำคัญ
        
        ใช้พิจารณาสมบัติของแป้งที่ต้องนำมาผสมกันเพื่อให้ได้สมบัติที่ต้องการ
        
        ใช้พิจารณาความเป็นเนื้อเดียวกันของแป้ง
        
        ใช้พิจารณาปริมาณน้ำที่ต้องการในการทำให้เกิดโด
        
        ใช้วิเคราะห์ผลของวัตถุดิบที่มีต่อสมบัติในการผสม
        
        ผลที่ได้
        
        ความสามารถในการดูดซับน้ำของแป้ง
        
        เวลาที่เส้นกราฟขึ้นถึงเส้นกลาง
        
        เวลาที่แสดงความคงตัวของโด
        
        เวลาที่กราฟถึงจุดสูงสุด
        
        ดัชนีแสดงความทนต่อการผสมของโด
        
        เวลาที่โดเริ่มเสียสภาพ
        
        บ่งบอกถึงสมบัติของโดและกลูเต็นของตัวอย่างแป้งสาลี
        
        การวัดค่าสีของแป้ง
        
        วิธีการ
        
        ใช้เครื่องวัดค่าสี Minolta Chroma Meter โดยวางหัววัดให้สัมผัสกับตัวอย่าง แล้วทำการวัดค่า
        
        ความสำคัญ
        
        สีของแป้งสาลีจะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่แปรรูปได้
        
        ผลที่ได้
        
        ค่าที่ได้จะแสดงความขาวของแป้งสาลี
        
        พิจารณาจากค่าที่วัดได้ 3 แกน คือ ค่าความขาว (L), ค่าสีเขียว-แดง (a), ค่าสีน้ำเงิน-เหลือง (b*)
        
        การวัดค่า Falling number
        
        ผลที่ได้
        
        ถ้าค่ามีมากกว่า 300 sec แสดงว่ามีกิจกรรมของเอนไซม์ต่ำ ไม่การเกิดการงอกของข้าวสาลี
        
        ถ้าค่ามีน้อยกว่า 250 sec แสดงว่ามีกิจกรรมของเอนไซม์สูงการเกิดการงอกของข้าวสาลี
        
        ค่าที่ได้เป็นการวัดความหนืดของของผสมที่ชี้วัดถึง กิจกรรมของเอนไซม์
        
        วิธีการ
        
        2.ให้ความร้อน โดยแช่ใน water bath อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส คนอย่างต่อเนื่อง
        
        1.นำตัวอย่างแป้งสาลี 7 g.+ น้ำกลั่น 25 ml. เติมลงในหลอดแก้วที่มี stirror แล้วผสมให้เข้ากัน
        
        3.วัดค่าเวลาเป็นวินาที ที่ใช้วัดการตกของเข็มผ่านส่วนผสมของแป้งกับน้ำ
        
        ความสำคัญ
        
        ค่าฟอลลิ่งนัมเบอร์ => กิจกรรมของ
        เอนไซม์อะไมเลส => คุณภาพของผลิตภัณฑ์
        
        ถ้ามีกิจกรรมเอนไซม์มาก = มีน้ำตาลมาก สตาร์ชน้อย = โด มีลักษณะเหนียวและมีเนื้อสัมผัสที่ไม่ต้องการ
        
        การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องเอ็กเท็นซิกราฟ
        
        ผลที่ได้
        
        ความสามารถในการยืดตัวของโด ชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของโดและความสามารถในการยืดตัวโดยไม่ขาดออกจากกัน
        
        เป็นการวิเคราะห์แรงต้าน ซึ่งชี้ให้เห็นของความแข็งแรงของโดจากความต้านทานจากการยืดตัว
        
        ความแข็งแรงมาก = ต้านทานการยืดตัวมาก
        
        ความสำคัญ
        
        เติมสารเคมีลงในแป้ง => ลักษณะกราฟเปลี่ยน
        
        จึงสามารถปรับปริมาณสารที่จะเติมได้ โดยพิจารณาจากรูปกราฟ
        
        วิธีการ
        
        เตรียมตัวอย่าง โดยนำแป้งสาลีที่มีความชื้นร้อยละ 14 จำนวน 300 g. เตืมสารละลายเกลือ และผสมในเครื่องฟาริโนกราฟจนเกิดโด แล้วพักไว้ 5 นาที
        
        หลักการวิเคราะห์
        
        2.นำก้อนโดที่ได้ไปทำให้เป็นรูปทรงกระบอก แล้วนำไปยึดเข้ากับส่วนที่ใช้ดึงยืดของเครื่อง และพักไว้ 45 นาที
        
        3.ตะขอดึงของเครื่องก็จะเคลื่อนที่ลง จนยืดตัวโดขาดออกจากกัน เครื่องก็จะบันทึกและแสดงผลออกมาในรูปกราฟ ทำซ้ำอีก 2 ครั้ง *(ตัวอย่างเดิม)
        
        การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องแอลวีโอ
        
        ผลที่ได้
        
        เป็นการวิเคราะห์ความแข็งแรงของกลูเตน
        
        ถ้าใช้แรงเป่ามากจนทำให้แตกออก (ค่า P มาก) = โดมีความแข็งแรงมาก
        
        ถ้าโดมีการพองตัวมาก (ค่า L มาก) = โดมีความสามารถในการยืดตัวก่อนแตกออก
        
        ความสำคัญ
        
        ให้ผลที่ใช้ยืนยันความสอดคล้องกันของกระบวนการแปรรูปและผลิตภัณฑ์
        
        แป้งสาลีที่มีกลูเตนไม่แข็งแรง จะมี ค่า P สูง และมีค่า L ต่ำ = เป็นสมบัติที่ต้องการในผลิตภัณฑ์เค้กและผลิตภัณฑ์ขนมหวานอื่นๆ
        
        แป้งสาลีที่มีความแข็งแรงของกลูเตนสูง จะมีค่า P สูง = เป็นสมบัติที่ต้องการในผลิตภัณฑ์ขนมปัง
        
        วิธีการ
        
        พักไว้ในเครื่อง คุมอุณหภูมืที่ 25 องศาเซลเซียส 20 นาที
        
        ใช้เครื่องแอลโอวีเป่าลมทำให้โดแต่ละก้อนพองดป่งจนแตกออก โดยเครื่องจะบันทึกแรงดันภายในตัวอย่างที่พองตัว และแสดงในรูปกราฟ
        
        ใช้ตัวอย่างแป้งสาลี 250 g. + สลล.เกลือ => โด แล้วแบ่งเป็นก้อนเล็ก 5 ก้อน, Diameter 4.5 cm.
        
        การวิเคราะห์โดยเครื่องมิกโซกราฟ
        
        วิธีการ
        
        แป้งสาลีที่ชื้นร้อยละ14 จำนวน 35g วางในถ้วยแล้วเติมน้ำโดยใช้บิวเรต จากนั้นใส่เข้าไปในเครื่อง จะทำให้เกิดการผสมเป็นโด เครื่องจะทำการบันทึกข้อมูลและแสดงกราฟ
        
        ปริมาณน้ำส่งผลต่อเส้นกราฟ
        ถ้าน้ำน้อยเพิ่มความคงตัวโด กราฟจะขึ้นสูง
        
        ผลที่ได้
        
        เป็นการวิเคราะห์สมบัติของโดและกลูเตนโดยวัดแรงต้านของโดต่อการผสมของเข็ม
        
        ความสำคัญ
        
        ใช้ตัวอย่างน้อยและรวดเร็ว
        
        ใช้ดูผลการวิเคราะห์ในการคัดเลือกพันธ์ช่วงต้นของสายการผสม
        
        การวัดสมบัติการดูดน้ำด้วยเครื่องนี้มักใช้ทดสอบการดูดซับระหว่างการอบขนมปัง
        
        การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องกลูโทเมติก
        
        ผลที่ได้
        
        ร้อยละของกลูเตนที่เหลือบนตะแกรงเป็นค่า gluten index ซึ่งแสดงถึงความแข็งแรงของกลูเตน
        
        วิธีการ
        
        แป้งข้าวสาลี 10g ใส่ลงในส่วนที่ใช้สำหรับล้างเหนือตะแกรงโพลีเอสเตอร์
        
        ผสมและล้างตัวอย่างด้วยสารละลายเกลือ 5 นาที ทำการแยกกลูเตนเปียกที่ได้และนำเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง
        
        ชั่งน้ำหนักส่วนที่เหลือบนตะแกรงและส่วนที่ลอดผ่านตะแกรง
        
        ความสำคัญ
        
        จะทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและคุณภาพของกลูเตนในตัวอย่างแป้ง
        
        กลูเตนที่ได้นั้นมีผลต่อความยืดหยุ่นและยืดตัวของโด
        
        การวิเคราะห์โดยใช้เครื่องอะไมโลกราฟ
        
        ผลที่ได้
        
        เครื่องจะวัดแรงต้านการกวนของใบกวน เป็นการวัดค่าความหนืด โดยถ้าแรงต้านการกวนเพิ่มขึ้นแสดงถึงความหนืดที่สูงขึ้น
        
        ส่วนผสมที่เกิดลักษณะข้นหนืดแสดงถึงการมีกิจกรรมของเอนไซม์น้อย ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดี
        
        วิธีการ
        
        ใช้แป้งสาลี 65g ผสมน้ำกลั่น 450ml ให้อยู่ในรูปสารแขวนลอย ให้ความร้อนและกวนด้วยเครื่องอะไมโลกราฟ
        
        ความสำคัญ
        
        เป็นการวัดสมบัติสตาร์ชของแป้งและกิจกรรมของเอนไซม์ซึ่งเป็นผลจากการงอกของเมล็ด
        
        การงอกของเมล็ดส่งผลให้กิจกรรมเอนไซม์สูง ทำให้ได้โดที่เหนียวเหนอะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมีเนื้อสัมผัสไม่ดี
        
        เครื่อง rapid visco analyzer (RVA)
        
        วิธีการ
        
        แป้งสาลี 3.5g ผสมน้ำ 25ml ให้เกิดเป็นสารแขวนลอย แล้วใส่ในเครื่อง RVA กวนและให้ความร้อน 6นาที
        
        ผลที่ได้
        
        เส้นกราฟแสดงผลจากเครื่อง ซึ่งแสดงความหนืดของสตารช์ โดยวัดแรงต้านของส่วนผสมกับใบกวน
        
        ความสำคัญ
        
        วัดสมบัติของสตาร์ชโดยวัดค่า stirring number ซึ่งสัมพันธ์กับความเสียหายของแป้งสาลีที่เกิดจากการงอก เป็นการวัดกิจกรรมของเอนไซม์
        
        วัดความหนืดทั้งคู่ เครื่องอะไมโลกราฟนิยมใช้มากกว่า ส่วนRVA จะใช้ตัวอย่างและเวลาน้อยกว่า
        
        เครื่อง Solvent Retention Capacity (SRC)
        
        วิธีการ
        
        ชั่งตัวอย่างแป้งสาลี 5 กรัมใส่ในหลอด 4 หลอด
        แล้วเติมสารละลายแต่ละชนิดปริมาณ 25 กรัมได้แก่
        -น้ำที่ผ่านการกำจัดไอออน -สารละลายซูโครส
        -สารละลายโซเดียมคาร์บอเนต -สารละลายกรดแลกติก
        
        เข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง 10 นาที พลิกหลอด
        และถ่ายสารละลายออกโดยทิ้งไว้ 10นาที
        
        ชั่งน้ำหนักหลอดตัวอย่างและตัวอย่างที่เหลือในหลอด
        
        ผลที่ได้
        
        ค่าที่วัดได้คือค่าSRC คือร้อยละของน้ำหนักแป้งจากตัวอย่างแป้งที่มีความชื้นตั้งต้นร้อยละ14 ค่าที่รายงานเป็นค่าเฉพาะของสลล.แต่ละชนิด
        
        SRC กรดแลกติก สัมพันธ์กับลักษณะของกลูเตน
        
        SRC โซเดียมคาร์บอเนตเกี่ยวกับระดับของสตาร์ชที่เสียหาย
        
        SRC ซูโครสเกี่ยวกับปริมาณของเพนโทแซน
        
        SRC น้ำคือผลจากส่วนประกอบในแป้งที่ดูดซับน้ำได้
  - - - ร้องขอให้ครวจซ้ำ
    - - ค่าเฉลี่ยของแต่ละส่วนย่อยทีสุ่มมาต้องไม่น้อยกว่าค่าร้อยละต่ำสุดหรือไม่สูงเกินค่าร้อยละสูงสุดของเกณฑ์ที่ตั้งไว้
      - ค่าร้อยละของส่วนย่อยใดๆต้องมีผลต่างไม่เกิน 1% ตัวอย่าง
        
        ให้มีปริมาณโปรตีน 14% แปลว่า ค่าเฉลี่ยของปริมาณโปรตีนทุกล็อต ต้องมีค่าอย่างน้อย14% และไ่มีล็อตย่อยใดที่มีต่ำกว่า 13.5% และปริมาณโปรตีนของล็อตย่อยทุกล็อตต้องต่างกันไม่เกิน 1%
      - ต้องไม่มีค่าร้อยละของส่วนย่อยใดมีค่าต่ำกว่า 0.5%ของเกณฑ์ต่ำสุด และเกินกว่า 0.5%ของเกณฑ์สูงสุด
  - - - ส่งออกเกรดที่ระบุเท่านั้น
    - - ส่งออกเกรดที่ระบุหรือสูงกว่า
  - - - ลีเวอโทรนิค (Levertronic)
      - อิเล็กโทรนิคแบบสมบูรณ์ (Full electronic)
- - - - ผสมแป้งสาลีกับสารผสมของยีสต์กับน้ำและสารละลายเกลือ นวดจนเนียนและขึงเป็นแผ่นบางได้
      - บ่ม28องศาเซลเซียส 50นาที
      - นำออกมาแบ่งเป็นก้อนเท่าๆกัน แล้วพักไว้10-20นาที แล้วกดให้เป็นแผ่นด้วยมือ
      - บ่มต่อให้ขึ้นฟู 45นาที 500องศาเซลเซียส 1-2นาที
    - - ทดสอบสมบัติของโดด้านความแข็งแรง ความสามารถในการยืดตัว ความเหนียวติดกัน
    - - การทดสอบโดยการแปรรูปเป็นขนมปังชนิดแบนเป็นการให้ข้อมูลกับผู้ผลิตเกี่ยวกับสมบัติในการแปรรูปของข้าวสาลี
  - - - ปั้นแป้งสาลีและยีตส์ให้เข้ากัน เติมเกลือและน้ำลงไป ทำการนวดผสมให้เกิดโด
      - เติมโดที่หมักแล้วผสมเข้าด้วยกัน คลุมโด และพักไว้20นาที
      - แบ่ง ขึ้นรูปเป็นทรงกระบอก พักไว้โดยการคลุมโด และพักให้ฟู90นาที นำไปอบ25นาที
    - - ทดสอบสมบัติของโดด้านความแข็งแรงและความสามารถในการยืดตัว
    - - ทำให้ได้ข้อมูลที่ใช้หาสภาวะที่เหมาะสมในการแปรรูป โดยดูลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ได้
  - - - การวิเคราะห์ด้านสี
        
        ความขาว
        
        ความเหลือง
        
        ความสว่าง
      - เนื้อสัมผัส
        
        บะหมีผ่านการทำให้สุก
        
        การสปริงตัว (การคืนตัวเมื่อกัดคำแรก)
        
        การเชื่อมติด (โครงสร้างของเส้นบะหมี่)
        
        ค่าความแข็ง (แข็งหรืออ่อน)
        
        การเคี้ยว (ความแน่นเนื้อ + การสปริงตัว + การเชื่อมติด)
      - สมบัติในการแปรรูป
        
        พิจารณานจากสมบัติของโด
        
        ความเรียบเนียน
        
        ความไม่เหนียวติดกัน
        
        ความสามารถในการยืดตัวเมื่อถูกดึง
        
        ตัดเป็นเส้นได้ง่าย
    - - ช่วยให้สามารถสร้างความสมดุลระหว่างความแข็งแรงและความสามารถในการยืดตัวของกลุเตน เพื่อไม่ให้โดฉีกขาดระหว่างการแปรรูป ตลอดจนคุณภาพของสีและเนื้อสัมผัสให้เป็นไปตามที่ต้องการของลูกค้า
    - - กดรีดผ่านลูกกลิ้งชนิดคู่ของเครื่องทำเส้นบะหมีที่มีช่องว่างอยู่ที 3 mm.
      - ประกบแผ่นโดที่รีดได้ 2 แผ่นเข้าด้วยกัน และกดรีดผ่านลูกกลิ้งที่มีช่องว่าง 4-5 mm. => พัก 30 นาที
      - นำแป้งสาลี 1,000 g. + น้ำเกลือ 12-20 g. => นวดให้เกิดโดที่มีลักษณะร่วน => พัก 30 นาที
      - นำไปรีดผ่านลูกกลิ้งที่มีการปรับขนาดช่องว่างให้ลดลงเรื่อยๆ จนได้ความหนาของแผ่นโด 1-2 mm.
  - - - พิจารณา
        
        ลักษณะภายใน
        
        ความสม่ำเสมอของเซลล์, ขนาดของเซลล์, และความหนาของผนังเซลล์ที่เกิดจากฟองอากาศในเนื้อเค้ก
        
        เนื้อสัมผัส
        
        วัดความนุ่มของเนื้อเค้กด้วยเครื่อง Texure analyzer
        
        ลักษณะภายนอก
        
        รูปร่าง, สีของเปลือก, และลักษณะปรากฏ
    - - ช่วยให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เค้กสปันจ์เป็นที่นิยมบริโภคกันมาก ให้ออกมาเป็นที่ต้องการและยอมรับ
    - - 1.ผสม ไข่ 100g.+ น้ำ 40g. + น้ำตาล 100g. พร้อมกับให้ความร้อนต่ำ => เนื้อส่วนผสมมีลักษณะเป็นโฟมที่มีความถ่วงจำเพาะ 25±1 g/ml, Temp 30±1 degree celcius
      - 2.เติมแป้ง ผสมให้เข้ากัน และเทลงพิมพ์เค้ก => อบที่ 180 degree celcius, Time 30 min => นำออกจากเตาอบพักไว้ให้เย็น
  - - - ผสมแป้งสาลีและยีตส์ แล้วละลายส่วนผสมอื่นๆกับน้ำ เทผสมลงนวดให้เข้ากัน เติมเนยขาวจนได้โดเนื้อเนียน ขึงเป็นแผ่นบางได้ไม่ฉีกขาด
      - คลึงให้กลม บ่ม30องศาเซลเซียส 15นาที
      - ไล่อากาศโดยเข้าเครื่องรีดให้เป็นแผ่นพับทบ และบ่มต่ออีก50นาที แล้วไล่อากาศอีกครั้ง
      - บ่มต่ออีก 25นาที ปั้นเป็นรูปทรงกระบอกและบ่มให้ฟูในพิมพ์อีก 62นาที
      - อบที่215 องศาเซลเซียส 24 นาที และทำให้เย็นที่อุณหภูมิ
    - - ทดสอบสมบัติของโดด้านความแข็งแรง ความสามารถในการยืดตัว ความเหนียวติดกัน
    - - เพื่อดูข้อมูลลักษณะคุณภาพของขนมอบ
      - ผู้ผลิตต้องการแป้งที่มีความคงตัว ผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาตร สี เนื้อสัมผัสคงที่
  - - - ลักษณะภายนอก
        
        พิจารณา
        
        ลักษณะปรากฏ
        
        สี
        
        ความเรียบเนียนของพื้นผิว
        
        ความใส
        
        การเกิดจุด
        
        รอยแตก
      - สมบัติด้านการแปรรูป
        
        พิจารณา
        
        ความสามารถในการยืดตัวได้เมื่อดึงให้ยืด
        
        ความแข็งแรงของโด
      - คุณภาพในการทำให้สุก
        
        พิจารณาสมบัติทางประสาทสัมผัส
        
        เส้นไม่เหนียวติดกัน
        
        กลิ่นรส
        
        เนื้อสัมผัสแน่นเมื่อกัด
    - - ช่วยให้สามารถหาสภาวะในการผลิตระดับอุตสาหกรรมได้อย่างเหมาะสม
    - - ปรับเป็นความเร็วสูง 4 นาที => โด
      - นำโดที่ได้ใส่ extruder ทำการผสมภายใต้แรงดันและบีบอัดผ่านส่วนหัว ได้ออกมาเป็นเส้น => ตัดตามความยาวที่ต้องการ => ทำให้แห้ง
      - 1.นำตัวอย่างเซโมลินา 100 g. + น้ำ 31.5 g. => เทใส่ถังผสมและปั่นความเร็วต่ำ 30 วินาที
  - - - ดูสมบัติในการแผ่ตัวของคุ้กกี้และลักษณะรอยแตกที่ผิวหน้าเทียบกับตัวอย่างควบคุม
    - - เป็นการทดสอบแบบสากลที่นิยมใช้
    - - ร่อนน้ำตาล นมพร่องมันเนย โซเดียมไบคาร์บอเนตเข้าด้วยกัน เติมเนยขาวผสมให้เป็นครีม
      - แบ่งครีม 37.6กรัมมาผสมน้ำ สารละลายโซเดียมไบคาร์บอเนต สารละลายแอมโมเนียมคลอไรด์ เกลือ แป้งสาลี ผสมให้เกิดโด
      - คลึงแผ่นให้หนาเท่ากัน ตัดเป็นชิ้น วางบนแผ่นรองคุ้กกี้ อบ205องศาเซลเซียส 11นาที
- - - - เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดง&เนื้อในเมล็ดสีแดง
        
        ปลูกในฤดูหนาว
        
        Soft Red Winter (SRW :<3:)
        
        ปลูกทางฝั่งตะวันออกของอเมริกา
        
        เนื้อในเมล็ดอ่อน โปรตีนต่ำ
        
        แป้งเค้ก
      - เปลือกหุ้มเมล็ดสีขาว
        
        Soft White (SW) :<3:
        
        ปลูกทางตะวันตกเฉียงเหนือฝั่งแปซิฟิกของอเมริกา
        
        เนื้อในเมล็ดอ่อน โปรตีนต่ำ ความชื้นต่ำ ได้โดที่อ่อนนุ่ม
    - - เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดง&เนื้อในเมล็ดสีแดง
        
        ปลูกในฤดูใบไม้ผลิ
        
        Hard Red Spring (HRS) :<3:
        
        ปลูกทางตอนเหนือของอเมริกา
        
        เมล็ดใสแข็งเหมาะต่อการโม่ มีโปรตีนสูง
        
        ยืดหยุ่นแข็งแรง อุ่มน้ำได้สูง
        
        แป้งขนมปัง
        
        ปลูกในฤดูหนาว
        
        Hard Red Winter (HRW) :<3:
        
        ปลูกในที่ราบและแคริฟอร์เนีย
        
        เมล็ดแข็งปานกลาง มีโปรตีนปานกลางถึงสูง
        
        แป้งอเนกประสงค์
      - เปลือกหุ้มเมล็ดสีขาว
        
        Hard White (HW) :<3:
        
        ปลูกในแคริฟอร์เนีย โคโลราโด วอชิงตัน เป็นต้น
        
        เนื้อในเมล็ดแข็ง โปรตีนปานกลางถึงสูง
    - - ปลูกทางเหนือและตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
      - เนิ้อในเมล็ดสีเหลือง
      - มีความแข็งมากที่สุด มีโปรตีนสูง
      - นิยมบดหยาบเป็นซาโมลินา (samolina)
    - - ข้าวสาลีพันธุ์อื่นๆ
    - - ข้าวสาลีชนิดหนึ่ง 90% ชนิดอื่นมากกว่า 10%