Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 2 ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ, A6480143 นางสาว ณัฐสุดาสกาว…
บทที่ 2 ทฤษฎีในการสร้างเสริมสุขภาพ
แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ
แนวคิด
การที่บุคคลใดจะมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงจากการเป็นโรคบุคคลนั้นจะต้องมีความเชื่อว่าเค้ามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคและปฏิบัติในการหลีกเลี่ยงจากการเป็นโรค
ปัจจัยร่วม
เป็นปัจจัยที่ไม่มีผลโดยตรงต่อพฤติกรรมสุขภาพ ได้แก่
ปัจจัยด้านประชากร = เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา
ปัจจัยด้านสังคมวิทยา = บุคลิกภาพ กลุ่มเพื่อนบรรทัดฐานทางสังคม ค่านิยม วัฒนธรรม
ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน = ระบบบริการสุขภาพ
องค์ประกอบของแบบจำลององค์ประกอบของแบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพ
การรับรู้ต่อโอกาสเสี่ยงของการเป็นโรค
การรับรู้ความรุนแรงของโรค
การรับรู้ประโยชน์ที่จะได้รับและค่าใช้จ่าย
แรงจูงใจด้านสุขภาพ
ปัจจัยร่วม
PRECEDE-PROCEED Model
เป็นเครื่องมือสำคัญของเป็นเครื่องมือสำคัญของนักสุขศึกษาที่นำมาประยุกต์ใช้การวางแผนประเมินโครงการส่งเสริมสุขภาพและสุขศึกษา
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ทางสังคม (Phase1:SocialAssessment)
เป็นการพิจารณา และวิเคราะห์ “คุณภาพชีวิต”ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์
ขั้นตอนที่ 2 วิเคราะห์ทางระบาดวิทยา (Phase2:EpidemiologicalAssessment)
วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพที่สำคัญวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพที่สำคัญอะไรบ้างข้อมูลทางระบาดวิทยาชี้ให้เห็นถึงการเจ็บป่วยการเกิดโรค และภาวะสุขภาพ
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์ด้านพฤติกรรม
(Phase 3 : Behavioral Assessment)
ปัญหาด้านสุขภาพอนามัยที่ได้จากขั้นที่หนึ่งและสองจะนำปัญหาด้านสุขภาพอนามัยที่ได้จากขั้นที่1-2จะนำมาวิเคราะห์ต่อเพื่อหาสาเหตุที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 4 วิเคราะห์ทางการศึกษา (Phase4:EducationalAssessment)
ระยะนี้สาเหตุพฤติกรรมสุขภาพที่ระบุไว้ในระยะที่สองสาเหตุของพฤติกรรมประกอบด้วย 3 กลุ่มปัจจัยได้แก่
1) ปัจจัยนำหนึ่งปัจจัยนำ หมายถึง ปัจจัยที่เป็น
พื้นฐานและก่อให้เกิดแรงจูงใจในการแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น ความรู้และความเชื่อ
2) ปัจจัยเอื้อ หมายถึง คุณลักษณะของสิ่งแวดล้อมทางด้านร่างกาย สังคม วัฒนธรรม
3) ปัจจัยเสริม หมายถึง สิ่งที่บุคคลจะได้รับหรือคาดว่าจะได้รับจากบุคคลอื่น
ขั้นตอนที่ 5 การวิเคราะห์ทางบริหาร (Phase 5 : Administrative and Policy Assessment)
เป็นการประเมินความสามารถของการบริหารและนโยบายของการจัดการโครงการส่งเสริมสุขภาพ
ขั้นตอนที่ 6 การปฎิบัติการ (Phase 6 : Implementation)
ดำเนินงานตามกลวิธีวิธีการและกิจกรรมโดยผู้รับผิดชอบในแต่ละเรื่องและประเด็นที่กำหนดไว้
ขั้นตอนที่ 7 การประเมินกระบวนการ (Phase 7 : Process Evaluation)
เพื่อประเมินถึงบริหารจัดการที่มีผลต่อการดำเนินโครงงานที่วางไว้
ขั้นตอนที่ 8 การประเมินผลกระทบ (Phase 8 : Impact Evaluation)
การประเมินผลลัพธ์ที่เกิดจากการดำเนินโครงงานในระยะสั้น
ขั้นตอนที่9
การประเมินผลลัพธ์
เป็นการประเมินผลรวบยอดของวัตถุประสงค์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นและประโยชน์ที่ได้รับด้านสุขภาพหรือคุณภาพชีวิตซึ่งอาจใช้เวลานาน
ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม
บุคคลได้รับการช่วยเหลือจากการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในสังคมด้านอารมณ์ ข้อมูล ข่าวสาร ด้านการเงินรายงาน หรือ วัตถุสิ่งของต่างๆ
ประเภทของการสนับสนุนทางสังคม
1) สนับสนุนทางด้านอารมณ์
(Emotional Support)
การใกล้ชิดสนิทสนม ได้แก่ พฤติกรรมซึ่งแสดงออกด้วยการรับฟังอย่างสนใจแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจ
2) การสนับสนุนด้านการประเมิน
(Appraisal support)
การได้รับข้อมูลย้อนกลับ การได้รับคำการได้รับข้อมูลย้อนกลับการได้รับคำรับรองซึ่งจะทำให้ผู้รับเกิดความพอใจนำไปประเมินตนเอง
3) การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร (Information support)
เป็นการได้รับคำแนะนำเป็นการได้รับคำแนะนำคำปรึกษาที่สามารถนำไปแก้ไขที่ประเชิญอยู่ได้
4) การสนับสนุนทางด้านการเงินแรงงานและสิ่งของซึ่งเป็นพฤติกรรมการช่วยเหลือโดยตรงต่อความจำเป็นพื้นฐาน
ทฤษฎีแรงสนับสนุนทางสังคม
แนวคิดนี้มีประโยชน์มากในการสร้างเครือข่ายเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ และการดูแลรักสาโรคเรื้อรัง กลุ่มผู้ป่วยเอดส์ กลุ่มผู้ป่วยเบาหวานกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น กลุ่มแอโรบิก กลุ่มวิ่ง กลุ่มปั่นจักรยาน กลุ่มปฎิบัติธรรม
ทฤษฎีขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
หลักกระบวนการช่วยเปลี่ยนแปลง (Proceeds of Charges)
1) การปลุกจิตสำนึก(construction raising) เป็นการใช้วิธีต่างๆบอกให้รู้ผลเสียของการไม่เปลี่ยนและผลดีของการเปลี่ยนพฤติกรรม
2) การระบายความรู้สึก (Dramatic Effect) เพื่อกระตุ้นหรือผักดันจิตใจ อารมณ์เกิดความอยากเปลี่ยนแปลง
3) การไข้ควรผลต่อสังคมรอบข้าง (social reeducation) เช่นหนูตอบไปว่าถ้าตนเองดื่มแอลกอฮอล์จัดอยู่ ต่อไปลูกจะเป็นอย่างไร
4) การใคร่ครวญผลต่อตนเอง (self reevaluation) เช่นจินตนาการว่าถ้าเอาแต่นอนโซฟาดูทีวี ร่างกายของตนเองต่อไปจะเป็นอย่างไร
5) การปลดปล่อยตนเอง (self liberating) คือ การพยายามให้มีทางเลือกในการเปลี่ยนแปลงงานวิจัยบ่งบอกว่าเรามีทางเลือกสองทางจะมีความมุ่งมั่นมากกว่ามีทางเลือกเดียว
6) การปลดปล่อยสังคม (social liberating) คือ อาศัยความรู้สึกว่าเป็นการปลดปล่อยจากการถูกกดขี่เอาเปรียบทางสังคมมา
7) ให้เรียนรู้สิ่งตรงข้าม (counterconditopioning) เช่น ให้เรียนรู้การตอบสองผ่อนคลายเพื่อแก้ปัญหาเครียดให้เรียนรู้การเป็น คนกล้าพูดกล้าทำ กล้าแสดงออก
1 more item...
แบบจำลองส่งเสริมสุขภาพ
ข้อตกลงเบื้องต้นของแบบจำลอง
1) บุคคลแสวงหาสภาวะของชีวิตที่สร้างสรรค์โดยการแสดงความสามารถด้านสุขภาพที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน
2) บุคคลมีความสามารถในการสะท้อนการตระหนักรู้ในตนเอง
3) บุคคลให้คุณค่าแก่การเจริญเติบโตในทางที่บวก
4) บุคคลแสวงการควบคุมพฤติกรรมของตนเอง
5) บุคคลซึ่งประกอบด้วย กาย จิตสังคม
มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
6) บุคคลากรด้านสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อม
มโนทัศน์หลักของแบบจำลอง
1) ลักษณะเฉพาะและประสบการณ์ของบุคคล
ปัจจัยส่วนบุคคล
ปัจจัยด้านชีวะวิทยา
ปัจจัยด้านจิตวิทยา
ปัจจัยด้านสังคมวัฒนธรรม
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องพฤติกรรมที่เคยปฏิบัติในอดีตมีอิทธิพลโดยตรงต่อการปฎิบัติพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ
2) ความคิดและอารมณ์ต่อพฤติกรรม
การรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรม
การรับรู้อุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรม
การรับรู้ความสามารถของตนเอง
ความรู้สึกที่มีต่อพฤติกรรม หมายถึง ความรู้สึกทางบวกและทางลบที่เกิดขึ้นก่อน ระหว่างและ หลังการปฎิบัติพฤติกรรม
อิทธิพลระหว่างบุคคล หมายถึง พฤติกรรม ความเชื่อ
3) พฤติกรรมผลลัพธ์ประกอบด้วย 3 อย่าง ได้แก่
ความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพฤติกรรม
ความจำความจำเป็นอื่นและทางเลือกอื่นที่เกิดขึ้น
พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ
A6480143 นางสาว ณัฐสุดาสกาว ขาวสันเทียะ